KBTG เฟ้นหาจอมยุทธ์ด้านเทคโนโลยี รองรับอนาคตการก้าวไปสู่ Tech Company ระดับโลก

ประสบการณ์ถือเป็นเรื่องสำคัญของการทำธุรกิจในยุคนี้ การสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานด้านเทคโนโลยีถือเป็นสิ่งสำคัญของการตลาดในยุคปัจจุบัน ซึ่งการจะพัฒนาเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับพฤติกรรมคนในปัจจุบัน จำเป็นต้องมียอดฝีมือที่ต้องเข้าใจคนในยุคนี้ผ่าน 3 องค์ความรู้ที่สำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีในสมัยนี้

KBTG (KASIKORN Business-Technology Group) หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการพัฒนาเทคโนโลยี จัดการแข่งขัน TechJam 2019 เพื่อเฟ้นหายอดฝีมือ “ตัวจริง” ด้านเทคโนโลยีและการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปท์ Deep Jam เพื่อค้นหาสุดยอดฝีมือที่รู้ลึกในด้านเทคโนโลยีและการออกแบบจนได้ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดใน 3 ด้าน

ซึ่งงานนี้ได้รับไฟเขียวจากหัวเรือใหญ่ของ KBTG อย่าง นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธาน KBTG หรือที่ทุกคนรู้ในชื่อ “พี่กระทิง” ได้ชี้แจงว่า การแข่งขัน TechJam ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดย 2 ครั้งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากหัวกะทิด้านเทคโนโลยีในประเทศ โดยครั้งนี้จะมีการเฟ้นหาจอมยุทธ์ใน 3 ด้าน ที่ถือเป็นทักษะที่สำคัญของเทคโนโลยีเชิงธุรกิจในอนาคต

โดยทั้ง 3 ทักษะแบ่งเป็นทักษะด้าน Deep Code หรือการแก้ปัญหาเมื่อโปรแกรมเกิดความผิดพลาดหรือถูกโจมตีจากผู้ไม่หวังดี, Deep Data การวิเคราะห์พฤติกรรมผ็บริโภคบนฐานข้อมูลของลูกค้าจริง เพื่อให้ทราบถึงความต้องการของลูกค้า และ Deep Design โดยเฉพาะการออกแบบในลักษณะ UX (User Experience) และ UI (User Interface) ที่ช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกง่ายเป็นมิตร รวมถึงกล้าที่จะใช้งาน โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีโอกาสที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ KBTG

สำหรับกติการการแข่งขันสามารถสมัครได้ทั้งแบบคนเดียวและแบบเป็นทีม (โดยแต่ละทีมจะมีสมาชิกได้ไม่เกิน 2 คนเท่านั้น) โดยผู้เข้าแข่งขันต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถเลือกได้คนละหรือทีมละ 1 ด้านเท่านั้น นอกจากนี้เพื่อสอดรับกับธีมงานเทคโนโลยีดิจิทัล การแข่งขันจะเปิดให้ลงทะเบียนพร้อมกันทั่วประเทศทางออนไลน์ที่ www.techjam.tech ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม -11 พฤศจิกายน 2562

เฉพาะการแข่งขัน Deep Code จะปิดรับสมัครวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562

ซึ่งผู้เข้าแข่งขันในรอบแรกจะได้รับโจทย์และต้องแก้ปัญหาผ่านทางคอมพพิวเตอร์ที่บ้าน โดยจะประกาศผลผู้ผ่านรอบแรกในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 ผ่านทาง FB Page: KBTG Live และเมื่อถึงการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องเดินทางมาที่อาคาร KBTG (เมืองทองธานี) ในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน และวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2562

