ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นกระแสมาแรงที่ผู้บริโภคให้ความสนใจอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับ การเข้ามาทำตลาดของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ๆ ในบ้านเราหลายเจ้ามากมาย ทำให้เห็นว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเมืองไทยโตไปได้อีกไกลแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ใหญ่อย่าง Tesla ที่เรียกได้ว่าแค่ลงข่าวว่าจะมาทำตลาดเมืองไทยก็เป็นที่ตั้งตารอกันแล้ว และกับการเปิดตัวเพียงไม่กี่วัน ปรากฏว่ายอดจองมากกว่า 5,000 คันแล้ว (อ่านข่าวเพิ่มเติม) เรียกได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีของแบรนด์เลยก็ว่าได้
ทว่า ก็ยังมีหลายคนกังวลและตั้งคำถามเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการประกันรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะถือเป็นรื่องค่อนข้างใหม่สำหรับบริษัทประกันรถยนต์ในไทยมากทีเดียว ทั้งนี้ Priceza Money เว็บเปรียบเทียบประกันรถยนต์ และ Insurance Content Creator ได้ออกมาเปิดเผยราคาประกันรถยนต์ Tesla model 3 และ model Y จากผู้จำหน่ายอย่างไม่เป็นทางการ ก่อนที่จะคาดการณ์ราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 หลังเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยระบุว่า ราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 ของ Tesla model 3 และ model Y ที่มีขายอยู่ในปัจจุบันมีค่าเบี้ยประกันสูงถึง 95,000-100,000 บาทต่อปี
สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้บริษัทประกันรถยนต์คำนวณราคาประกันภัยของ Tesla สูง มีดังนี้
- อะไหล่และช่างซ่อม ปัจจุบันหากจะหาอะไหล่มาซ่อมรถ Tesla ยังจำเป็นจะต้องสั่งมาจากต่างประเทศนำเข้ามาซ่อม ทำให้มีต้นุทนการซ่อมที่สูง
- รถสัญชาติยุโรป-อเมริกา หรือพูดง่ายๆ ว่ารถยนต์ฝั่งตะวันตก จะมีต้นทุนค่าซ่อมค่าอะไหล่ที่สูงกว่ารถยนต์ฝั่งเอเชีย เช่น จีน หรือ ญี่ปุ่น โดยสังเกตจากเบี้ยประกันภัยรถยนต์ของรถฝั่งยุโรปอย่าง BMW จะมีราคาแพงกว่า เมื่อเทียบราคารถรุ่นที่ใกล้เคียงกันฝั่งของ Toyota
- นอกจากนี้ มูลค่ารถยนต์ของ Tesla ที่เอาเข้ามาขายอย่างไม่เป็นทางการเฉลี่ยอยู่ประมาณ 2-3 ล้านบาท ทำให้เบี้ยประกันรถยนต์ก็สูงตามมูลค่ารถยนต์ด้วย
อย่างไรก็ตาม การเข้ามาจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Tesla จะช่วยให้ราคาประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ถูกลงแน่นอน โดย Priceza Money ให้เหตุผลว่า เป็นเพราะปัจจัยหลักที่จะส่งผลต่อราคาประกันก็คือ ‘มูลค่ารถยนต์’ เนื่องจาก Tesla เปิดราคาขายตัว Tesla model 3 เริ่มต้นเพียง 1.7 ล้านบาท เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนปัจจัยในเรื่องของ ‘อะไหล่’ และ ‘สัญชาติรถ’ น่าจะยังเปลี่ยนแปลงไม่มากเมื่อเทียบกับก่อนจะจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพราะ Tesla เน้นการนำรถเข้ามาทั้งคันเพื่อจัดจำหน่าย แต่ไม่ได้ตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ทำให้การซ่อมแซมหากเกิดอุบัติเหตุยังต้องมีการสั่งอะไหล่มาจากต่างประเทศเช่นเดิม
