“ติดหรือยัง 3 เมกฯ ตอนนี้ 8 เมกฯ แล้วนะ” เป็น Topic ของคนยุค C (Generation of Content) ว่าด้วยสปีดของ Internet Boardband หลังจากที่เมื่อต้นปี 2009 บริการ “Maxnet” ของบริษัททริปเปิลที บรอดแบนด์ ในเครือบริษัทจัสมิน เปิดศึกในสนามนี้ ด้วย Hi-speed 3 เมกะบิตต่อวินาที 590 บาทต่อเดือน ทำเอาตลาดบรอดแบนด์ร้อนฉ่าขึ้นมาทันที
ร้อนถึงเบอร์ 1 อย่าง “True Online” นั่งไม่ติด ต้อนรับน้องใหม่ ด้วย Truly Hi Speed ความเร็ว 8 เมกฯ เอาใจลูกค้าไฮเอนด์ ซึ่ง True ไม่ลืมนำกลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์มาใช้ จึงพ่วงด้วยการแถม Wi-Fi ของ True Move 2 เมกฯ คิดค่าใช้จ่ายเหมารวมเดือนละ 1,990 บาท เร็วขนาดที่ “นนท์ อิงคุทานนท์” ผู้จัดการทั่วไป Wire-line Broadband Services Business True บอกว่า ดาวน์โหลดได้ภาพแบบ HD (High-Definition) เลยทีเดียว
ส่วน TOT มาช้าหน่อย แต่ก็ยังได้รับอนุมัติจากบอร์ดฯ อัดฉีกเงินลงทุน 800 ล้านบาท เพิ่มความเร็วบริการบรอดแบนด์ให้เป็น 5 เมกฯ ตั้งเป้าจะเพิ่มยอดผู้ใช้ในปีนี้ให้ได้ 1 ล้านพอร์ต รับมือกับคู่แข่งเอกชนที่มาแรงเหลือเกิน
การรุกของ Maxnet ครั้งนี้เป็นผลงานของ “พิชญ์ โพธารามิก” ทายาทของ “อดิศัย โพธารามิก” ผู้ก่อตั้งบริษัทจัสมินฯ และในฐานะซีอีโอรุ่นใหม่ทำให้ภาพลักษณ์ของจัสมินดูกระฉับกระเฉง
“พิชญ์” มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงจากจัสมินฯ และบริษัทลูก คือ TT&T เน้นธุรกิจบริการโครงข่ายสื่อสาร เมื่อกระแส Internet Hi-Speed บูมในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา แม้แม็กซ์เน็ตจะมาช้ากว่ารายอื่น แต่ก็มาถูกเวลา เพราะตลาดยังมีความต้องการอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เมื่อนำกลยุทธ์ราคามาใช้ “Maxnet” จึง take off ได้ง่ายยิ่งขึ้น
“จัสมิน” ทุ่มวางเครือข่ายบรอดแบนด์ 3,000 ล้านบาท ใช้งบการตลาด และสื่อสารชนิด IMC อีก 100 ล้านบาท หลังจากนี้ “พิชญ์” จึงตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้าถึง 7 แสนราย จากปัจจุบัน 4 แสนราย เบียดกับ True ที่ขณะนี้มีลูกค้าอยู่ 6.5 แสนราย
นอกจาก “Maxnet” จะทะลุทะลวงเข้าถึงคนรุ่นใหม่ แต่ยังทำให้ “จัสมิน” มีลุคที่เปลี่ยนไป อย่างที่ “พิชญ์” ตั้งใจไว้ว่า “อยากให้คนมองจัสมินสนุกและมีชีวิตชีวา”
เป็นความสนุกที่ “พิชญ์” ชื่นชอบ ในแบบที่เขาเคยคลุกคลีกับคอนเทนต์บันเทิงก่อนที่จะมาบริหาร “จัสมิน” อย่างเต็มตัวเมื่อกลางปีที่แล้ว ทั้งผลิตหนัง นิตยสารบันเทิง และเว็บไซต์วัยรุ่น ภายใต้บริษัทโมโนเจนเนอเรชั่น (Mono Group)
หากวันหนึ่งฐานลูกค้าของ Maxnet มากเพียงพอ และบันเทิงของโมโนกรุ๊ปสร้างสีสันมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับ “พิชญ์” แล้วก็ไม่ยากที่จะสร้างอาณาจักรให้ “จัสมิน” มีชีวิตชีวาอย่างที่ตั้งใจไว้
Hi-Speed เร็วสุดในโลก 5 อันดับแรก
ที่มา speedtest.net
จากบันเทิงสู่สื่อสาร
“พิชญ์ โพธารามิก” จบอนุปริญญา สาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย เซอร์เรย์ (Surrey) ประเทศอังกฤษ และปริญญาตรี สาขาการจัดการ จากลอนดอน สคูล ออฟ อีโคโนมิคส์ (LSE) ปี 2540 เรียนจบกลับมาทำงานไม่ได้ช่วยกิจการของผู้เป็นพ่อ แต่พิชญ์ เริ่มธุรกิจตามชอบของตัวเอง ก่อตั้งกลุ่ม Mono Group เริ่มธุรกิจ Venture Capital มาตั้งแต่ยุคดอทคอมบูมรุ่นแรก มีเว็บดังในมือ Mthai.com, Yenta4.com Enjoy108.com และ Mono2u.com, Hotelthailand.com และ Monoplanet.com
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจบันเทิง เป็นเจ้าของนิตยสารดารา “Gossip Star” นิตยสาร CANDY และหนังสือ Gossip TV ยังรุกเข้าสู่ธุรกิจภาพยนตร์ “Mono-Film” บริษัทผลิตภาพยนตร์ หนังล่าสุดคือ Me Myself “Mono-Music” ค่ายเพลงในสังกัดคือค่าย Buzz Music และค่ายสตูดิโอโตโม่
ในวัย 37 ปี “พิชญ์” ในฐานะซีอีโอ จัสมินฯ ที่เขาเพิ่งรับตำแหน่งได้ไม่นาน เขาคาดว่าในปี 2009 จัสมินจะมีรายได้ 7,500 ล้านบาท กำไรประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากบริการอินเทอร์เน็ต
Did you know?
ปัจจุบันคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตวันหนึ่งประมาณ 1 ล้านคน จากปี 2547 แค่ 3 แสนคน
Source: Positioning Magazine, เมษายน 2552 โดย สุกรี แมนชัยนิมิต
