การแข่งขันกีฬาที่มีการเล่นแบบเป็นทีม จำเป็นต้องมีกรรมการมาเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ที่ทำให้การแข่งขันออกมามีความสนุก เพราะนอกจากจะต้องเชียร์ทีมของตัวเองแล้วยังต้องลุ้นด้วยว่า กรรมการจะเป็นกลางหรือเอียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือปล่าว และส่วนใหญ่คำตัดสินของกรรมการถือเป็นเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมาก็ชี้ให้เห็นแล้วว่า กรรมการก็ตัดสินผิดพลาดได้โดยเฉพาะกีฬามหาชนอย่าง “ฟุตบอล”
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (Fédération Internationale de Football Association – FIFA) ก็เห็นไม่ต่างกันและพยายามมาหลายปีในการแก้ไขปัญหาการตัดสินผิดพลาดของกรรมการ เพราะนั่นหมายถึงชัยชนะและความพ่ายแพ้ เหมือนที่ในอดีตเห็นอย่างชัดเจน เช่น ลูกหัตถ์พระเจ้าของมาราโดน่า เป็นต้น นั่นจึงทำให้เกิดแนวคิดการนำเทคโนโลยีมาใช้ จนเกิดเป็น VAR (Video Assistant Referee) วิดีโอที่จะช่วยให้การตัดสินของกรรมการมีความแม่นยำมากขึ้น
แต่ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ FIFA จึงมีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในการตัดสินด้วย โดยเฉพาะการล้ำหน้า ซึ่งเป็นการมองด้วยสายตาและอาจเกิดความผิดพลาดได้ โดยจะมีการติดตั้งกล้อง 12 ตัวที่ด้านใต้ของหลังคาสนามฟุตบอล กล้องทั้ง 12 ตัวจะช่วยจำลองภาพกว้างทั้งหมดของสนาม รวมถึงการสร้างเส้นล้ำหน้าจำลองขึ้น
นอกจากนี้จะมีการติดเซ็นเซอร์ถึง 29 จุดลงบนตัวนักกีฬาในแต่ละคนเพื่อตรวจจับตำแหน่งลูกบอล โดยระบบจะทำการตรวจจับข้อมูลทั้งหมดในอัตรา 50 ครั้งต่อวินาที เมื่อระบบตรวจพบการล้ำหน้าระบบจะแจ้งเตือนไปที่เจ้าหน้าที่วิดีโอ และจะนำข้อมูลทั้งจากเซ็นเซอร์และวิดีโอมาสร้างเป็นภาพจำลอง 3 มิติ เมื่อเจ้าหน้าที่วิดีโอตรวจสอบแล้ว หากมีการล้ำหน้าจริงจะมีการสัญญาณเตือนไปที่กรรมการในสนาม พร้อมทั้งภาพการล้ำหน้า 3 มิติบนจอยักษ์ในสนาม
FIFA ชี้ว่ากระบวนการทั้งหมดจะดำเนินการภายในไม่กี่วินาที ซึ่งจะช่วยให้การตัดสินเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วใกล้เคียง Realtime โดยจะนำมาใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่ประเทศกาตาร์ในเดือนพฤศจิกายนนี้
ในด้านธุรกิจสามารถนำรูปแบบเทคโนโลยีดังกล่าว เข้ามาใช้ธุรกิจแฟชั่น เสื้อผ้าได้ โดยเซ็นเซอร์จะทำการวัดตัวเพื่อกำหนดไซส์หรือจุดที่ต้องการจำลอง เช่น เล็บ ใบหน้า โดยมีการจำลองภาพ 3 มิติเพื่อตรวจดูความเหมาะสม ก่อนจะตัดสินใจซื้อได้
Source: Gizmodo