แอบวิเคราะห์!!! ทำไมทั่วโลกต้องสนใจ Libra สกุลเงินดิจิทัลใหม่จาก Facebook

  • 527
  •  
  •  
  •  
  •  

Libra

เมื่อไม่นานนี้เราคงได้ยินข่างคราวของเงินสกุลดิจิทัลใหม่อย่าง Libra ที่มี Facebook เป็นเจ้าของเงินสกุลนี้ ส่งให้ทั่วโลกจับตามองทันที ทั้งกลุ่มนักลงทุน กลุ่มธนาคาร กลุ่มภาครัฐ และกลุ่มธุรกิจอื่นๆ อะไรที่ทำให้การเปิดตัวสกุลเงินนี้จึงเป็นที่น่าสนใจ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากสกุลเงิน Libra ของ Facebook เปิดใช้งานอย่างจริงจัง หรือ Libra จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ไปในทิศทางใด

Cryptocurrency หรือเงินในรูปแบบดิจิทัล คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย หลายคนคงรู้จักกันแล้วในชื่อ Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลแรกๆ และได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยเป้าหมายแรกเริ่มของ Bitcoin คือการใช้แทนเงินจริงในการซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งเกิดจากแนวคิดค่าเงินกลางที่ใช้อัตราเดียวกันทั่วโลก โดยไม่มีเรื่องของความผันผวนค่าเงินของแต่ละประเทศมาเป็นตัวกำหนด

Cryptocurrency

 

Libra แตกต่างจาก Bitcoin อย่างไร ?

ว่ากันตามจริงแล้ว สกุลเงินดิจิตอลทั่วโลกที่มีที่มีความนิยมแพร่หลายในปัจจุบันมีมากมายหลายสกุล โดยสกุลเงินดิจิทัลหลักๆ ที่มีคนนิยมมากที่สุด มีเพียงไม่กี่สกุลเงินเท่านั้น เช่น Bitcoin, Ethereum, Tether เป็นต้น ซึ่งมีลักษณะในการซื้อขายเพื่อหวังเก็งกำไร ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับสกุลเงินดิจิทัลใดที่ได้รับความสนใจจากตลาดมากที่สุด รวมไปถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอยู่ทั่วโลก

แต่เป็นที่ทราบกันว่า การคาดการณ์อัตราขึ้นลงของสกุลเงินดิจิทัลทำได้ยากมาก เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีบริษัทที่มีผลประกอบการเข้ามาผูกพันเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนใน ICO ที่ผูกกับธุรกิจโดยสามารถคาดการณ์กำไรได้จากผลประกอบการของธุรกิจนั้นๆ ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลอย่าง Libra เป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบของสกุลเงินดิจิทัล และรูปแบบของการลงทุนใน ICO เข้ามาไว้ด้วยกัน

Bitcoin

นั่นเพราะสกุลเงิน Libra ถูกตั้งขึ้นมาโดย Facebook บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้าน Social Media รายใหญ่ของโลก ซึ่งมีผลประกอบการที่ชัดเจนในการดำเนินธุรกิจ มีที่มาที่ไปที่ชัดเจน มันถึงทำให้สกุลเงิน Libra มีความน่าเชื่อถือมากกว่าสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้นด้วยขนาดธุรกิจของ Facebook ย่อมหมายถึงความมั่นคงของสกุลเงิน Libra เมื่อเทียบกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ

 

Libra สร้างขึ้นมาเพื่ออะไร ?

เมื่อพูดถึงสกุลเงินดิจิทัล หลายคนมักจะนึกถึงการลงทุนเพื่อการหวังเก็งกำไรอย่างเช่นสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ แต่เมื่อลองศึกษา Whitepaper ที่ Facebook นำเสนอถึงเหตุผลในการสร้างเงินดิจิทัลสกุล Libra จะพบว่าจริงๆ แล้ว Facebook ต้องการสร้างสกุลเงินเดียวกันที่สามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการได้ทั่วโลก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแนวความคิดเดียวกับผู้สร้าง Bitcoin หากแต่ Bitcoin ไม่มีใครทราบที่มาที่ไปที่ชัดเจน

ยิ่งเมื่อ Facebook จับมือกับเหล่าพันธมิตรระดับโลกเพื่อสร้างวง Blockchain ระบบที่ว่ากันว่ามีความปลอดภัยในด้านข้อมูลที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน และยิ่งเป็นที่แน่ชัดว่าสกุลเงิน Libra จะถูกนำมาใช้เพื่อการซื้อขายสินค้าและบริการทั่วโลก เมื่อพันธมิตรหลายรายอย่าง MasterCard, PayPal, Visa, eBay, Spotify, Uber, Lyft เป็นต้น ตอบรับเข้าร่วมวง Blockchain ของ Facebook

