ช่วงสถานการณ์ COVID-19 เป็นช่วงที่มีความต้องการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเป็นจำนวนมาก เพื่อติดตามสถานการณ์ COVID-19 รวมถึงมาตรการต่างที่ภาครัฐจะออกมารับมือสถานการณ์ดังกล่าว Social Media จึงกลายเป็นช่องทางสำคัญในการสื่อสารและรับข้อมูล ซึ่ง LINE ถือเป็นหนึ่งช่องทางที่มีการใช้งานมากที่สุดทั้งการรับข้อมูลและการส่งต่อข้อมูล โดยเฉพาะการส่งต่อไปในกลุ่มญาติพี่น้องเพื่อนฝูง
โดย นายพฤทธิสิทธิ์ ประทีปะวณิช Head of Product and Platform Management, LINE Thailand ชี้ว่า หากมองดูปัวะติศาสตร์ของ LINE จะพบว่า LINE เกิดขึนมาจากวิกฤตการณ์ในประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้การสื่อสารผ่านช่องทางปกติทำได้ยากลำบาก แต่ LINE สามารถใช้อินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการสื่อสาร ดังนั้นจึงมีการใช้งาน LINE เพื่อการสื่อสารเป็นหลัก
ยิ่งในช่วงที่มีมาตรการ Work from Home ทำให้มีการใช้ LINE เพื่อการสื่อสารเพิ่มขึ้น ทั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องของการทำงาน โดยพบว่ามีการใช้ LINE Call เพิ่มขึ้นถึง 236% ขณะที่การใช้ Video Call เพิ่มสูงขึ้นถึง 270% ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่ามีการใช้ LINE Call บนคอมพิวเตอร์สูงขึ้นถึง 264% ด้าน LINE Sticker มีการใช้มากขึ้น โดยเฉพาะสติ๊กเกอร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับ COVID-19 ส่งผลให้เหล่า Creator เริ่มหันมาทำสติ๊กเกอร์เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ COVID-19
นอกจากนี้การใช้ Social Media ยังช่วยให้ได้รับข่าวสารข้อมูลเร็ว แต่ก็มาพร้อมกับเรื่องข่าวปลอม (Fake News) สูงเช่นกัน LINE เองก็ประสบกับสถานการณ์เหล่านั้นด้วยเช่นกัน จึงมีความคิดที่จะช่วยสังคมในเรื่องข้อมูลข่าวสารจึงมีการเปลี่ยน LINE OA ของ LINE ประเทศไทย เป็น Information Hub ของ COVID-19 โดยทำงานร่วมกับภาครัฐ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีการเพิ่มเพื่อนเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 165%
ในส่วนของ LINE Shopping เกิดขึ้นมาจาก LINE Official Account ที่ธุรกิจส่วนใหญ่ใช้เพื่อการสื่อสารเป้นหลัก แต่ไม่สามารถสามารถซื้อขายได้ LINE Shopping จึงเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นช่องทางให้ธุรกิจสามารถขายสินค้าได้ และช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่าย ยิ่งในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้หลายคนไม่สามารถออกไปไหนได้
โดยพบว่า มีจำนวนผู้ใช้งาน LINE Shopping เพิ่มขึ้นถึง 68% ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าในกลุ่มสินค้าที่ใช้ในประจำวัน และเฉลี่ยการซื้อต่อตะกร้าอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท ในส่วนของ LINE Shopping ต้องบอกว่าเป็นเครื่องมือของผู้บริโภค แต่สำหรับธุรกิจแล้วจะเป็นการใช้เครื่องมือ My Shop ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถขายผ่านออนไลน์ได้โดยเป็นบริการที่ใช้ได้ฟรี
ปัจจุบันมีร้านค้าเข้าร่วม My Shop แล้วมากกว่า 9,000 ร้านค้า โดยมียอดขายเฉลี่ยเติบโตขึ้นสูงถึง 300% และมีการใช้จ่ายผ่าน Rabbit LINE Pay และบัตรเครดิตเพิ่มสูงขึ้น 30% อีกหนึ่งธุรกิจที่ LINE เติบโตอย่างมากในช่วง COVID-19 คือธุรกิจ Delivery ผ่าน LINE MAN ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญให้กับกลุ่มร้านอาหาร ซึ่งมีการปรับการให้บริการโดยร้านค้าสามารถสมัครได้ภายใน 1 วัน
ปัจจุบันบริการ LINE MAN เป็นผู้นำตลาดผู้ให้บริการ Delivery โดยมีจำนวนร้านค้าใหม่ที่เข้ามาสมัครเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ขณะที่ลูกค้าที่ใช้บริการ Delivery มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่า รวมไปถึงยังมีการสมัครเป็นผู้ขับรถส่งเพิ่มขึ้น ซึ่ง LINE พร้อมช่วยเหลือให้สามารถสร้างรายได้เสริมในสถานการณ์ COVID-19 นี้
ด้าน นายกณพ ศุภมานพ Chief Content Business Officer, LINE Thailand ชี้ว่า จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น ซึ่งแต่ละคนยังมีความต้องการติดตามข่าวสาร โดยเฉพาะสถานการณ์ COVID-19 รวมไปถึงการสร้างความบันเทิง ซึ่งในส่วนนี้ LINE แบ่งออกเป็น 2 ธุรกิจ ประกอบไปด้วย LINE TODAY และ LINE TV
สำหรับปัจจุบัน LINE TODAY มีพันธมิตรที่เข้าร่วมในการนำเสนอข่าวสารกว่า 260 แห่ง ซึ่งมีผู้เข้าชมข่าวที่เกี่ยวกับ COVID-19 เพิ่มขึ้นอย่างมาก นั่นจึงทำให้ LINE TODAY ต้องมีการแบ่งเนื้อหาข่าวของ COVID-19 ออกมาเป็น 1 Section โดยพบว่ามีอัตราการเข้าอ่านข่าว COVID-19 เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ซึ่งหลายต้องการข่าวที่เชื่อถือได้
นอกจากนี้คอนเท้นต์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ก็เติบโตขึ้น เช่น คอนเท้นต์ที่เกี่ยวกับ How to เติบโตขึ้น LINE TODAY จึงมีการเปิดแท็บ COVID-19 ขึ้นซึ่งได้รับการตอบรับด้วยยอดคนดูถึง 9 แสนคลิกต่อวัน นอกจากนี้ข่าวด้านธุรกิจมีอัตราเติบโตขึ้นถึง 75% สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลในปัจจุบัน นอกจากนี้คอนเท้นต์ในเรื่องของการกินเที่ยวก็เติบโตขึ้นมากถึง 35% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ต้องอยู่บ้านเป็นเวลานาน
จากการสำรวจยังพบว่า หลายคนยังต้องการคอนเท้นต์ที่มีความหลากหลายและน่าเชื่อถือ ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา LINE TODAY มีผู้อ่านเฉลี่ยอยู่ที่ 36 ล้านคนต่อเดือน แต่ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีผู้อ่าน LINE TODAY เฉลี่ยอยู่ที่ 44 ล้านคน ขณะที่มีผู้ใช้งาน LINE อยู่ที่ 45 ล้านคน นอกจากนี้การแชร์ข่าวสารของ LINE TODAY ยังมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 140%
ทั้งนี้จากผลสำรวจของ LINE TODAY ยังพบว่า ช่วงเวลาหลัง 1 ทุ่มจะเป็นช่วงเวลาที่มีคนอ่านข่าวมากที่สุด ที่สำคัญข่าวส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่มเนื้อหาเข้มข้นทั้งทางด้านสังคม ด้านธุรกิจและการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร ส่วนหนึ่งมี่ช่วงเวลาดังกล่าวเติบโตเป็นเพราะหลายคนมีเวลามากขึ้น นอกจากนี้ช่วงเวลาบ่าย 3 โมง เป้นช่วงเวลาที่มีจำนวนผู้อ่านรองลงมา จากเดิมที่มักจะมีผู้อ่านช่วงเวลา 4 โมงเย็น โดยยังพบว่ามีการใช้เวลาในการอ่านนานมากขึ้น
