13 คนดังในหลายสาขาอาชีพที่เสียชีวิตไปพร้อมกับรายได้สูงสุดที่ Forbes จัดอันดับเอาไว้ในปี 2015 รายได้ดังกล่าวเป็นเรทค่าตัวและเรทรายได้ต่อปีสูงสุดที่พวกเขาเคยได้รับ หลายคนอาจจะเกิดทันหรือไม่ทันพวกเขาเหล่านี้ แต่ในยุค google การจะหาดูผลงานหรือประวัติของคนดังทั้ง 13 คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร จากที่ได้ศึกษาประวัติและผลงานก็ไม่รู้สึกแปลกใจที่พวกเขาจะเป็นคนดังที่มีรายได้สูงสุด หลายคนจากไปอย่างเป็นตำนาน ผลงานและชื่อเสียงที่ทิ้งไว้ได้รับการเอ่ยถึงในทุกยุคทุกสมัย และเราดีใจที่ได้นำเรื่องราวเล็กๆน้อยๆของคนดังทั้ง 13 คนที่จากโลกไปแล้วมาเอ่ยถึงอีกครั้งใน Marketing Oops!
13. James Dean
$8.5 million (306 ล้านบาท)
อายุ 24 ปี
วันที่เสียชีวิต: 30 กันยายน 1995
สาเหตุ: อุบัติเหตุทางรถยนต์
ต้นฉบับความเท่ที่ยังคงถูกกล่าวถึงมาจนทุกวันนี้ ‘เจมส์ ดีน’ เป็นนักแสดงหนุ่มที่มีบุคลิกเป็นที่จดจำ ความเท่แบบดิบๆบวกกับหน้าตาอันหล่อเหลาทำให้เขากลายเป็นผู้ชายที่เป็นสไตล์ไอคอนเบอร์ต้นๆของโลกมาอย่างยาวนาน ทรงผมที่เซ็ตแบบเสยจากด้านหน้า เสื้อยืดพอดีตัวทับด้วยแจ็คเก็ตกับยีนส์ขายาว กลายเป็นลุคที่ป็อปปูล่าในหมู่ชายอเมริกันอยู่พักนึงเลยทีเดียว ต้นแบบสไตล์ของยุคแดงไบเล่ในบ้านเราก็ถอดมาจากสไตล์ของ เจมส์ ดีน เนี่ยแหละ แว่นตาที่เขาใส่กลายเป็นคอลเลคชั่นแว่นที่หายากทันทีหลังจากเขาเสียชีวิต และยังเป็นนักแสดงชายคนแรกที่สวมกางเกงยีนต์ Lee เข้าไปอวดโฉมบนแผ่นฟิล์ม และทำให้กางเกงยีนต์รุ่นนั้นขายดีมาก ส่วนหนังที่แจ้งเกิดให้ เจมส์ ดีน ดังเป็นพลุแตกคือเรื่อง East of Eden (1955) ตามมาติดๆกับ Rebel without a cause (1955) และ Giant (1956) ซึ่งเป็นเรื่องสุดท้ายของเขา เจมส์ ดีน ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ 2 ครั้ง
สำหรับ Giant ถ่ายทำในปี 1955 แต่ฉายหลังจากเขาลาโลกไปแล้วในปี 1956 ซึ่งนั่นทำให้เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว วันเกิดเหตุ เป็นวันที่เขากำลังเดินทางไปงานแข่งรถที่เมืองซาลีน่าส์ แคลิฟอร์เนีย รถจากเลนฝั่งตรงข้ามซึ่งขับโดยนักศึกษาวัย 23 ปี ไม่ได้สังเกตเห็นรถของเจมส์ จึงเลี้ยวตัดหน้าเลนของเจมส์เพื่อจะเข้าสู่ทางหลวงสาย 41 ทำให้รถทั้งสองคันประสานงากันอย่างจัง มีผู้ประสบเหตุจากจุดนั้นสามคน แต่ เจมส์ ดีน คือคนเดียวที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เขาจากไปในวัย 24 ตอนที่เขากำลังรุ่งโรจน์ที่สุดในเส้นทางอาชีพ
12. Steve McQueen
$9 million (324 ล้านบาท)
อายุ 50 ปี
วันที่เสียชีวิต: 30 กันยายน 1980
สาเหตุ: หัวใจวายหลังจากเข้ารับการผ่าตัดมะเร็ง
เจ้าของฉายา “The King of Cool” ที่แจ้งเกิดในคาแรคเตอร์ anti-hero ( บทบาทของ anti-hero ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆน่าจะเป็นเรื่อง Kill Bill, Watchmen หรือ V for Vendetta ไม่จำเป็นต้องเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ) แม็กควีนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากบทบาทในเรื่อง The Sand Pebbles เขายังมีผลงานโด่งดังในภาพยนตร์ The Magnificent Seven, The Great Escape, The Thomas Crown Affair, Bullitt, The Getaway, Papillon, และ The Towering Inferno ในช่วงปี 1960s-1970 เป็นนักแสดงชายเบอร์ต้นๆใน Box-office และกลายมาเป็นนักแสดงชายที่มีค่าตัวแพงที่สุดในยุคนั้น
11. Theodor Geisel (Dr. Seuss)
$9.5 million (342 ล้านบาท)
อายุ 87 ปี
วันที่เสียชีวิต: 20 กันยายน 1991
สาเหตุ: โรคชรา
นักสาดภาพประกอบที่มีชื่อเสียงในผลงานหนังสือเด็กซีรี่ส์ต่างๆที่ทำออกมาเติมเต็มจินตนาการเด็กๆทั่วโลก ตั้งแต่ปี 1937 มาจนถึงปัจจุบัน หนังสือการ์ตูนของเขาขายออกไปได้มากกว่า 600 ล้านเล่ม คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยกับการ์ตูนของ Dr. Seuss การ์ตูนของเขาจะเป็นเรื่อง The Cat in The Hat, Lorax ,The Grinch เป็นการ์ตูนที่วาดและลงสีอย่างสวยงาม ประโยคภาษาอังกฤษในเล่มจะเป็นคำพ้องเสียง เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ และทั้ง The Cat in The Hat, Lorax ,The Grinch ก็เคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์มาแล้วทุกเรื่องอีกด้วย
10. Bettie Page
$10 million (360 ล้านบาท)
อายุ 85 ปี
วันที่เสียชีวิต: 11 ธันวาคม 2008
สาเหตุ: โรคชรา
นางแบบสาวชาวอเมริกันที่มีความเป็นสาวหัวสมัยใหม่และจัดจ้านที่สุดในยุค 50s ในยุคนั้นเบ็ตตี้ถือเป็น pin-up girl ที่ดังที่สุดในยุคนั้นเลยทีเดียว เผื่อใครยังนึกภาพ pin-up girl ไม่ออกคือจะเป็นลุคของหญิงสาวที่มีแต่งตัวจัดจ้านเน้นสัดส่วน อาจจะเน้นโชว์เรียวขา สะโพก หรือหน้าอก คิ้วโก่งคมเข้ม กรีดอายไลน์เนอร์คมๆ ทาปากสีแดงหรือสีจัดจ้าน เป็นลุคของสาวอเมริกันที่มักจะอยู่บนโปสเตอร์หรือตามหน้านิตยสารในสมัยช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งนั่นคือภาพที่เบ็ตตี้ถูกจดจำที่สุด อาจจะเรียกได้ว่าเป็น sexsymbol ก็ย่อมได้เหมือนกัน เธอเป็นเหมือนไอคอนแห่งป็อปคัลเจอร์ในภาพลักษณ์ของ sexuality และ taste in fashion ในสังคมอเมริกันยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ความจัดจ้านของเธอทำให้เธอเจิดจรัสอยู่บนเส้นทางนางแบบและเป็นที่จดจำมาอย่างยาวนาน
9. Paul Walker
$10.5 million (378 ล้านบาท)
อายุ 40 ปี
วันที่เสียชีวิต: 30 พฤศจิกายน 2013
สาเหตุ: อุบัติเหตุทางรถยนต์
หนึ่งในความสูญเสียที่สะเทือนอารมณ์คนทั่วโลกไม่น้อย เพราะมันเป็นการจากไปแบบปัจจุบันทันด่วนแบบไร้สัญญาณเตือนใดๆ ซึ่งตอนนั้นเขายังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำ Fast and Furious 7 หนังซีรี่ย์ความเร็วที่ทำให้พอลเป็นที่จดจำมากที่สุด พอล เริ่มเส้นทางอาชีพของเขาตั้งแต่เด็กโดยเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา Pampers ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ จากนั้นก็ผ่านงานโฆษณา งานละครทีวี และงานภาพยนตร์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1987 แต่มาเปรี้ยงจริงๆในบท “Brian O’Conner” จาก Fast and Furious เร็วแรงทะลุนรก เมื่อปี 2001 และเมื่อสองปีที่แล้วในวันเกิดเหตุ พอลได้เดินทางไปร่วมงานแสดงรถยนต์การกุศลที่จัดขึ้นเพื่อหาเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยใต้ฝุ่นไห่เหยี่ยนในฟิลิปปินส์ ของมูลนิธิ Reach Out Worldwide ที่เขาเป็นผู้ก่อตั้งเอง และก่อนเข้างาน พอล กับเพื่อนได้ไปทดลองรถ Porsche Carrera GT เพื่อทดสอบการหมุนของรถซึ่ง พอล นั่งเป็นผู้โดยสารต่อมารถได้เกิดเสียหลักพุ่งชนกับต้นไม้ข้างทางและเกิดเพลิงลุกไหม้ท่วมรถ ทำให้เขาและเพื่อนเสียชีวิตทั้งคู่ จุดเกิดเหตุห่างออกไปจากจุดที่รถออกตัวไม่ถึง 300 หลา
8. Albert Einstein
$11 million (396 ล้านบาท)
อายุ 76 ปี
วันที่เสียชีวิต: 18 เมษายน 1955
สาเหตุ: โรคชรา
ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวถือเคยถือสัญชาติสวิสและอเมริกา(ตามลำดับ) เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่ถูกนำมาเป็นไอคอนของความเรืองปัญญาในทุกยุคทุกสมัย เขาค้นนพบทฤษฎต่างๆมากมายและมีส่วนร่วมในด้านการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม สถิติกลศาสตร์ และจักรวาลวิทยา แต่ “ทฤษฎีสัมพันธภาพ” คือทฤษฎีที่ทำให้เขาเป็นที่จดจำมากที่สุด คุณูปการหลายอย่างที่เขาสร้างไว้เป็นต้นแบบในการก่อเกิดเทคโนโลยีมากมายในปัจจุบัน ผลงานทางวิทยาศาสตร์กว่า 300 ชิ้นถูกตีพิมพ์ ดูอัจฉริยะขนาดนี้แต่เชื่อไหมว่าเขาเป็นคนที่เรียนรู้ได้ช้ากว่าคนปกติ เขาเป็นโรค dyslexia มาตั้งแต่เด็ก (โรคความบกพร่องทางการอ่าน) แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ไอน์สไตน์ ก็ยกความดีความชอบในผลงานต่างให้กับความเชื่องช้าของตัวเอง เขาบอกว่าความช้าทำให้เขามีเวลาครุ่นคิดถึงอวกาศและเวลามากกว่าคนปกติ เขาจึงสามารถใช้ปัญญาพัฒนาทฤษฎีเหล่านี้ได้นานและต่อเนื่อง
