ได้ใช้แน่! Microsoft ประเทศไทย เปิดตัว ChatGPT เจาะลึกสารพัดโปรดักซ์ Build-In AI ยกระดับบริการ

  • 13
  •  
  •  
  •  
  •  

หลังจาก ChatGPT เอไอแชทบอทมากความสามารถของ Open AI ที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft อยู่เบื้องหลัง สร้างความฮือฮาให้กับคนทั้งโลกกันไปแล้วในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แน่นอนว่าแม้จะมีข้อมูลมากมายให้ค้นหาในโลกออนไลน์มากมาย แต่คำอธิบายในเรื่องนี้คงจะไม่ชัดเจนไปมากกว่าคำอธิบายจาก Microsoft เอง

ซึ่งล่าสุด คุณสรุจ ทิพย์เสนา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายโซลูชั่นองค์กร ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ก็เปิดโอกาสให้  Marketing Oops! ได้ทำความเข้าใจเทคโนโลยี AI มากขึ้นรวมไปถึงบริการต่างๆของ Microsoft ที่ถูกพัฒนาให้เก่งขึ้นด้วยพลังของ AI โดยเฉพาะ ChatGPT หนึ่งในเทคโนโลยี Generative AI ที่ Microsoft ให้การสนับสนุนการวิจัยมานานหลายปี

AI คืออะไร?

Artificial Intelligence หรือ AI เป็นคำศัพท์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1956 เป็นหนึ่งในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่พยายามสร้างปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถเลียนความฉลาดของมนุษย์หรือฉลาดยิ่งกว่ามนุษย์ไปได้  ต่อมาในปี 1997 เกิดคำศัพท์ใหม่ที่เรียกว่า Machine Learning เป็น subset ของ AI ที่สามารถเรียนรู้จากข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจและคาดการณ์เรื่องต่างๆที่ซับซ้อนได้

ในปี 2017 เกิดคำศัพท์ใหม่ที่เรียกว่า Deep Learning ที่เป็น subset ของ Machine Learning อีกทีเป็นวิธีการเรียนรู้โดยมีโครงข่ายประสาทเทียมที่เลียนแบบมนุษย์เพื่อประมวลลข้อมูลและช่วยมนุษย์ตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ก่อนที่ในปี 2021 จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า Generative AI หรือเอเอแบบรู้สร้าง subset ของ Deep Learning ที่สามารถเขียน สร้างภาพหรือเสียงได้จากคำสั่งโดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่มาประมวลผล

ประเด็นสำคัญพื้นฐานของ Generative AI?

คุณสรุจ อธิบายถึงประเด็นสำคัญที่จะทำความเข้าใจความสามารถของ Generative AI เอาไว้ 3 เรื่องด้วยกันก็คือ

    1. Human like respond – การสามารถตอบโต้ได้เหมือนมนุษย์ ใช้ภาษาและใช้เหตุใช้ผลตอบสนองได้เหมือนมนุษย์จริงๆ
    2. Generate Story/Idea – คือการสามารถนำข้อมูลที่มีอยู่มาประมวลผลเป็นเรื่องราว สร้างไอเดียต่างๆที่มีบริบทกลับมาได้
    3. Summarizing Information – สามารถสรุปข้อมูลจำนวนมากได้ตามรูปแบบที่ต้องการ ซึ่งประเด็นสำคัญทั้ง 3 เรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่ Generative AI สามารถนำไปใช้กับบริการต่างๆของ Microsoft มากมาย ซึ่งคุณสรุจ เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติวิธีการที่มนุษย์ปฏิสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์อีกครั้ง หลังจากครั้งล่าสุดเกิดขึ้นกับการมาถึงของ Touch Interface ในอุปกรณ์ต่างๆ

ความสัมพันธ์ระหว่าง ChatGPT กับ Microsoft?

อย่างที่รู้กันว่า ChatGPT นั้นเป็นผลงานการพัฒนาของ OpenAI หน่วยงานวิจัยด้าน AI อันโด่งดัง คำถามก็คือ Microsoft เกี่ยวข้องยังไงกับ OpenAI ซึ่งเรื่องนี้คุณสรุจ ระบุว่า Microsoft ให้การสนับสนุน OpenAI ในฐานะ partner ด้วยการสนับสนุนการวิจัยของ OpenAI ด้วยการช่วยสร้าง Super Computer รวมถึงระบบ Azur ระบบคลาวด์คอมพิวติ้งของ Microsoft ให้กับ OpenAI ได้ใช้ทำวิจัยเกี่ยวกับ AI ในรูปแบบต่างๆ

นอกจากนี้ Microsoft ยังสนับสนุน OpenAI ในการ Democratizing AI หรือนำผลงานวิจัยของ OpenAI ออกสู่ตลาดในวงกว้าง ซึ่งในปัจจุบันผลงานของ OpenAI มี 3 เทคโนโลยีที่ Microsoft จะนำออกสู่ตลาดและนำไปผสานกับบริการต่างๆของ Microsoft แล้วนั้นก็คือ

    1. GPT-3 – เทคโลยี Generate and Understand Text เทคโนโลยีพื้นฐานของ ChatGPT
    2. Codex – เทคโนโลยี AI ที่สามารถเข้าใจภาษามนุษย์และประมวลผลไปสู่ code คอมพิวเตอร์ได้
    3. Dall-E – เทคโนโลยี AI ที่เข้าใจภาษามนุษย์และสร้างรูปภาพในแบบต่างๆได้

Microsoft ใช้ AI เหล่านี้ทำอะไรบ้าง?

สิ่งที่ผู้ใช้งานทั่วไปน่าจะคุ้นเคยและอาจจะทราบข่าวกันบ้างแล้วนั่นก็คือ Microsoft ได้ผสานเอาเทคโนโลยี AI เข้ากับ Search Engine ของ Microsoft อย่าง Bing ที่จะผสานความสามารถของ GPT-3 เข้ามาให้บริการกับผู้ใช้งาน ซึ่งสิ่งที่แตกต่างจาก ChatGPT ก็คือฐานข้อมูลจะเป็นสิ่งที่อยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่เฉพาะในปี 2021 แบบ ChatGPT เท่านั้น นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้จากลิงก์อ้างอิง และยังมีบริการคำถามแนะนำสำหรับพูดคุยกับ AI ในเรื่องนั้นๆต่อเนื่องไปด้วย

นอกจากนี้ Microsoft ยังผสานความสามารถของ AI เข้าไปกับบราวเซอร์อย่าง Microsoft Edge ที่จะมีการอัพเดทรุ่นใหม่มาให้ในเร็วๆนี้ โดย Microsoft Edge รุ่นใหม่จะมี AI sidebar ที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยของเราในด้านต่างๆได้เช่น ช่วยคิดหัวข้อเรื่องที่จะโพสต์ผ่าน Social Media ต่างๆ ได้ในรูปแบบ หรือใน Tone ตามที่ต้องการได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Productivity ได้อีกมาก

หน้าตา AI sidebar ใน Microsoft Edge ใหม่ ที่สามารถช่วยคิด caption หรือข้อความสำหรับโพสต์ในรูปแบบต่างๆได้

นอกจากนี้ AI sidebar นี้ยังมีความสามารถในแบบที่ ChatGPT มีด้วยเช่นการสรุปเนื้อหาสำคัญ เช่นการสรุปใจความสำคัญจากรายงานผลประกอบการความยาวหลาย 10 หน้าให้สั้นกระชับ หรือจะทำเป็นตารางเปรียบเทียบจากข้อมูลมากมายก็ได้ สามารถช่วยหาข้อมูล ร่างเนื้อหาก่อนเขียนคอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆ หรือแม้แต่ช่วยคิดโค้ดคำสั่งสำหรับใช้หาข้อมูลจาก Microsoft Excel ก็ทำได้เช่นกัน

บริการอื่นๆของ Microsoft ที่ผสาน AI เข้าไปแล้ว

นอกจากบริการที่เรารู้จักกันดีแล้ว Microsoft ยังผสานพลัง AI เข้าไปในบริการต่างๆอีกมากมายเช่น Microsoft Designer ที่ใช้พลังของ AI อย่าง Dall-E ที่สามารถสร้างภาพได้ มาใช้กับการสร้างสรรค์งานกราฟฟิคสำหรับนำไปใช้งานต่อได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมี Product ต่างๆที่ Microsoft ใช้พลังของ AI เข้าไปยกระดับการทำงานแล้วไม่ว่าจะเป็น  GitHub Copilot บริการช่วยบรรดา Developer ให้สามารถเขียนโค้ดได้ง่ายและเร็วขึ้น บริการอย่าง Power Platform แอปพลิเคชั่นที่ช่วยให้คนทั่วไปเขียนโค้ดได้แบบ drag&drop ผสานพลังของ GPT-3 เข้าไปช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น รวมไปถึง Power Automate และ Power BI ด้วย