ด้าน LINE TV หากมองภาพรวมถือว่าโตขึ้นมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้คนอยู่บ้านเป็นหลัก โดยพบว่าการค้นหาคอนเท้นต์ใน LINE TV เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า นั่นจึงทำให้ LINE TV มีการเปิดแท็บใหม่ “Enjoy at Home” ที่ช่วยนำเสนอคอนเท้นต์ที่หลากหลาย และนำเสนอคอนเท้นต์ที่มีความต้องการรับชมสูงในหลากหลายกลุ่มผู้ชม ช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาค้นหา
นอกจากนี้ยังพบว่า การชม LINE TV ในปัจจุบันนิยมดูผ่านจอใหญ่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับชมผ่าน TV โดยตรงหรือผ่านระบบ Chromecast โดยมีอัตราเติบโตขึ้นถึง 42% ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการรับชมพร้อมกับครอบครัว และยังพบว่ามีการใช้ระยะเวลาในการรับชมยาวนานขึ้น ขณะที่คอนเท้นต์กลุ่ม Y Series (ชายรักชาย) มีอัตราเติบโตขึ้น จากการสำรวจพบว่า กลุ่มผู้หญืงช่วงอายุ 18-34 ปีเป็นกลุ่มที่นิยมรับชมคอนเท้นต์ดังกล่าว โดยเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า
แต่ที่น่าตกใจคือกลุ่มผู้หญิงอายุ 55 ปีขึ้นไป กลายเป็นกลุ่มที่นิยมรับชมคอนเท้นต์ดังกล่าวเพิ่มขึ้น โดยเป็นกลุ่มที่เติบโตขึ้นมาเป็นลำดับที่ 2 คาดว่าเกิดจากพฤติกรรมการรับชมทั้งครอบครัวบนจอใหญ่ ทำให้กลุ่มคนดังกล่าวรับชมคอนเท้นต์ประเภทนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการยอมรับในความหลากหลายทางเพศที่มากขึ้น
กลุ่มคอนเท้นต์การ์ตูนหรือ Animation ถือเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตเป็นอันดับ 2 โดยมีการเติบโตสูงถึง 33% ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากการที่เด็กๆ มีช่วงระยะเวลาการปิดเทอมที่ยาวนานมากขึ้น ซึ่งวันศุกร์มีอัตรการรับชมเติบโตสูงสุดโดยเพิ่มขึ้นถึง 56% คาดว่าช่วงสุดสัปดาห์ของเด็กมีการปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมเพียงเสาร์และอาทิตย์ โดยนับวันศุกร์เป็นช่วงสุดสัปดาห์ด้วย
สำหรับภาพรวมของ LINE TV กลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดจะเป็นกลุ่มช่วงอายุ 18-45 ปี โดยเติบโตเฉลี่ย 45% ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีการเปลี่ยนพฤติกรรมามากที่สุด จากที่ต้องออกไปทำงานทุกวัน ส่งผลให้ยอดการรับชม LINE TV ช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนมีนาคมมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 24%
โดย LINE TV มีเป้าหมายในการช่วยให้ทุกคนสามารถอยู่บ้านได้อย่างมีความสุข ซึ่งสถานการณ์ COVID-19 จะช่วยปรับพฤติกรรมของในการรับสื่อกว้างมากขึ้น และมีการเวลาในการรับสื่อมากขึ้น โดยพบว่ามีการใช้เวลาในการติดตามข่าวสารผ่าน LINE TODAY เร็วขึ้น ขณะที่ LINE TV มีการรับชมคอนเท้นต์ที่นานมากขึ้น จากเดิมที่มีการรับชม LINE TV ดึกสุด 4-5 ทุ่ม แต่ปัจจุบันมีการรับชมดึกที่สุดถึงตี 2 เพราะหลายคนนอนดึกขึ้น เนื่องจากไม่ต้องไปทำงาน
สิ่งที่ LINE TV คาดการณ์ไว้หลังช่วงสถาานการณ์ COVID-19 คอนเท้นต์ที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์จะเติบโตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหลายคนคิดถึงพฤติกรรมเดิมและมีการเตรียมคอนเท้นต์เหล่านี้ไว้แล้ว สิ่งที่ LINE กำลังทำคือการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคให้มากที่สุด เข้าใจสถานการณ์เร็วที่สุด และตอบสนองความต้องการให้มากที่สุด ซึ่ง LINE พร้อมที่จะผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน