ทุกวันนี้เรามักจะเห็นรถ EV วิ่งอยู่บนท้องถนนจนเริ่มชินตา และส่วนใหญ่รถ EV เหล่านั้นถ้าไม่ใช่ Tesla ก็จะเป็นแบรนด์จากจีนเป็นส่วนใหญ่ทั้ง BYD, MG, ORA, NETA ซึ่งนั่นคือเครื่องพิสูจน์ว่า การขยับตัวที่ช้ากว่าของเจ้าตลาดรถยนต์อย่าง TOYOTA ในการเข้าสู่ตลาดรถ EV ส่งผลให้ตลาด EV ถูกยึดครองโดย Tesla และค่ายแบรนด์จีน
การที่ TOYOTA จะกลับมาผงาดความยิ่งใหญ่อีกครั้งในตลาด EV อาจไม่ใช่เรื่องง่าย ยกเว้นแต่ TOYOTA จะต้องมีความพิเศษที่โดดเด่นและแตกต่างจากผู้เล่นหลักในตลาด EV โดยเฉพาะเมื่อ TOYOTA ประกาศชัดเจนที่จะลงสู่ศึกตลาด EV อย่างเต็มตัวเพื่อยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ทุกเซ็กเม้นต์
โดยล่าสุด TOYOTA ได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Idemitsu Kosan บริษัทกลั่นน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น ประกาศความร่วมมือกันในการพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ชนิด “โซลิดสเตท (Solid State)” ในปริมาณมากเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยจุดเด่นของแบตเตอรี่ดังกล่าวตามรายงานของ TOYOTA ชี้ว่า แบตเตอรี่แบบโซลิดสเตทช่วยยืดระยะการเดินทางของ EV ออกไปสูงสุดถึง 1,200 กม.ต่อการชาร์จเต็มประจุ และยังใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาทีสำหรับการชาร์จระดับ 80%
พร้อมตั้งเป้าที่จะจำหน่ายแบตเตอรี่รูปแบบใหม่ในปี 2027-2028 เป็นการตอกย้ำถึงการดำเนินแผนยุทธศาสตร์ด้านรถยนต์ไฟฟ้าของ TOYOTA
ด้วยการนำเทคโนโลยีของทั้ง 2 บริษัทมาผสมผสานเพื่อพัฒนาแบตเตอรี่ โดยจะใช้เทคโนโลยีทางด้านการผลิตวัสดุจากทาง Idemitsu และจะใช้เทคโนโลยีในการผลิตแบตเตอรี่จำนวนมากของ TOYOTA
นอกจากการขยายระยะทางและลดระยะเวลาชาร์จลง แบตเตอรี่แบบโซลิดสเตทยังมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ลิเธียมในปัจจุบัน เนื่องจากแบตเตอรี่ลิเธียมจะอยู่ในรูปของเหลว ซึ่งอาจก่อให้เกิดก๊าซไวไฟและแรงดันจนนำไปสู่เพลิงลุกไหม้ ขณะที่แบตเตอรี่แบบโซลิดสเตทจะอยู่ในรูปของแข็งทำให้ไม่เกิดก๊าซและแรงดัน
แต่ถึงอย่างนั้นแบตเตอรี่แบบโซลิดสเตทในปัจจุบันยังคงมีราคาแพง ความร่วมมือกันครั้งนี้จะช่วยให้ต้นทุนของแบตเตอรี่แบบโซลิดสเตทน่าจะถูกลง
Source: Reuters