Buy Crypto

นั่นจึงหมายความว่า พันธมิตรที่ให้บริการและสินค้าพร้อมรับชำระด้วยเงินดิจิทัลสกุล Libra ของ Facebook ยิ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายผ่านเงินดิจิทัลสกุล Libra มากยิ่งขึ้น และนั่นหมายถึงการด้อยค่าของเงินจริงที่ใช้อยู่บนโลกใบนี้ในแต่ละประเทศ หรือพูดง่ายๆ คือ เงินดิจิทัลสกุล Libra อาจส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อของแต่ละประเทศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ถือเป็นค่าเงินกลางทั่วโลก

 

เมื่อไหร่จะได้ใช้เงินดิจิทัลสกุล Libra ?
หากดูรูปการจากสถานการณ์ตอนนี้ เงินดิจิทัลสกุล Libra อาจต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะสามารถใช้งานได้อย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากคณะกรรมาธิการธนาคาร วุฒิสภาสหรัฐ ได้ออกคำสั่งระงับการดำเนินการเรื่องเงินดิจิตอลสกุล Libra ของ Facebook ออกไปก่อน โดยมีการนัดหมายให้ Facebook เข้าให้การเกี่ยวกับเรื่องเงินดิจิทัลดังกล่าวให้ทางคณะกรรมาธิการฯ รับทราบ

นั่นคือความกังวลของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เกรงว่าเงินดิจิทัลสกุล Libra จะสร้างผลกระทบทางการเงินแลการธนาคารมากกว่าที่คาดไว้ โดยยังมีความกังวลว่า Cryptocurrency จะมีความเสี่ยงหลายประการ ทั้งความปลอดภัยข้อมูลและความมั่นคงของประเทศ อันเกิดจากการซื้อ – ขาย และโอกาสที่ข้อมูลจะรั่วไหล โดยมีการกล่าวอ้างถึงหลายๆ เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เช่น การที่ Facebook เกิดการรั่วไหลของข้อมูลผู้บริโภค เป็นต้น

Judgement-bitcoin

นั่นเพราะรูปแบบของ Blockchain คือรูปแบบธุรกรรมทางการเงินโดยไม่ผ่านตัวกลาง (ธนาคาร) ซึ่งนั่นจะทำให้ภาครัฐไม่มีข้อมูลการใช้จ่ายของกลุ่ม Blockchain หากมองในแง่ของความมั่นคง รัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่รู้เส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่หวังโจมตีประเทศสหรัฐฯ หากมองในแง่ร้าย สหรัฐฯ จะไม่สามารถควบคุมเศรษฐกิจในระดับโลกได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากทั่วโลกหันมาใช้เงินดิจิทัลสกุล Libra ในการซื้อขายทั่วโลก เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ก็จะกลายเป็นเพียงเงินของประเทศสหรัฐฯ ไม่ใช่ค่าเงินกลางที่ใช้แลกเปลี่ยนทั่วโลก จากเดิม 1 ดอลลาร์เท่ากับบาท เยน ปอนด์ หยวน จะกลายเป็น 1 Libra เท่ากับบาท เยน ปอนด์ หยวน

 

อนาคตของเงินดิจิทัลสกุล Libra

เรียกได้ว่าตอนนี้เงินดิจิทัลสกุล Libra มาถึงจุดทางแยกที่ต้องเลือกระหว่าง ยุติบทบาทลงแล้วปล่อยให้กลายเป็นเรื่องตำนานเล่าขาน หรือเดินหน้าต่อภายใต้ข้อตกลงระหว่าง Facebook กับรัฐบาลสหรัฐฯ และแน่นอนว่าอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินจริงไปสู่เงินดิจิทัลจะต้องอ้างอิงถึงเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหลัก เพื่อให้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงเป็นค่าเงินกลางของทั่วโลกในการแลกเปลี่ยน

Federal-Reserve-Bank

นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เข้าร่วมวง Blockchain เพื่อให้สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมไปถึงอัตราค่าเงินของ Libra ให้อยู่ในระดับที่รัฐบาลสหรัฐฯ วางไว้ รวมไปถึงการให้หน่วยงานสหรัฐฯ เข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยเฉพาะเส้นทางการเงินของผู้ต้องสงสัย ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่สหรัฐอเมริกาต้องตรวจสอบ

งานนี้จึงต้องติดตามกันต่อไปยาวๆ เพราะหากเงินดิจิทัลสกุล Libra ออกมาใช้งานจริง ไม่แน่ว่ารูปแบบการใช้จ่ายบนโลกใบนี้อาจเปลี่ยนแปลงไป เพราะทั่วโลกก็จะสามารถออกเงินดิจิทัลของประเทศตัวเองเพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจได้เช่นกัน หรือไม่การเข้ามายุ่งเกี่ยวของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจจะทำให้เงินดิจิทัลสกุล Libra เป็นเพียงแค่ e-Wallet ชนิดหนึ่งเท่านั้นเอง

 

©Marketing Oops!


  • 527
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา