เส้นทาง Tech Company ไม่ง่าย! “Wongnai” พิสูจน์เช็คพอยท์กับความภูมิใจ “แอปนี้ Made in Thailand”

  • 12.5K
  •  
  •  
  •  
  •  

นอกจากธุรกิจจะต้องแข่งขันกับตัวเองเพื่อก้าวข้ามภาวะ Disruption หรือแม้แต่การแข่งขันระหว่างธุรกิจด้วยกันเอง แน่นอนว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือการแข่งกับ “ผู้บริโภค”

ประเด็นนี้ไม่ได้หมายถึงแค่…การทำอย่างไรให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้า หรือแม้แต่จะทำอย่างไรให้สินค้าขายดีเท่านั้น แต่รวมถึงคำฮิตอย่าง “ความยั่งยืน” หรือ Sustainability ให้เป็นหัวใจหลักของธุรกิจแห่งยุค ซึ่งเรื่องนี้ธุรกิจด้านเทคโนโลยีน่าจะปรับตัวเพื่อสร้างความยั่งยืนในใจและพฤติกรรมของผู้บริโภคมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น

หากอ้างอิงจากพฤติกรรมการติดตั้งแอปพลิเคชันบนมือถือ อาจทำให้เห็นภาพมากขึ้น เพราะจากสถิติที่ระบุว่า “คนไทยติดตั้งแอปเฉลี่ย 32 แอป และแบ่งเป็นครึ่งหนึ่งที่เลือกติดตั้งเอง ส่วนแอปที่ใช้งานจริงในแต่ละวัน มีเพียง 8 แอป”

แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวก็สามารถสะท้อนสถานการณ์ได้แล้วว่า ทำไมธุรกิจเทคโนโลยีต้องมองหาจุดเด่นเพื่อสร้างความยั่งยืนให้ได้ ทำอย่างไรจึงจะแทรกตนเองลงไปเป็นหนึ่งในพฤติกรรมประจำวันของผู้บริโภคให้ได้ มากกว่าแค่การใช้โซเชียลมีเดีย แชท และเกม

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เหล่าผู้ให้บริการ Lifestyle App จึงเหมือนถูกดันหลังให้เข้าสู่สมรภูมิเดือดเพื่อช่วงชิงพื้นที่บนมือถือและเวลาจากผู้บริโภค เรื่องนี้ Tech Company สัญชาติไทยอย่าง “Wongnai” ก็ประกาศจะให้ความสำคัญกับสมรภูมิดังกล่าวเช่นกัน แต่ท่ามกลางคู่แข่งขันทั้งไทยและต่างประเทศ ทำให้ Wongnai ต้องเร่งฝีเท้าแบบขั้นสุดเพื่อพาองค์กรขยับเข้าไปจี้ติดบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกให้ทัน จนกลายเป็นแนวทางที่องค์กรนิยามว่า “จุดเช็คพอยท์บนเส้นทาง Tech Company สัญชาติไทย”

ความสำเร็จของ Wongnai วันนี้…

  • ปัจจุบัน Wongnai มีจำนวนผู้ใช้กว่า 10 ล้านรายต่อเดือน
  • มีฐานข้อมูลร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวม 300,000 ร้านทั่วประเทศ
  • มีพนักงานกว่า 400 คน ในสำนักงานทั้งหมด 9 จังหวัดทั่วประเทศไทย
  • Wongnai กลายเป็นผู้นำด้านซูเปอร์ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มสัญชาติไทย ด้วยการนำเสนอเนื้อหาและข้อมูลรีวิวจากผู้ใช้จริงแบบครบวงจร ทั้งร้านอาหาร สูตรอาหาร ความสวยความงาม และท่องเที่ยว ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Wongnai
  • เป็นผู้ให้บริการด้าน O2O (Online-to-Offline) เชื่อมต่อบริการต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันกับผู้บริโภค รวมถึงระบบการจัดการร้านอาหาร (Wongnai POS) สำหรับเจ้าของธุรกิจ
คุณบอย-ภัทราวุธ ซื่อสัตยาศิลป์ Chief Technology Officer

“AI พระเอกแห่งยุค” หยิบมาเติมความฉลาด – ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้และร้านอาหาร

เพราะเป้าหมายของ Wongnai คือการครองใจผู้ใช้งาน แอปจึงต้องถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยมุ่งเน้นในการเพิ่มความสามารถและการนำเสนอเทคโนโลยีที่สามารถแข่งขันกับแอปจากบริษัทยักษ์ใหญ่ได้ พร้อมกับสร้างความแตกต่างขึ้นมาให้เกิดการได้เปรียบไปพร้อมกัน ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทีมผู้พัฒนาของ Wongnai นำโดย คุณบอย-ภัทราวุธ ซื่อสัตยาศิลป์ Chief Technology Officer ได้นำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ควบคู่กับคลังข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีอยู่ อาทิ รูปภาพ และรีวิวจากผู้ใช้งานซึ่งเป็นจุดเด่นของ Wongnai เพื่อทำให้ประสบการณ์การค้นหาร้านของผู้ใช้ดีขึ้น ใช้เวลาการตัดสินใจเลือกร้านสั้นลง โดยไม่จำกัดแค่การปรับปรุงอัลกอริทึมในการจัดอันดับเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรับปรุงการแสดงผลแทบทุกส่วน เป็นต้น เรียกว่า หากผู้ใช้งานได้รับรู้กระบวนการเบื้องหลังก่อนเป็นผลลัพธ์ที่เห็น ไม่แน่ว่าอาจจะเกิดความประทับใจลีลา Tech Company ของไทยขึ้นมาบ้าง

ยกตัวอย่าง… การแสดงผลการค้นหาร้านซึ่งเป็นหน้าสำคัญที่ผู้ใช้งานใช้เปรียบเทียบและตัดสินใจเลือกร้าน เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยในการเลือกร้าน เรตติ้งของร้านไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่สำคัญ เพราะร้านที่มีรูปอาหารสวยสะดุดตา บรรยากาศดี ถึงแม้เรตติ้งจะไม่ดีแต่บางครั้งก็ทำให้ผู้บริโภคอยากลิ้มลอง ขณะเดียวกัน ร้านที่อาหารอร่อยแต่รูปที่นำมาแสดงไม่สวยหรือไม่น่าดึงดูดก็อาจทำให้ผู้คนมองข้ามร้านไป เรื่องนี้จึงกลายเป็นโจทย์หลัก! ทำให้ Wongnai ให้ความสำคัญและแนะนำกับร้านที่อยู่บนระบบให้จัดทำภาพไฮไลท์ที่สวยงาม ดึงดูดความสนใจ และอธิบายร้านให้ดีที่สุด เพื่อแสดงผลบนระบบ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปรียบเทียบและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วขึ้น แม้เรื่องนี้อาจดูเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ AI สามารถช่วยวิเคราะห์ความงามของรูปภาพได้! จากเครื่องมือบ่งชี้นิยามความสวยจากคลังภาพบน Wongnai ทำให้รูปที่มีความกลมกล่อมทั้งสีสัน การจัดวางองค์ประกอบ ความชัดลึกชัดตื้น กลายเป็นโมเดลสำหรับการคัดสรรรูปภาพที่เหมาะจะเป็นไฮไลท์แก่ร้านอาหารโดยอัตโนมัติไม่จำเป็นต้องคัดเลือกด้วยตนเองอีกต่อไป

ข้อมูลรีวิวจำนวนมหาศาล ก็ใช้ AI “คัดกรองความสำคัญ” ได้

ไม่ใช่แค่การโปรแกรมให้ AI ช่วยแนะนำรูปภาพที่เหมาะสมกับการเป็นไฮไลท์ Wongnai ยังต้องจัดการกับข้อมูลปริมาณมหาศาลจากรีวิวในระบบ แต่ความสำคัญของเนื้อหารีวิวก็ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนมองหาประกอบการตัดสินใจ ดังนั้น ทางออกของ Wongnai คือ การเปลี่ยนข้อมูลที่มีความยาวให้กลายเป็นสั้นและสามารถใช้เวลาอ่านจบได้อย่างรวดเร็วเพื่อทำความรู้จักกับร้าน โดย AI ที่ทีมงานพัฒนาขึ้น จึงใช้ประโยชน์เพื่อดึงข้อมูลสำคัญที่ถูกพูดถึงบ่อยออกมาจากรีวิว เช่นคำว่า เยอะมาก ซึ่งอาจถูกพูดถึงในหลายรีวิวอาจสะท้อนว่าร้านนั้นเสิร์ฟอาหารจานใหญ่ เป็นต้น

เทคโนโลยีลักษณะดังกล่าวไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นกับ Wongnai แต่สามารถเห็นได้จากเว็บไซต์ระดับโลกอย่าง Amazon หรือ TripAdvisor แต่ต้องยอมรับว่า ต้นทุนทางเทคโนโลยีค่อนข้างสูง จึงทำให้ยังไม่เห็นเทคนิคดังกล่าวกับแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของคนไทยมากนัก เพราะต้องอาศัยการพัฒนาเทคโนโลยี Natural Language Processing (NLP) เพื่อให้ทำงานกับภาษาไทยและข้อมูลที่มีอยู่ได้อย่างแม่นยำ

Tech Talent ระดับแนวหน้า ต้องเข้าใจมากกว่าผู้คน Local

ต้องบอกว่า Thai Tech Talent หรือกองทัพสำคัญในการปลุกปั้นบริการบนแอปเป็นต่อ Tech Talent ต่างชาติในเรื่องความเข้าใจวัฒนธรรม ภาษา และพฤติกรรมของคนไทย ที่คนไทยย่อมเข้าใจคนไทยได้ดีที่สุด ซึ่ง Wongnai ให้ความสำคัญกับ “ความสามารถในการแข่งขันทางเทคโนโลยี” เนื่องจากทักษะและความรู้เฉพาะทาง และความสามารถในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจของ Tech Talent ไทย เพื่อร่วมกันผลักดันให้องค์กรเข้าใกล้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากต่างชาติมากขึ้น พร้อมทั้งขยับเข้าสู่เป้าหมายการเป็นซูเปอร์ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มสำหรับคนไทย ที่พูดได้ว่านี่คือแอป Made in Thailand


  • 12.5K
  •  
  •  
  •  
  •