หลังจากที่จีนเริ่มใช้ Facial Recognition ในการบันทึกข้อมูลเพื่อให้ทราบพฤติกรรมผู้บริโภค ไปจนถึงภาครัฐของจีนที่หันมาใช้เทคโนโลยี Facial Recognition ในการค้นหาผู้ต้องสงสัยและผู้กระทำความผิด เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับชาวจีน ซึ่งดูเหมือนการใช้เทคโนโลยี Facial Recognition จะได้รับความสนใจจากจีนมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยล่าสุดจีนเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยี Facial Recognition ในการตรวจสอบผู้ไม่ทิ้งขยะลงในถังขยะ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถตรวจสอบได้ว่า มีการแยกประเภทขยะไว้ด้วยหรือไม่ ปัจจุบันมีการติดตั้งถังขยะอัจฉริยะทั้งสิ้น 26 ถังอยู่ในเขตชุมชน Xicheng เมืองเซี่ยงไฮ้ โดยถังขยะอัจฉริยะจะมีการติดตั้งกล้องเพื่อสแกนใบหน้า ซึ่งจะเน้นไปที่การตักเตือนผู้อยู่อาศัยให้คัดแยกขยะรีไซเคิลอย่างเหมาะสม ทั้งกระดาษ พลาสติกและกระป๋อง
ซึ่งระบบดังกล่าวจะไม่มีการระบุตัวผู้กระทำความผิดเพราะการไม่คัดแยกขยะยังไม่มีผลในการกฎหมาย แม้จะเป็นเพียงการรณรงค์และตักเตือนการทิ้งขยะแบบไม่แยกประเภท แต่เมืองเซี่ยงไฮ้มีแผนในการส่งเสริมให้ชุมชนมีการตระหนักและทิ้งขยะแบบแยกประเภท โดยผู้ไม่กระทำการแยกขยะจะถูกหักเครดิตทางสังคม และมีการเตรียมรางวัลสำหรับผู้คัดแยกขยะ เช่น การออกตั๋วรถโดยสารฟรี รวมไปถึงถังขยะใบใหม่เอี่ยม
ระบบ Facial Recognition ถือเป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเทศจีน เนื่องจากจำนวนประชากรจีนที่มีมากกว่า 1 พันล้านคน ทำให้ฐานข้อมูลบุคลคลมีจำนวนมากมายมหาศาล ระบบ Facial Recognition จะช่วยให้การระบตัวตนของชาวจีนทำได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถจัดระเบียบเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แล้วไทยหละ???
Source: South China Morning Post