Cryptocurrencies หรือเงินสกุลดิจิทัล กลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้งหลังสถานการณ์โรคระบาดที่ผ่านมา เนื่องจากการใช้จ่ายแบบ Cashless เติบโตขึ้นมาก ยิ่งไปกว่านั้นแผนการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Libra ก็ใกล้เข้ามาทุกที ทำให้หลายธนาคารต้องปรับตัวรับมือ โดยเฉพาะธนาคารกลางที่กำกับดูแลระบบการเงินของแต่ละประเทศ
โดยธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศและธนาคารกลาง 7 ประเทศ อาทิ ธนาคารกลางสหรัฐฯ, ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษ ได้เผยแพร่รายงานลาสุดที่ระบุข้อกำหนดสำคัญบางประการสำหรับการจัดตั้งธนาคารกลางเพื่อดูแลเงินดิจิทัลโดยเฉพาะในนาม “Central Bank Digital Currency – CBDC” โดยเน้นย้ำตลอดว่า เงินสกุลดิจิทัลจะไม่มีทางมาทดแทนเงินสกุลหลักได้
ทั้งนี้มีการวางหลักการของเงินสกุลดิจทัล โดยเน้นที่หลักความปลอดภัยในการใช้จ่าย ที่สำคัญต้องใช้ได้ฟรีหรือมีราคาถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และต้องมีบทบาทที่เหมาะสมสำหรับภาคเอกชน เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลใช้เทคโนโลยี Blockchain รองรับการซื้อขาย Cryptocurrencies ต้องได้รับการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากธนาคารกลาง เพื่อป้องการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน
ธนาคารกลางหลายแห่งกำลังร่วมมือกับบริษัทภาคเอกชนเพื่อทดลองใช้สกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ธนาคารกลางของสวีเดนกำลังทำงานร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาเพื่อนำร่องสกุลเงิน “e-Krona” ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นเริ่มการศึกษาความเป็นไปได้ของสกุลเงินดิจิทัลในปีงบประมาณ 2021 โดยร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น 3 แห่งและบริษัทที่ให้บริการชำระเงินแบบ Cashless และอาจนำไปสู่การเปิดตัว “Digital Yen”
Source: CNBC , Japan Today