ผู้ชนะเลิศในแต่ละด้านจะได้รับโอกาสเดินทางไปเปิดประสบการณ์ และดูงานด้านเทคโนโลยี รวมถึงการออกแบบระดับโลกที่ซิลิคอน วัลเลย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมยังได้รับเกียรตินำทีมพาชมโดยพี่กระทิง ประธาน KBTG ด้วยตัวเอง โดยครั้งนี้ตั้งเป้าหมายผู้เข้าร่วมแข่งขันไว้ที่ 1,500 คน

สำหรับการแข่งขันทั้ง 3 ด้านจะมีผู้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้ากรรมการในการตัดสินแยกกัน โดยนายอาภาพงศ์ จันทร์ทอง Machine Learning Engineer KASIKORN Labs จะเข้ามาดูในส่วนของ Deep Coding โดยได้แนะนำให้ผู้เข้าแข่งขันว่า ให้เตรียมศึกษาภาษาต่างๆ ในการเขียน Code ไว้ให้ดี รวมไปถึงการฝึกซ้อมแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าผ่านสถานการณ์ต่างๆ มามากจะได้เปรียบในการแข่งขันสูง

ขณะที่ ดร. ภควัต ผลิตนนท์เกียรติ Data Scientist KASIKORN Labs จะเข้ามาดูในส่วนของ Deep Data ซึ่งแนะนำกับผู้เข้าแข่งว่า Data จำเป็นต้องดูให้มากเพื่อจับจุดให้ได้ Data ไปในทิศทางใด ถ้าคนที่ไม่มีประสบการณ์ควรจะต้องไปศึกษาหลักสถิติของ Data ให้มากๆ จะช่วยให้เข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงของ Data ที่เกิดขึ้น และจะช่วยให้เกิดการจำลองสถานการณ์ได้แม่นยำมากขึ้น

ด้าน นายสรรพวิชญ์ ศิริผล Designer, Beacon Interface ของ KBTG ที่จะเข้ามาดูในส่วนของ Deep Design ก็แนะนำผู้เข้าแข่งขันว่า เนื่องจากการแข่งขันเปิดโอกาสให้ทีมมีได้ถึง 2 คน ดังนั้นทั้ง 2 คนควรจะมีทักษะที่ต่างกัน เช่น คนหนึ่งมีทักษะด้าน UI อีกคนก็ต้องมีทักษะด้าน UX เพื่อช่วยให้แบ่งงานได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังแนะนำให้ผู้เข้าแข่งขันพักผ่อนมากๆ เพราะรอบสุดท้ายจะแข่งขันกันข้ามวันข้ามคืน

สิ่งที่พี่กระทิงตั้งใจในการแข่งขันครั้งนี้ คือการได้เห็นการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีที่สามารถใช้ได้จริงในอนาคต นั่นเพราะการวางเป้าหมายของ KBTG ที่ต้องการเป็นบริษัทเทคโนโลยี ซึ่งเป็นที่ยอมรับในภูมิภาค การเฟ้นหาเหล่าจอมยุทธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาก้าวต่อไปของ KBTG

การแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่

1. Deep Code คือการค้นหาสุดยอดฝีมือด้าน Programming ผู้ที่รักการตีโจทย์สุดยากและท้าทาย การเขียนโปรแกรมเขียนโค้ดเป็นชีวิตจิตใจและสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาประยุกต์และปรับใช้ได้จริง
2. Deep Data คือสุดยอดฝีมือด้าน Data Science ผู้ที่รักการศึกษาข้อมูลขนาดใหญ่ วิเคราะห์ จำลอง ทดสอบ และวิจัยโมเดลต่าง ๆ ซึ่ง Data ถือเป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อนธุรกิจทุกรูปแบบในปัจจุบันและอนาคต
3. Deep Design คือสุดยอดฝีมือด้าน UX/UI Design ผู้รักการแก้ปัญหาด้วยการออกแบบอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ที่ถ่ายทอดรูปแบบจากการแก้ปัญหา/ระบุปัญหา สร้างสรรค์ไอเดียและการสร้างผลงานที่มีคุณค่าโดยมีเรื่องราวออกมาเป็นชิ้นผลงาน