เคยสังเกตกันบ้างไหมว่า ก่อนที่จะเลือกซื้อสิ้นค้าอะไรสักอย่าง สิ่งแรกที่ทำคือเริ่มจากการหาข้อมูล ไม่ก็ถามคนอื่นที่เคยซื้อมาก่อนว่าใช้แล้วเป็นยังไง ราคาดีหรือเปล่า รวมถึงการดูรีวิวสินค้านั้น ๆ จาก Internet
แล้วเมื่อหลายคนบอกว่าของชิ้นนั้นใช้ดี เราก็จะเกิดความคิดอยากได้ และอยากซื้อตาม หากพูดแบบง่าย ๆ ก็คือ “ใช้ดีบอกต่อ” ซึ่งยังเป็นกลยุทธ์สำคัญมากของการตลาดทุกยุคทุกสมัย
การตลาดสุดคลาสิคที่เหล่าแบรนด์ไม่ควรลืม
การพูด “ปากต่อปาก” หรือ Word of mouth marketing คือการตลาดที่ลูกค้าซื้อสินค้า และเกิดความประทับในตัวสินค้าจนเกิดการ “ใช้ดีบอกต่อ” หรือให้คำแนะนำจากผู้ที่มาสอบถาม
การที่บล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ มารีวิว ก็เป็นการตลาดปากต่อปากเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าความสนใจที่เกิดขึ้น เกิดจากการแชร์ความรู้สึกที่ลูกค้าหรือตนเองเคยใช้ เลยทำให้แบรนด์เหมือนได้รับการโปรโมทสินค้าแบบฟรี ๆ
ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีกลยุทธ์ต่าง ๆ ออกมามากมาย แต่กลยุทธ์ที่ได้ผลทุกยุคทุกสมัยคงหนีไม่พ้นการตลาดแบบปากต่อปาก ที่ยังคงเป็นวิธีที่คลาสสิกและได้รับความน่าเชื่อถือมากที่สุดเลยก็ว่าได้ และต้องขอบอกเลยว่า เมื่อไหร่ที่เราให้คำแนะนำกับคนรอบข้าง ก็อาจจะเป็นการการทำการตลาดแบบปากต่อปากโดยที่เราไม่รู้ตัว จากการศึกษาของ Nielsen พบว่า 83% เชื่อถือคำแนะนำจากคนที่เรารู้จัก โดยเฉพาะเพื่อนสนิทและครอบครัว
ความ “จริงใจ” ของการรีวิว กระตุ้นให้ผู้บริโภคอยากลองใช้ตาม
ยุคดิจิทัลที่มาพร้อมเทคโลโนยี มอบความความรวดเร็วและสะดวกสบายให้ผู้ใช้งาน จึงทำให้ใคร ๆ ก็สามารถอัพสิ่งต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ได้ ซึ่งทำให้การรีวิวสินค้าต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย จนนิยมทำกันอย่างแพร่หลาย
เพราะฉะนั้นด้วยความที่ได้ใช้จริง รีวิวจริง no สปอนเซอร์ ทำให้คนที่เข้ามาดูก็รู้สึกว่ามีความ “จริงใจ” และอยากลองใช้หรือซื้อตาม
โดยสถิติที่น่าสนใจจาก marketsplash ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตัดสินซื้อสินค้าของผู้บริโภคไว้ดังนี้ :
- 82% ของผู้บริโภคอ่านรีวิวสินค้าออนไลน์ก่อนตัดสินใจ
- 52% ของผู้ที่มีอายุ 18 – 54 ปี บอกว่า อ่านรีวิวก่อนก่อนตัดสินใจซื้อเสมอ
- โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้บริโภคต้องอ่านรีวิวอย่างน้อย 10 รอบ ก่อนที่จะสามารถไว้วางใจแบรนด์ได้อย่างเต็มที่
- ผู้บริโภคยุคใหม่ใช้เวลา อย่างน้อย 13 นาที ในการอ่านรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อ
การใช้อินฟูเอนเซอร์เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากแห่งยุคดิจิทัล
การตลาดที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์มีความสำคัญอย่างมากในยุคดิจิทัล เพราะเป็นการช่วยเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น โดยในปัจจุบันคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะเชื่อใจอินฟูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจาโซเชียล ซึ่งการสำรวจเมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่าช่วงอายุ 18-25 ปี มีแนวโน้มที่จะเชื่อคำแนะนำของอินฟูเอนเซอร์มากกว่าคนรอบข้างที่ให้คำแนะนำ
ดังนั้นจึงถือได้ว่า การตลาดแบบปากต่อมีส่วนสำคัญต่อแบรนด์เป็นอย่างมาก เพราะเป็นเหมือนการรีวิวสินค้าโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ
และหนึ่งในวิธีที่ดูจะเหมาะสมกับยุคปัจจุบันที่มีความเป็นดิจิทัลคือการใช้อินฟูเอนเซอร์เข้ามาช่วย เพราะเป็นการแนะนำข้อมูลที่มีความจริงใจสูง แต่อย่าลืมว่าก็ต้องเลือกคนรีวิวที่เหมาะสม มีความน่าเชื่อถือ เพราะถ้าพูดเกินจริงก็คงไม่ดีนัก
แหล่งข้อมูล : Marketsplash
