ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ใครที่ใช้โปรแกรม Zoom ในการสื่อสารหรือการประชุมในองค์กรคงพบว่ามีการให้อัพเดตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการเกิดปรากฎการณ์ “Zoombombing” หรือการปรากฎตัวเข้ามาของบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กร และเข้ามาใช้คำพูดไม่สุภาพ รวมถึงการเข้ามาป่วนการประชุม หนักไปกว่านั้นคือการเอามาแอบฟังการสนทนาการวางแผนขององค์กร
ซึ่ง Eric Yuan ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Zoom ได้ชี้แจงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาว่า เป็นผลมาจากการใช้งานที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จากช่วงเวลาเดียวกันปีที่ผ่านมาที่มีผู้ใช้ทั่วโลกเพียง 10 ล้านคน กลายเป็นมากกว่า 200 ล้านคน เนื่องมาจากมาตรการ Work from Home เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 จนทำให้เกิดอาการ “ไม่ทันตั้งตัว”
ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทใหญ่อย่าง Google และ Tesla ออกกฎระเบียบห้ามมีการใช้ Zoom ภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการประชุมทางไกลหรือการใช้งานเพื่อสื่อสารกันภายในแผนก เนื่องจากระบบความปลอดภัยของ Zoom อาจเป็นสาเหตุให้ Hacker สามารถเจาะเข้าระบบหรือแอบล้วงความลับของบริษัทได้ พร้อมกันนี้ สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ FBI ยังออกมาเตือนเด็กๆ ที่ใช้งาน Zoom เพื่อการศึกษาออนไลน์
ให้ระมัดระวังจะเกิดการ Zoombombing ทั้งการโชว์ลามกอนาจาร หรือการเจาะเข้ามูลส่วนบุคคลของเด็กๆ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และทาง FBI กำลังจับตาการใช้งาน Zoom ในหมู่เยาวชนอย่างใกล้ชิด โดยมีข่าวลือว่า Hacker เริ่มเจาะเข้าระบบ Zoom เพื่อขโมย Account ผู้ใช้งาน Zoom ทั่วโลก ไปขายในเว็บมืดโดยมี Hacker ระบุสามารถสร้างรายได้ถึง 5,000-30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
Source: BusinessInsider, 4News, DailyMail