จากเหตุผลข้างต้นทำให้ Priceza Money สามารถคาดการณ์ราคาประกันรถยนต์ Tesla model 3 และ model Y ได้เบื้องต้นจากการวิธีการคำนวณ 2 วิธี
วิธีที่ 1 เทียบบัญญัติไตรยางค์จากมูลค่ารถ
# Tesla Model 3
ก่อนหน้าที่จะจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทุนประกันของรุ่น Tesla Model 3 อยู่ที่ 2,600,000 บาท มีค่าเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 อยู่ที่ประมาณ 94,000 บาท
เมื่อนำมาเทียบบัญญัติไตรยางค์กับราคาขายอย่างเป็นทางการที่ลดลงมาเหลือประมาณ 1,800,000 บาท เท่ากับมูลค่าทุนประกันจะลดลงไป 30%
ก็อาจจะทำให้ราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 ลดลงไปในอัตราเดียวกันที่ 30%
คือ 94,000 – 30% = 65,800 บาท นั่นเอง
# Tesla Model Y
ก่อนหน้าที่จะจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทุนประกันของรุ่น Tesla Model Y อยู่ที่ 2,700,000 บาท มีค่าเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 อยู่ที่ประมาณ 95,000 บาท
เมื่อนำมาเทียบบัญญัติไตรยางค์กับราคาขายอย่างเป็นทางการที่ลดลงมาเหลือประมาณ 2,000,000 บาท เท่ากับมูลค่าทุนประกันจะลดลงไป 25%
ก็อาจจะทำให้ราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 ลดลงไปในอัตราเดียวกันที่ 25%
คือ 95,000 – 25% = 71,000 บาท นั่นเอง
วิธีที่ 2 เทียบกับรถยนต์ EV ที่มีสถานการณ์ใกล้เคียงกันอย่าง BYD
Priceza Money กล่าวว่า Tesla และ BYD มีสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกันที่สุด นอกจากจะ เป็นรถยนต์ EV 100% เหมือนกันแล้ว ยังเป็นบริษัทที่พึ่งเข้ามาเริ่มทำตลาดในไทยครั้งแรก และยังไม่มีโรงงานผลิตอะไหล่ในปัจจุบัน อาจจะมีจุดต่างกันเพียงเล็กน้อยที่ ฝั่งของ BYD อาจจะมีต้นทุนการซ่อมที่ถูกกว่ารถยนต์ของ Tesla
จากข้อมูลของ Priceza Money สำหรับตัว BYD Atto 3 มีทุนประกันรถยนต์อยู่ที่ 960,000 บาท และ มีเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 อยู่ที่ 42,000 บาท
ถ้านำมาเทียบกับราคาของตัว Tesla model 3 ที่ 1,800,000 บาท จะแพงกว่าตัว BYD Atto3 อยู่ประมาณ 46%
ราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 ของ BYD จาก 42,000 บาท เพิ่มไปอีก 46%
คือ 42,000 + 46% = 62,000 บาท นั่นเอง
*โดยถ้าบวกเรื่องต้นทุนการซ่อมของ Tesla ที่อาจจะแพงกว่า BYD แล้ว ก็จะทำให้ราคาของวิธีที่2 ใกล้เคียงกับวิธีที่1 นั่นเอง
