ดูเหมือนว่า Big Tech ระดับโลกกำลังให้ความสำคัญกับการสร้าง AR (Augmented Reality) เพื่อให้สามารถเกิดขึ้นได้จริงและสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลัง VR (Virtual Reality) กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างแลุมีการยำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะข้อจำกัดของเทคโนโลยีที่จำเป็นต้องมีแว่นตาเป็นอุปกรณ์หลักในการใช้งาน
แต่เดิมนั้นหลาย Big Tech ต่างพัฒนาแว่นตาในฐานะเครื่องมือหลักในการใช้งาน AR และส่งผลให้ระบบการประมวลผลถูกใส่ไว้ที่แว่นตาด้วย อีกทั้งแว่นตายังมีขนาดเล็กทำให้แบตเตอรี่ถูกบังคับทั้งด้านขนาดและปริมาณจัดเก็บพลังงาน และทำให้แว่นตา AR ใช้งานได้ไม่นาน อีกทั้งการประมวลผลที่แว่นตายังทำให้เกิดความร้อนส่งผละกระทบต่อผู่ใช้งาน ยิ่งต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ควบคุมการใช้งานบน AR ยิ่งสิ้นเปลืองพลังงานและสร้างความร้อนให้กับแว่นตามากขึ้น
Facebook Inc. หนึ่งใน Big Tech ที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี AR รายแรกๆ เตรียมพัฒนาสายรัดข้อมือ (Wristband) ที่จะสามารถควบคุมการทำงานบน AR และเชื่อต่อระบบกับแว่นตา AR ได้ สายรัดข้อมือดังกล่าวจะสามารถตรวจจับสัญญาณประสาทเพื่อตีความท่าทางและการเคลื่อนไหวของมือที่ซับซ้อน นอกจากนี้ระบบประมวลผลจะถูกติดตั้งไว้ที่สายรัดข้อมือ โดยจะทำการประมวลผลและส่งไปยังแว่นตาที่ทำหน้าที่แค่แสดงผล
ถือเป็นก้าวสำคัญของ Facebook ในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีอย่างดุเดือดระหว่างบริษัท Big Tech เช่น Apple Inc., Amazon.com Inc. และ Google ในอุตสาหกรรมที่เชื่อว่าอนาคตแว่นตาจะเข้ามาแทนที่การทำงานของโทรศัพท์มือถือในที่สุด โดยช่วงเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา Facebook คาดการณ์ว่าอีกประมาณ 5-10 ปี เทคโนโลยี AR จะสามารถเป็นที่ต้องการของตลาดผ่านอุปกรณ์อย่างแว่นตาเสมือนจริง
Source: Reuters , Japan Today