ในยุคนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Ransomware หรือการเรียกค่าไถ่ไฟล์ที่สำคัญ โดย Ransomware จะคล้ายๆ กับไฟล์โทรจัน (Trojan) ซึ่งมีที่มาจากตำนานกรีกในการส่งนักาบซ่อนตัวอยู่ในม้าโทรจันเพื่อลักลอบเข้าเมืองทรอย จนนำไปสู่การล่มสลายของเมืองทรอย เหล่า Hacker จะใช้รหัสที่สามารถฝังไว้ในเครื่องของเหยื่อที่ผูกไว้กับไฟล์โทรจัน เพื่อให้เป็นสะพานเชื่อมต่อกับเครื่องของ Hacker ได้โดยตรง
หลายคนที่ถูก Ransomware ส่วนใหญ่เป้าหมายคือการเข้าไปล็อคไฟล์สำคัญ ที่ Hacker คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของชีวิตส่วนตัวและงานที่ทำอยู่ ซึ่งจะมีการเรียกเก็บเงินค่าไถ่เพื่อแลกกับการปลดล็อกไฟล์นั้นๆ โดยที่ผ่านมามีหลายบริษัทองค์กรจำนวนไม่น้อยที่ต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมหาศาล หลังจากถูก Ransomware เล่นงาน บางคนถึงกับกล่าวว่า Ransomware ร้ายกาจกว่า Virus Computer
ล่าสุดในงาน DEF CON Hacking Conference งานใหญ่ประจำปีที่รวมเหล่าจอมยุทธ์ เพื่อสร้างระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด ที่จัดขึ้นในเมืองลาสเวกัส โดยในงานดังกล่าวมีการระบุว่า Ransomware สามารถเข้าถึงกล้องดิจิตอลได้จากระยะไกล ซึ่ง Ransomware จะทำการนำไฟล์รูปทั้งหมดที่อยู่ในกล้องดิจิตอลเข้ารหัสล็อคไฟล์ไว้เพื่อทำการเรียกค่าไถ่ต่อไป
ทั้งหมดนั้นเกิดจากกล้องดิจิตอลในปัจจุบันที่มีฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง WiFi ซึ่ง Hacker เหล่านั้นจะทำการเชื่อมต่อระบบกับกล้องดิจิตอลผ่านทางการเชื่อมต่อไร้สาย แล้วทำการหลอกว่ามี Update Firmware ที่ต้องดาวน์โหลด เมื่อเจ้าของกล้องหลงเชื่อก็จะทำการ Update Firmware (ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มี Firmware อะไรใหม่ทั้งสิ้น) Hacker ก็จะสามารถเข้าถึงไฟล์รูปทั้งหมดในกล้องได้ทันที โดยมีการยืนยันแล้วว่ากล้องที่มีปัญหาในเรื่องของ Ransomware มากที่สุดคือกล้อง Canon EOS 80D
นอกจากนี้ยังมีการแนะนำว่า หากไม่มีการใช้ฟังก์ชั่น WiFi หรือ Bluetooth ควรปิดฟังก์ชันเหล่านั้นทิ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ Hacker เหล่านั้นลักลอบเชื่อมต่อสัญญาณ รวมไปถึงกล้องดิจิตอลขนาดเล็ก และอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีฟังก์ชั่น WiFi
Source: ZDNet, Mashable, The Verge, engadget