ในช่วงปีที่ผ่านมาเราได้เห็นความสามารถของ Generative AI กันแบบชัดๆไปแล้วไม่ว่าจะเป็น ChatGPT, Copilot, Bard, Midjourney, Dall-E และอื่นๆอีกมากมายที่ มี Use Case มากมายมาทำให้เราได้ว้าวกันไปแล้ว อย่างไรก็ตามบริการ AI ส่วนใหญ่ที่เปิดตัวสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปนั้นแม้จะมีพลังในการสร้างสรรค์และช่วยงานมนุษย์ได้อย่างมากมายแต่สำหรับการใช้งานในองค์กรแล้ว AI ที่องค์กรจะเลือกนำมาใช้จะต้องมีความปลอดภัย แม่นยำ มีความเชื่อถือได้และมีความรับผิดชอบ ไม่มีอคติ สามารถเป็นตัวแทนของแบรนด์หรือองค์กรได้จริง ซึ่งล่าสุด IBM ก็เพิ่งเปิดตัวแพลทฟอร์ม AI ที่เข้ามาตอบโจทย์เหล่านี้ในชื่อ watsonx บริการที่เรียกว่าเป็นการเปิดยุคใหม่ของ AI สำหรับองค์กรก็ว่าได้
watsonx คืออะไร?
watsonx เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลและ AI สำหรับองค์กรธุรกิจที่ IBM เพิ่งเปิดตัวมาในช่วงกลางปีที่ผ่านมาโดย watsonx จะประกอบด้วย 3 เครื่องมือสำคัญก็คือ
- IBM watsonx.ai
- IBM watsonx.data
- IBM watsonx.governance
ทั้ง 3 เครื่องมือนี้จะช่วยให้งอค์กรธุรกิจสามารถฝึก สร้างโมเดล ปรับใช้และติดตั้ง AI เพื่อนำไปใช้ในองค์กร watsonx มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า มีหน้อจอการใช้งานที่เข้าใจง่ายใช้งานง่าย และที่สำคัญก็คือเชื่อถือได้ และให้ผลลัพท์ที่สามารถอธิบายที่มาของข้อมูลได้ และยังสามารถติดตั้งร่วมกับบริการของพาร์ตเนอร์ และโมเดล open-source อื่นๆได้ด้วย
คุณสุรฤทธิ์ วูวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มเทคโนโลยี บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด อธิบายรายละเอียดของเครื่องมือต่างๆใน watsonx เอาไว้ว่า “watsonx.ai จะเป็นเครื่องมือ AI พร้อมใช้สำหรับองค์กรสำหรับการฝึก ตรวจสอบ ปรับใช้ และติดตั้งโมเดล AI ซึ่งรวมถึง foundation models ที่ขับเคลื่อน generative AI โดยโมเดลเหล่านี้ไม่เพียงแค่ได้รับการฝึกกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ แต่ยังรวมถึงข้อมูลที่เก็บรวบรวมตามระยะเวลาเป็นช่วงๆ อย่างต่อเนื่องกัน (time-series data) ข้อมูลที่ได้รับการจัดเก็บในรูปแบบคอลัมน์หรือตาราง ข้อมูลเชิงพื้นที่ และข้อมูลเหตุการณ์ไอทีต่างๆ“
“ในส่วนของ watsonx.data เป็น data lakehouse ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสำหรับข้อมูลที่ถูกกำกับดูแล (governed data) และเวิร์คโหลด AI ต่างๆ ส่วน watsonx.governance เป็นโซลูชัน end-to-end สำหรับการกำกับดูแล data และ AI governance” คุณสุรฤทธิ์ ระบุ
เปิดตัว watsonx Granite สู่การใช้งานจริง
ล่าสุดในเดือนกันยายนที่ผ่านมา IBM ได้เปิดตัวโมเดลแรกในซีรีส์ watsonx Granite ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นของโมเดล Gen AI ที่เสริมการผนวก Gen AI เข้ากับแอพพลิเคชันและเวิร์คโฟลว์ทางธุรกิจโดยโมเดล Granite ของ IBM สร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมแบบ GPT ที่ใช้ decoder เท่านั้น โดยองค์กรสามารถใช้โมเดลเหล่านี้ทำงานได้หลายรูปแบบเช่น
- ทำ Retrieval Augmented Generation เพื่อค้นหาองค์ความรู้ภายในองค์กรและสร้างคำตอบที่ตรงกับข้อซักถามของลูกค้า
- สรุปเพื่อย่อเนื้อหาแบบยาวอย่างสัญญาหรือบันทึกการโทร ให้กลายเป็นคำอธิบายสั้นๆ
- ปรับใช้การสกัดและจัดหมวดหมู่ข้อมูลเชิงลึกเพื่อประเมินปัจจัยต่างๆ เช่น ความคิดเห็นของลูกค้า
ข้อมูลที่นำมาใช้ฝึกฝนโมเดล Granite เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสายงานในองค์กร เช่น กฎหมาย การเงิน เทคโนโลยีสารสนเทศ วิชาการ และการเขียนโค้ด โดย IBM ยังยืนยันด้วยว่าการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาตามสัญญามาตรฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ของ IBM จะมีผลต่อโมเดล AI watsonx ที่ IBM พัฒนา
3 Use Case จาก IBM watsonx
IBM เปิดเผยว่า IBM watsonx สามารถตอบโจทย์ซึ่งกำลังเป็นความท้าทายสำคัญขององค์กรซึ่งยกตัวอย่างมาให้เห็นภาพ 3 Use Case ด้วยกันก็คือ
- การบริการลูกค้า จากกรณีศึกษาของ Vodafone ที่ร่วมกับ IBM และ Genesys พบว่าผู้ช่วย AI สามารถจัดการกับข้อซักถามของลูกค้าได้ถึง 90% สามารถนำไปให้บริการแบบ self-service สามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาเองของลูกค้า บริการ agent assist บริการคำถามที่พบบ่อยบนมือถือพร้อมคำตอบ
- เพิ่ม Productivity ของบุคลากร การใช้ Gen AI กับแผนก HR ของ IBM ช่วยให้ผลิตภาพของงาน HR เพิ่มขึ้น 40% สามารถนำไปใช้กับงานด้านการจัดหาบุคลากร การจัดการผลการปฏิบัติงาน การจัดการข้อมูลพนักงาน, การสื่อสารกับพนักงาน การจัดการการเรียนรู้และกิจกรรม
- การปรับแอปพลิเคชั่นให้ทันสมัย จากกรณีศึกษาของ IBM พบว่ามีเนื้อหาการพัฒนาซอฟต์แวร์ 60% ที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติด้วย AI สามารถนำไปใช้ในการทำระบบสร้างโค้ดอัตโนมัติ การค้นหาและการวิเคราะห์แอปพลิเคชัน การปรับเปลี่ยนโครงสร้างโค้ด การแปลงโค้ด การระบุเจ้าของโค้ด ได้
คุณสุรฤทธิ์ เปิดเผยว่าGen AI ของ IBM ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของหลักสำคัญ 4 ประการ คือ หนึ่ง Open ด้วยเทคโนโลยี AI และคลาวด์ที่ดีที่สุด พร้อมการเข้าถึงนวัตกรรมของโอเพนคอมมิวนิตี้และโมเดลที่หลากหลาย”
“สอง Targeted ได้รับออกแบบมาสำหรับยูสเคสทางธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาสำคัญที่องค์กรกำลังเผชิญ พร้อมโมเดลที่สามารถปรับให้เข้ากับข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์และแนวปฏิบัติของบริษัทได้ สาม Trusted สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ AI และ data governance ที่โปร่งใส และจริยธรรมที่สอดคล้องกับกฎระเบียบและการกำกับดูแลที่เพิ่มขึ้น และ สี่ Empowering คืออยู่บนแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้องค์กรสามารถนำข้อมูลและโมเดล AI ที่ได้ปรับแต่ง ฝึกฝน ปรับใช้ และควบคุม ไปใช้งานได้ทุกที่ สามารถสเกลและนำไปใช้อย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างมูลค่าให้องค์กรอย่างแท้จริง” คุณสุรฤทธิ์ ปิดท้าย