และล่าสุดในปี 2023 นี้ Microsoft ได้เริ่มอัพเดท Microsoft Team ที่มี AI ที่นอกจากจะช่วยจดรายงานการประชุม แปลภาษาแบบเรียลไทม์แล้วยังมีพลังของ GPT-3 ที่จะมาช่วยสรุปเนื้อหาต่างๆจากการประชุมได้ตามต้องการด้วย รวมไปถึงบริการอย่าง Viva Sales ที่จะช่วยทำเอกสาร โปรโมชั่น ทำส่วนลดต่างๆทำให้งาน CRM เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้นด้วยพลังของ GPT-3 เป็นต้น

Azure Open AI Service บริการ AI แบบ B2B

นอกจากบริการต่างๆของ Microsoft ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวอย่างของการนำ AI เข้าไปผสมผสานเข้ากับแอปพลิเคชั่นต่างๆที่มีอยู่ให้ยกระดับความสามารถให้มากขึ้น สำหรับบรรดา Developer หรือ บรรดาบริษัท Startup ที่พัฒนาแอปพลิเคชั่นในอุตสาหกรรมต่างๆก็สามารถใช้พลังของ AI ได้เช่นกัน นำไปสู่บริการอย่าง Azure Open AI Service ที่จะมีบริการ AI 3 บริการหลักของ OpenAI มาเปิดให้ใช้งานกันได้อย่างสะดวกสบายและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นบน Azure จึงทำให้องค์กรไม่จำเป็นต้องลงทุนไปกับการพัฒนาศูนย์ข้อมูลหรือซูเปอร์คอมพิวเตอร์ด้วยตัวเองนั่นเอง

ทั้งหมดนี้ ทำให้ Azure OpenAI สามารถนำไปปรับใช้ได้กับหลากหลายสถานการณ์ นับตั้งแต่การร่างบทความหรือหาแนวคิดตั้งต้น ค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูล ช่วยเขียนโค้ด วาดภาพ หรือการบริการลูกค้า โดยนอกจากโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมและความยืดหยุ่นในการใช้งานแล้ว บริการ Azure OpenAI ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้นำโมเดล AI ไปฝึกสอนเพิ่มเติมด้วยเนื้อหาและข้อมูลภายในองค์กร เพื่อให้บริการในรูปแบบเฉพาะทางได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

แนวทางการใช้ AI อย่างปลอดภัย

เมื่อพูดถึง AI แล้วย่อมต้องมีแนวทางการใช้งานที่ปลอดภัย ซึ่งคุณสรุจ ระบุว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างอันตรายและความปลอดภัย และทำอย่างไรการใช้ AI ที่เหมือนมนุษย์จะหลีกเลี่ยงข้อเสียและดึงเอาข้อดีของมนุษย์มาใช้เท่านั้น ดังนั้น บริการ AI บน Azure ของ Microsoft จึงมีเครื่องมือ แนวทาง คำแนะนำ เพื่อให้นักพัฒนาและองค์กรเลือกใช้งาน AI ได้อย่างเหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยยึดมั่นในหลักการ 6 ข้อ ได้แก่ ยุติธรรม (Fairness) ไว้ใจได้ (Reliability and Safety) ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว (Privacy and Security) เสมอภาค (Inclusiveness) โปร่งใส (Transparency) และ มีความรับผิดชอบ (Accountability) ด้วยนั่นเอง

การเปิดตัว ChatGPT และบริการ AI ต่างๆของ Microsoft ครั้งนี้ทำให้เราเห็นภาพที่กว้างและชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับที่มาที่ไปของ ChatGPT รวมถึงผลสำเร็จในการวิจัย AI ของ OpenAI ที่ Microsoft ให้การสนับสนุน ซึ่งงานนี้ Microsoft ก็ทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วว่า AI มีพลังมากแค่ไหนในการผสานรวมเข้ากับบริการต่างๆที่มีอยู่ และช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับมนุษย์มากขึ้นอย่างไร นอกจากนี้ยังมีบริการที่เป็นโอกาสให้กับทุกองค์กรในทุกอุตสาหกรรมที่ต้องการสร้าง Productivity ให้สามารถนำ AI ของ Microsoft ไปต่อยอดให้กับธุรกิจของตัวเองได้อีกด้วย


  • 13
  •  
  •  
  •  
  •