ถุงยางอนามัยเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะนอกเหนือจากเรื่องคุมกำเนิดแล้ว ถุงยางอนามัยช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อ นั่นหมายถึงผู้คนเป็นวงกว้างมีการตระหนักและเลือกที่จะป้องกันตัวเองกันเพิ่มมากขึ้น และแบรนด์ถุงยางอนามัยที่ขายดีและถือครองอันดับ 1 ในส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกคงหนีไม่พ้น Durex ที่คนไทยคุ้นตากันดี
ดูเร็กซ์เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องช่องทางการจัดจำหน่าย พัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายรองรับกับความต้องการ และโฟกัสที่การทำตลาดเพื่อสร้าง brand awarness อย่างต่อเนื่องในหลายสื่อ หากได้พอติดตามงานโฆษณากันอยู่บ้าง เราจะคุ้นเคยกันดีกับงานของดูเร็กซ์ ซึ่งจะมีวิธีในการนำเสนอความเป็นแบรนด์ของตัวเองอย่างมีเอกลักษณ์ วันนี้เราจึงยกเรื่องราวความเป็นมาและข้อเท็จจริงจาก ดูเร็กซ์ แบรนด์ถุงยางอนามัยอันดับ 1 ของโลกมาให้ได้ทราบกัน
1. จุดเริ่มต้นของ Durex เกิดขึ้นที่อังกฤษ เมื่อปี 1915 “บริษัท ลอนดอน รับเบอร์ จำกัด” ก่อตั้งโดยนาย LA Jackson ซึ่งตอนแรกบริษัทเป็นผู้นำเข้าถุงยางเพื่อมาจำหน่าย พร้อมกับจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับผมสำหรับร้านทำผม แต่ต่อมาได้มีการจดทะเบียนแบรนด์สินค้า Durex ของตัวเองขึ้นในปี 1929
2. ถุงยางอนามัย Durex วางขายอย่างเป็นทางการในอังกฤษ และได้ออกสินค้าที่เป็นถุงยางอนามัยที่มีสารหล่อลื่นครั้งแรกในช่วงปี 1950s
3. Durex เป็นผู้ผลิตถุงยางอนามัยรายแรกที่ใช้เทคโนโลยี electronic testing มาทดสอบถุงยางก่อนวางขายเพื่อสร้างมาตรฐานที่ดีที่สุดให้แก่ถุงยางอนามัย และยังเป็นแบรนด์แรกที่ใช้หลักกายวิภาคศาสตร์มาเป็นต้นแบบในการดีไซน์ถุงยางอนามัยให้เหมาะกับผู้ใช้งานอีกด้วย
4. ในขั้นตอนการทดสอบถุงยางอนามัย หากมีถุงยางแม้แต่ชิ้นเดียวไม่ผ่านการทดสอบมาตรฐานของ Durex ถุงยางทั้งล็อตผลิตจำนวน 432,000 ชิ้น จะไม่สามารถออกจากโรงงานได้
5. คนเอเซียคือกลุ่มที่ใช้ถุงยางอนามัย Durex มากที่สุด
6. ปี 2538 Durex เปิดตัวถุงยางอนามัยรุ่นมีสีและกลิ่นขึ้นครั้งแรก
7. “Durex Avanti” ครั้งแรกกับการเปิดตัวถุงยางอนามัยที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำยางในปี 1997 โดย Durex ได้พัฒนา polyurethane แบบสังเคราะห์ ขึ้นมาเพื่อให้ถุงยางอนามัยมีความบางและยืดหยุ่นกว่ายางแบบธรรมชาติ และผู้ที่มีอาการแพ้น้ำยางก็สามารถใช้ได้อีกด้วย
8. Durex เป็นถุงยางอนามัยแบรนด์แรกที่มีการสำรวจและเก็บสถิติเกี่ยวกับเซ็กซ์ จากกลุ่มคนในหลายประเทศทั่วโลกเป็นประจำทุกปี
9. ปี 2001 Durex เปิดตัว Pleasuremax® เป็นถุงยางอนามัยรุ่นที่ถูกดีไซน์มาเพื่อมอบความสุขให้แก่ผู้หญิงมากยิ่งขึ้นด้วยปุ่มยางและเส้นริ้วบนพื้นผิวถุงยางด้านนอก
10. Durex ออกผลิตภัณฑ์เจลหล่อลื่น Play® ครั้งแรกเมื่อปี 2003
11. ชื่อแบรนด์ Durex นั้นย่อมาจาก “Durability, Reliability, and Excellence”
12. ในต่างประเทศ Durex จะแบ่งหมวดจำหน่ายสินค้าเป็นสามประเภท ได้แก่ ถุงยางอนามัย เจลหล่อลื่น และเซ็กส์ทอย แต่สำหรับประเทศไทยเซ็กส์ทอยยังถือเป็นสินค้าผิดกฎหมาย
13. แรกเริ่มตามที่กล่าวไปข้างต้น บริษัท London Rubber คือผู้ริเริ่มแบรนด์ถุงยางอนามัยดูเร็กส์ก่อนจะควบรวมกลายเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท SSL International และต่อมาในปี 2010 SSL ได้ถูกขายให้บริษัท Reckitt Benckiser Group plc ไปในราคา 2.5 พันล้านยูโร (Reckitt Benckiser เป็นบริษัท FMCG รายใหญ่ในอังกฤษ) เท่ากับปัจจุบัน Durex อยู่ภายใต้การบริหารของ Reckitt Benckiser Group plc
14. Durex เป็นแบรนด์ผู้นำในการผลิตถุงยางอนามัยด้วยยอดผลิต 1,000 ล้านชิ้นต่อปี จากโรงงานที่ตั้งอยู่ใน 17 ประเทศ ซึ่งจำหน่ายสินค้าออกไปใน 140 ประเทศทั่วโลก ส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกอยู่ที่ 35% ส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐ 15%
15. มาตรฐานสากลในการผลิตถุงยางอนามัยกำหนดตามมาตรฐานว่าจะต้องสามารถบรรจุอากาศได้ 18 ลิตร ใน “การทดสอบแรงอัดอากาศ” โดยถุงยางอนามัยของดูเร็กซ์สามารถบรรจุอากาศได้ 40 ลิตร โดยไม่ระเบิด รวมทั้งมีการอัดน้ำเข้าไปในถุงยางอนามัยเพื่อทดสอบการรั่วซึมของของเหลว
16. สำหรับถุงยางอนามัย Durex ในไทย มีวางจำหน่ายทั้งหมด 12 รุ่น ซึ่งรุ่นล่าสุดคือ ดูอัล เพลย์เชอร์
17. Durex รุ่นที่ขายดีที่สุดในไทยคือรุ่น คิงเท็ค
Source: Slideshare
Source: Durexusa.com
Source: Reckitt Benckiser Group