จะว่าไปแล้ว Crowdfunding นั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรมากมาย มีคนพูดถึงกันมาตลอดปี 2011 -2014 เกี่ยวกับนวัตกรรมทางด้านการเงิน และการลงทุนตัวนี้ ส่วนมากก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตประจำวันหรอกครับ เพราะกลุ่มที่ควรจะสนใจเจ้า Crowdfunding จริงๆ นั้นคือกลุ่ม Startups หรือ Tech-Startups เท่านั้นที่จะเห็นแรงขับเคลื่อนในการพัฒนาโปรดักด์ของตนจาก Crowdfunding ตัวนี้
Crowdfunding คืออะไร
สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก หรือยังไม่ทราบว่าเจ้า Crowdfunding นี้คืออะไรเรามาทบทวนกันหน่อยดีกว่า Crowdfunding คือการระดมเงินทุนจากกลุ่มคน หลายๆ กลุ่ม โดยส่วนมากจะเห็นมากในโลกออนไลน์ ซึ่งทำให้ Crowdfunding อาจจะถูกเรียกอีกชื่อว่า Social Funding ครับ เพราะด้วยความที่นายทุนที่หมุนเวียนในโลกออนไลน์จนได้ชื่อเป็น Crowdfunding หรือ Social Funding นั้นก็มักจะมาจากสื่อสังคมออนไลน์ Social Network ใหญ่ๆ อย่าง Facebook, Google+ หรือ LinkedIn เกือบทั้งหมด คนที่สนใจเงินทุนส่วนนี้ไม่ต้องมีอะไรมาก แค่เพียงนำเสนอไอเดียที่เปลี่ยนโลก เปลี่ยนความคิด หรือสิ่งที่เรียกว่านวัตกรรม ออกสู่สายตาของมวลชนบนโลกออนไลน์ซึ่งอาจจะผ่านช่องทางเว็บไซต์ที่เป็น Social Funding หรือ Crowdfunding หาทุนสนับสนุนจากคนที่ชื่นชอบในไอเดีย และติดตามเราได้อย่างง่ายดาย
Crowdfunding บนโลกอินเทอร์เน็ตช่วงแรกๆ นั้นเกิดขึ้นในวงการดนตรี ในช่วงปี ค.ศ. 1997 วงร็อค Marillion ได้ระดมทุนจากแฟนเพลงผ่านโลกออนไลน์ในการจัดทัวร์รอบสหรัฐฯ เป็นจุดเริ่มต้นของ Crowdfunding บนโลกอินเทอร์เน็ต และในเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกัน ก็มีเว็บไซต์ Crowdfunding ยุคแรกๆ อย่าง Artistishare.com ใช้ไอเดียของวง Marillion ในการระดมทุนให้นักดนตรีมือใหม่เข้ามาใช้บริการ และระดุมทุนจากเหล่าแฟนเพลงอินดี้ของพวกเขาได้แบบระบบเปิด จนในช่วงหลังๆ ก็ได้ถูกเปลี่ยนไอเดียออกมาใหม่เป็นวงการออกแบบ ไอที และสุดท้ายคือ แอพพลิเคชั่นประเภทเกม
กระบวนการของ Crowdfunding นั้นยืดหยุ่นตามระบบพื้นฐานของมัน ทำให้นายทุนที่มาสนับสนุนผลงานไอเดียของเรานั้นจะเป็นใครก็ได้บนโลกออนไลน์ใบนี้ ซึ่งทำให้ง่ายในการหาเงินทุนมากกว่ากระบวนการแบบเก่าที่ต้องวิ่งว่อนนำเสนอไอเดีย หรือหางานประกวดให้ได้รางวัล ทำให้การหานายทุนรูปแบบนี้ได้ถูกจัดให้ Crowdfunding เป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกการเงินชิ้นหนึ่งที่เอื้อต่อ SMEs หรือ Startups หน้าใหม่ไฟแรง ที่ไม่ต้องเผชิญโลกอันโหดร้ายในแง่ของการเข้าไม่ถึงนายทุนอีกต่อไป เพราะใครสักคนบนโลกออนไลน์ก็สามารถเป็นนายทุนให้คุณได้ตลอดเวลา หากถามว่าโอกาสมีมากน้อยแค่ไหน ให้จินตนาการว่า ณ ปัจจุบันนี้โลกออนไลน์มีผู้ใช้งานกี่คนใน Social Network ต่างๆ คำตอบที่น่าจะนึกออกก็คงจะเป็นตัวเลข หลายล้านกว่าคน ถ้าเราขอระดมทุนจากคนเหล่านั้นคนละ 1 บาท เพื่อช่วยให้โครงการของเราผ่านได้ เราก็จะได้เงินทุนหลายล้านบาท ส่วนเรื่องการตอบแทนคนเหล่านั้นก็อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาโปรดักด์ต่อไปในอนาคต