นอกจากนี้ Priceza Money ยังโชว์เบี้ยประกันภัยรถยนต์ในเว็บเปรียบเทียบประกันรถยนต์ของตัวเองให้เราดูว่า ถ้าไปดูเบี้ยประกันรถยนต์ของรถยนต์ BMW X1 หรือ BMW 320D ที่มีทุนประกันใกล้เคียงกับ Tesla model 3 และ model Y ที่ 1,700,000 – 2,000,000 บาท จะเห็นได้ว่าเบี้ยประกันรถยนต์ซ่อมศูนย์ส่วนใหญ่ก็จะมีราคาตั้งแต่ 40,000-50,000 บาทโดยเฉลี่ย
เพราะฉะนั้นโอกาสที่เบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 ของ Tesla ที่เป็นรถยนต์ EV 100% มีต้นทุนค่าซ่อมแพงกว่ารถยนต์น้ำมัน จะต่ำกว่า 50,000 บาทนั้น เป็นไปได้น้อยมากๆ
สรุปคาดการณ์ราคาประกันรถยนต์ Tesla ในปี 2023
(คิดราคารถเหลือ 80% จากราคาซื้อ ตีเป็นทุนประกัน)
- Tesla Model 3 Rear-wheel Drive ราคาประกันชั้น 1 โดยประมาณ 51,700 บาท
- Tesla Model 3 Long Range ราคาประกันชั้น 1 โดยประมาณ 58,280 บาท
- Tesla Model 3 Performance ราคาประกันชั้น 1 โดยประมาณ 67,680 บาท
- Tesla Model Y Rear-wheel Drive ราคาประกันชั้น 1 โดยประมาณ 56,050 บาท
- Tesla Model Y Long Range ราคาประกันชั้น 1 โดยประมาณ 63,650 บาท
- Tesla Motor Y Performance ราคาประกันชั้น 1 โดยประมาณ 71,250 บาท
*อย่างไรก็ตาม จุดนี้เป็นเพียงการคาดการณ์จากสถานการณ์ของตลาดรถยนต์ EV การซ่อม การนำเข้าอะไหล่ ในปัจจุบันเท่านั้น
เมื่อถามว่า การซื้อรถยนต์ Tesla จะมีโอกาสแถมประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือไม่ ทาง Priceza Money ให้ความเห็นว่า ถ้าหากเป็นการซื้อสดจ่ายงวดเดียว จะไม่ได้ประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่ต้องหาซื้อเอง แต่ถ้าหากเป็นการซื้อแบบผ่อน จัดไฟแนนซ์ พอถึงขั้นตอนที่เราคุยกับทางไฟแนนซ์ จะมีบริษัทประกันรถยนต์มาให้เราเลือกเอง เพราะโดยปกติบริษัทประกันรถยนต์ก็จะมีดีลกับไฟแนนซ์ไว้รอลูกค้าอยู่แล้ว
“ราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่เราประเมินและคาดการณ์กันในวันนี้ เป็นราคาที่คาดการณ์จากสถานการณ์ของรถยนต์ EV และ การจัดซ่อมต่างๆในปัจจุบันเท่านั้น ยังไม่นับรวมถึงอนาคตที่รถยนต์ EV อาจจะมีผู้สนใจใช้เยอะขึ้น มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่ชัดเจนขึ้น มีอะไหล่ โรงงาน ช่างซ่อม เกิดเพิ่มขึ้น ตรงนั้นก็อาจจะมีอีกหลายๆปัจจัยที่ทำให้ราคาประกันรถยนต์EV อย่าง tesla ถูกลงอีกก็เป็นได้ครับ”
สิรวิชย์ ฉายะวาณิชย์ หัวหน้าทีมและผู้ร่วมก่อตั้ง Priceza Money กล่าวปิดท้ายเกี่ยวกับราคาประกันรถยนต์ EV ว่า “ส่วนตัวผมคิดว่าด้วยราคานี้ยังไม่ใช่ราคาที่เหมาะสมสำหรับประกันรถยนต์ EV เพราะรถยนต์ EV ยังใหม่มากสำหรับบ้านเรา ขาดทั้งเรื่อง ‘สถิติการเกิดอุบัติเหตุ’ ‘ความรู้ในการซ่อม’ ‘อะไหล่ที่ยังต้องนำเข้า’ หลายปัจจัยประกอบกันนี้ทำให้เบี้ยประกันภัยรถยนต์ EV ยังไม่ได้อยู่ในจุดที่เหมาะสมที่สุดครับ แต่คิดว่าอีกประมาณ 2-3 ปี เราน่าจะเห็นแนวโน้มประกันรถยนต์ EV มีราคาที่ถูกลงกว่าปัจจุบันพอสมควร”