Whoscall เผยสายโทรศัพท์ และ SMS มิจฉาชีพสูงสุดในรอบ 5 ปี – ข้อมูลคนไทยรั่วไหลเกือบครึ่ง!

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

whoscall Cover (2)

 

ภัยโทรศัพท์และ SMS หลอกลวงพุ่งแตะ 168 ล้านครั้งในปี 2024

 

Whoscall แพลตฟอร์มเทคโนโลยี TrustTech เผยสถิติภัยมิจฉาชีพในไทยปี 2567 พบจำนวนสายโทรศัพท์และข้อความ SMS หลอกลวงพุ่งสูงสุดในรอบ 5 ปี แตะ 168 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 112% จากปี 2566 โดยเฉพาะการแอบอ้างองค์กรและลิงก์อันตรายที่แฝงมากับข้อความ SMS มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล

นายแมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทโกโกลุก ประเทศไทย เปิดเผยว่า การใช้เทคโนโลยี AI ในการหลอกลวงทำให้กลโกงมีความซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็นหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หรือใช้ช่องทางการเงินเป็นเครื่องมือฉ้อโกง เช่น การปลอมเป็นธนาคาร หรือโฆษณาเงินกู้ง่าย ซึ่งมีการแพร่ระบาดผ่านทั้งสายโทรศัพท์และ SMS

 

 

Whoscall-05

 

มิจฉาชีพเปลี่ยนกลยุทธ์ SMS หลอกลวงเพิ่มขึ้นเกือบ 130 ล้านครั้ง

จากรายงานของ Whoscall พบว่า จำนวนข้อความ SMS หลอกลวงเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีที่ผ่านมา โดยแตะ 130 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นจาก 58.3 ล้านครั้งในปี 2566 นับเป็นสถิติที่สูงสุดในรอบ 5 ปี ซึ่งหมายความว่ามิจฉาชีพยังคงเลือกใช้ SMS เป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงเหยื่อ

ลักษณะของ SMS หลอกลวงที่พบมาก ได้แก่:

  • ข้อความเชิญชวนให้เล่นพนันออนไลน์
  • การปลอมเป็นบริษัทขนส่งสินค้า
  • การแอบอ้างเป็นธนาคารหรือสถาบันการเงิน
  • การส่งลิงก์ฟิชชิ่งที่พาไปยังเว็บไซต์ปลอมเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว

นอกจากนี้ Whoscall ยังระบุว่าการแอบอ้างองค์กรรัฐ เช่น การแจ้งลดค่าไฟฟ้า หรือโครงการดิจิทัลวอลเล็ต กำลังเป็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

Whoscall-02

 

ลิงก์อันตรายระบาดหนัก 40% เป็นฟิชชิ่ง ขโมยข้อมูลส่วนตัว

Whoscall ได้พัฒนาฟีเจอร์ Web Checker ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบลิงก์ที่น่าสงสัย โดยในปีที่ผ่านมาพบว่า:

  • 40% ของลิงก์อันตรายเป็นลิงก์ฟิชชิ่ง ที่มีเป้าหมายในการดึงเงินหรือขโมยข้อมูลส่วนบุคคล
  • 30% เป็นลิงก์ที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์พนันออนไลน์ผิดกฎหมาย
  • 30% เป็นลิงก์ที่หลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่แฝงมัลแวร์ ขโมยข้อมูลสำคัญจากอุปกรณ์

 

Whoscall-03

 

41% ของผู้ใช้งานชาวไทยมีข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล  พบเป็นอีเมล และเบอร์โทรศัพท์ และถูกนำไปขายบนดาร์กเว็บ

ฟีเจอร์ ID Security ของ Whoscall ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบว่าข้อมูลส่วนตัวของตนเองรั่วไหลหรือไม่ โดยในปีที่ผ่านมาพบว่า:

  • 41% ของข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้รั่วไหลไปยังช่องทางต่าง ๆ เช่น ดาร์กเว็บและดีพเว็บ
  • 97% ของข้อมูลรั่วไหลเป็นอีเมล
  • 88% เป็นเบอร์โทรศัพท์ และอาจรวมถึงข้อมูลอื่น ๆ เช่น วันเดือนปีเกิด ชื่อนามสกุล และรหัสผ่าน

 

Whoscall-04

 

Whoscall ยกระดับเทคโนโลยี AI รับมือภัยมิจฉาชีพ

 

Final_2024TH-WhoscallReport-2

 

จากสถานการณ์ภัยไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น Whoscall ได้นำเทคโนโลยี AI มาช่วยพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อป้องกันภัยมิจฉาชีพ โดยสามารถป้องกันผู้ใช้จากการถูกหลอกลวงได้มากกว่า 460,000 ครั้งต่อวัน

โดยปัจจุบัน Whoscall มีฐานข้อมูลที่ครอบคลุมมากที่สุดในเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมหมายเลขโทรศัพท์ มากกว่า 2.6 พันล้านเลขหมาย และรวมข้อมูลจากพันธมิตรอย่าง ScamAdviser เพื่อสร้างฐานข้อมูลต่อต้านการหลอกลวงทางดิจิทัล

ทั้งยังมีการใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์ และจำลองรูปแบบการหลอกลวง เพื่อป้องกันเชิงรุก ต่อการหลอกลวงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนได้รับการยอมรับ และความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติไต้หวัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ แห่งชาติ (สกมช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย ศูนย์สืบสวนและประสานงานอาชญากรรมทางไซเบอร์ ของฟิลิปปินส์และรัฐบาลท้องถิ่นในญี่ปุ่น

 


  •  
  •  
  •  
  •  
  •