เราจะหาเว็บไซต์ Crowdfunding ได้ที่ไหนบ้าง
ถ้าเป็นสมัยก่อนคงต้องวิ่งโร่หาบริษัทใหญ่ๆ ให้ผู้บริหารแต่ละระดับมานั่งฟังเรานำเสนอไอเดีย บางคนเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง กว่าที่พวกเขาจะรู้ว่าเราคือ เพชรในตมที่ช่วยเขาได้จริงๆ ก็อาจจะเล่นเอาเราแทบเหนื่อยสายตัวแทบขาด อีกทั้งบางทีก็เล่นเอาเราท้อในเรื่องของระยะเวลาที่เสียไปก็มี ซึ่งเวลาที่เสียไปนี่แหละครับ ทำให้เราเสียโอกาสหลายๆ อย่าง เช่น โอกาสในเรื่องของการพัฒนาโปรดักด์เมื่อเทคโนโลยีมันเปลี่ยน เพราะเรามัวแต่วิ่งหานายทุนใช้เวลานาน เทคโนโลยีก็เหมือนเข็มวินาทีที่วิ่งไปเรื่อยๆ จนบางทีเราก็ตามไม่ค่อยทัน พอถึงเวลาที่มีคนต้องการข้อมูลโปรดักด์ของเราจริงๆ ตอนนั้นเทคโนโลยีที่เราไปนำเสนอก็คงกลายเป็น อะไรที่ล้าหลัง และตามแก้ไขไปอีก ส่วนการเสียเวลาอีกข้อคือ “การรู้ความจริง” ส่วนนี้ผมคิดว่า Startups ควรจะรู้กฏข้อนี้ดีคือ “รีบล้มเหลวให้เร็วที่สุด” เราจะได้ไม่เสียเวลากับสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำ การที่เราเสียเวลาหานายทุนบางครั้งเราก็จะไม่ได้ คำติชมที่ “จริง” กับโปร์ดักด์หรือไอเดียของเราว่ามัน “ไม่เข้าท่า” ก็กลายเป็นว่าพอมีนายทุนรับไอเดียไปแต่พอมาเจอ Feed Back ของคนใช้จริงๆ แล้วมันจะเกิดปัญหา และปัญหาใหญ่ที่ตามมาคือ KPI ที่เรา Commit ไว้กับนายทุน
ดังนั้นเราควรจะค้นหาเวลาสำหรับนำเสนอไอเดีย และโครงการของเราผ่านเจ้าพวก Crowdfunding เพื่อดู Feed Back ว่าเรา “ล้มเหลว” หรือเปล่าถ้าไม่ก็ไปต่อ ดูแนวโน้มของคนที่เข้ามาให้ทุนการพัฒนาโครงการของเราต่อไป ถ้ามีจำนวนมากก็ไปได้สวย และตัวเลขจาก Crowdfunding นี่แหละครับที่จะเป็นตัวเลขแผนที่สองในการเข้าไป เสนอนายทุนแบบ หล่อๆ ได้สบายๆ ในแง่ที่ว่า “มวลชน ยืนยันแล้วว่าไอเดียของผม เจ๋งจริงๆ” ซึ่งนายทุนก็จะไฟเขียวให้เรา
สามารถติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสาร E-Commerce ฉบับที่ 194 หรือทาง www.ecommerce-magazine.com
ผู้เขียน: บัญญพนต์ พูลสวัสดิ์
ปริญญาโทสาขาไอที สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, ปัจจุบันควบตำแหน่งเจ้าของบริษัท เดย์เดฟ จำกัด รับออกแบบ และพัฒนา แอพพลิเคชันและเกมบนสมาร์ทโฟน และ ตำแหน่งอาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาวิชาการออกแบบเชิงโต้ตอบและการพัฒนาเกม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต