Meta เพิ่มเครื่องมือ Ads ใหม่บวกพลัง AI ติดอาวุธ Marketer ไทยเพิ่มยอดขาย

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

เข้าสู่ปี 2025 Meta ไม่ปล่อยให้รอนานประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่เอาใจนักการตลาดไทยและทั่วโลก ฟีเจอร์ที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญโฆษณาให้สร้างผลลัพธ์ได้สูงสุดโดยมีเทคโนโลยี AI มาช่วยด้วย โดยงานนี้ คุณนิโคลา เมนเดลซัห์น ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจระดับโลกของ Meta บินตรงมาสิงคโปร์ พร้อมกับแถลงประกาศข่าวนี้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้คุณนิโคลายังเปิดเผยข้อมูลผลประกอบการปี 2567 และอัปเดตเกี่ยวกับเครื่องมือ Generative AI และฟีเจอร์ใหม่ๆที่จะมีใน Threads ด้วย

ฟีเจอร์ใหม่เริ่มใช้ก.พ.นี้!

สำหรับฟีเจอร์ใหม่ที่ Meta จะเพิ่มเข้ามาช่วยให้การสร้างแคมเปญนั้นทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นมีอยู่ 3 อย่างด้วยกันนั่นก็คือ

1.Opportunity Score: เช็คคะแนนประสิทธิภาพแคมเปญแบบเรียลไทม์ใน Ads Manager พร้อมคำแนะนำเพิ่มเติม ฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มยอด Conversion ได้แบบเห็นผล ซึ่งจากการจากการทดสอบในเอเชียแปซิฟิก คะแนน Opportunity Score ช่วยลดต้นทุนต่อผลลัพธ์ได้เฉลี่ย 5% เลยทีเดียว

2.Meta Advantage+: ยกระดับการตั้งค่าแคมเปญ Advantage+ ให้ธุรกิจเข้าถึงประสิทธิภาพสูงสุดของ AI ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญขายของ ติดตั้งแอป หรือหา Lead ก็สามารถเปิดใช้งาน AI ช่วยปรับแต่งแคมเปญได้แบบอัตโนมัติ หรือจะปรับแต่งแบบ Custom ก็ทำได้เช่นกัน

3.Advantage+ Leads: อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยสร้างแคมเปญหา Lead ให้แบบเต็มรูปแบบ ด้วยระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI ช่วยให้หาลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น จากผลการทดสอบ แคมเปญ Leads ที่เปิดใช้ Advantage+ มี Cost per lead) ต่ำกว่าแคมเปญที่ปิด Advantage+ โดยเฉลี่ย 14%

มั่นใจ AI คืออนาคตของการโฆษณา

คุณนิโคลา ย้ำให้เราฟังด้วยว่า AI จะเปลี่ยนโฉมหน้าวงการโฆษณาไปอย่างมากและ Meta ก็พร้อมพัฒนาเครื่องมือ AI เพื่อช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดเข้าถึงเทคโนโลยี และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญได้ตามต้องการต่อไป และแม้จะใช้ Advantage+ แต่ธุรกิจก็ยังควบคุมและปรับแต่งแคมเปญได้เอง

แบรนด์และผู้ลงโฆษณาไม่จำเป็นต้องใช้แคมเปญAdvantage+ sales หากไม่ต้องการใช้การเพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI ขั้นสูงของเรา ในการตั้งค่าใหม่นี้ พวกเขาสามารถเห็นได้อย่างง่ายดายว่า Advantage+ ถูกปิดอยู่หรือไม่ ผ่านปุ่มสลับในแถบด้านข้าง อย่างไรก็ตาม แคมเปญ Advantage+ shopping เป็นหนึ่งในโซลูชันโฆษณาที่เติบโตเร็วที่สุดของเรา และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้อย่างกว้างขวาง โดยผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าแคมเปญโฆษณาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ใช้แคมเปญ Advantage+ shopping มีผลตอบแทนต่อค่าใช้จ่ายโฆษณา (ROAS) สูงกว่าถึง 4 เท่า และในขณะที่เราก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของเครื่องมือโฆษณาที่ขับเคลื่อนด้วย AI สิ่งที่ Meta ให้ความสำคัญที่สุดคือการช่วยให้แบรนด์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญตามความต้องการ นี่คือเหตุผลที่เราจะยังคงลงทุนในเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดแนวทางให้ AI ของเราทำงานได้ตรงตามเป้าหมายของพวกเขา” คุณนิโคลา ระบุ

สรุปผลงาน Meta ปี 2567

คุณนิโคลายังอัพเดทผลงานของ Meta ในแง่ของการเป็นผู้ช่วยนักการตลาดเอาไว้ด้วยกันหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น

ผู้ใช้งาน 3,300 ล้านคนต่อวัน: แพลตฟอร์มของ Meta ยังคงได้รับความนิยม Facebook, Instagram และ WhatsApp มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์

Ads Manager: ผลการศึกษาพบว่า เครื่องมือโฆษณา AI ของ Meta ช่วยเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนได้ถึง 4 เท่า ธุรกิจส่วนใหญ่ใช้เครื่องมือ AI ของ Meta และแคมเปญ Advantage+ Shopping ก็เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 70% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ที่ผ่านมา

Generative AI: เครื่องมือสร้างสรรค์โฆษณา ช่วยให้ธุรกิจสร้างคอนเทนต์ได้รวดเร็วขึ้น ประหยัดเวลาและทรัพยากร ปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 4 ล้านราย เพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านรายในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

Block lists: Meta เริ่มทดสอบฟีเจอร์ Block lists หรือรายการการบล็อกจากบุคคลที่สาม (third-party block lists) ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถควบคุมตำแหน่งการแสดงผลโฆษณาใน Facebook, Instagram, Feeds รวมถึง Reels ได้มากยิ่งขึ้นได้มากขึ้น รองรับ 34 ภาษา เริ่มต้นทดสอบกับ IAS และจะขยายไปยังพาร์ทเนอร์รายอื่นๆ

Threads: แพลตฟอร์มน้องใหม่มาแรง มียอดผู้ใช้ทะลุ 320 ล้านคน และมีผู้ใช้งานใหม่กว่า 1 ล้านคนต่อวัน คาดว่าจะมียอดผู้ใช้แตะ 1 พันล้านคนในเร็วๆ นี้ ล่าสุดเริ่มทดสอบ Threads Ads ในญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาแล้ว ส่วนในไทยคุณนิโคลาระบุว่าฟีเจอร์นี้อยู่ระหว่างการทดสอบกับกลุ่มเล็กๆเพื่อประเมินผลก่อน ก่อนที่จะขยายไปในพื้นที่อื่นๆเพิ่มเติม

Video: ในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2567 เวลาในการรับชมวิดีโอทั่วโลกบน Instagram หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็เติบโตระดับสองหลัก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าโดย Reels มีการแชร์ต่อมากกว่า 4.5 พันล้านครั้งต่อวัน

เรียกได้ว่า Meta จัดเต็ม ขนทัพเครื่องมือใหม่ มาช่วยธุรกิจไทย เพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณา และสร้าง Conversion ให้เพิ่มขึ้นได้ นักการตลาดและแบรนด์ต้องรีบศึกษาและนำไปปรับใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่สูงสุดต่อไป


  •  
  •  
  •  
  •  
  •