7. John Lennon
$12 million (432 ล้านบาท)
อายุ 40 ปี
วันที่เสียชีวิต: 8 ธันวาคม 1980
สาเหตุ: ถูกยิง
นักร้อง นักแต่งเพลง ชาวอังกฤษที่เป็นสมาชิกแรกที่เริ่มก่อตั้งวง The Beatles ร่วมกับ Paul McCartney, George Harrison และ Ringo Starr เป็นศิลปินกลุ่มที่โด่งดังอย่างมากในยุคนั้น มีแฟนแพงคับคลั่งมากมายทั่วทั้งยุโรปและอเมริกา หลังจากยุบวงในปี 1970 ปีถัดมาเลนนอนออกอัลบั้มเดี่ยวที่ชื่อว่า Imagine ที่มีเพลงดังติดหูอย่าง Give Peace a Change และ Working Class Hero เขาถูกจดจำในฐานะศิลปินที่เขียนเพลงเพื่อสันติภาพ ตอนที่ย้ายไปอยู่อเมริกากับภรรยา “โยโกะ โอโน” เป็นช่วงที่มีสงครามเวียดนามพอดี เขาเคยเกือบถูก “ริชาร์ด นิกสัน” ประธานาธีบดีสหรัฐฯในสมัยนั้นไล่ออกจากประเทศด้วยข้อหากบฎ เนื่องจากเนื้อเพลงของเขา เต็มไปด้วยการเรียกร้องหาสันติภาพ ความสงบ และความรักในเพื่อนมนุษย์ อีกทั้งชาวอเมริกันส่วนใหญ่ชอบเพลงของเขามากเสียด้วย เขาถูกยิงเมื่อที่หน้าบ้านพักเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 1980 และชายผู้ก่อเหตุก็เป็นแฟนเพลงของเขานั่นแหละ เป็นแฟนเพลงที่คลั่งเลนนอนมากๆเสียด้วย เหตุผลที่ถูกเปิดเผยคือ เขาคิดจะก่อเหตุมานานแล้วแต่ไม่กล้าสักทีจนความกดดันมันพอกพูนจนถึงจุดที่เขาทนไม่ได้ เขาต้องฆ่าเลนนอนเพราะเลนนอนเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากๆ จนเขารู้สึกว่าอยากจะให้ชื่อเสียงเลนนอนนั้นมาตกอยู่ที่ตัวเอง เพราะเขารูสึกว่าตัวเองเป็นคนไร้ตัวตน จากการก่อเหตุทำให้เขาติดคุกอยู่ 27 ปี ก่อนจะออกมาทำงานเป็นเสมียนอยู่ฝ่ายกฏหมาย และทำครัวอยู่ที่เรือนจำชื่อดังทางฝั่งตะวันตกของนิวยอร์ก ส่วนเลนนอนยังคงเป็นตำนานที่ถูกจดจำ แม้จะเป็นคนรุ่นหลังแต่ก็ยอมรับว่าขนลุกและจรรโลงใจไปพร้อมๆกันทุกครั้งที่ได้ฟังเพลง Imagine หนึ่งในงานเพลงที่ถูกจดจำมากที่สุดของ จอห์น เลนนอน อ้อออ ลืมบอกว่าเลนนอนก็เป็นโรค Dyslexia เหมือนกัน
6. Marilyn Monroe
$17 million (612 ล้านบาท)
อายุ 36 ปี
วันที่เสียชีวิต: 5 สิงหาคม 1962
สาเหตุ: ได้รับยาเกินขนาด
ภาพสาวผมบลอนด์ปากแดงที่กำลังพยายามจับชุดเดรสสีขาวที่กำลังปลิวสะบัดจนเผยให้เห็นขาอ่อน คงจะเป็นภาพจำที่ผู้คนทั่วโลกใช้รีเฟอเมื่อได้ยินชื่อ มาลิรีน มอนโล ไปแล้ว ดาราสาวที่ต้นแบบความงามอันจัดจ้านแบบฉบับสาวอเมริกันในยุค 50ss และยังเป็น sex symbols แห่งยุคอีกด้วย ชื่อเดิมเธอคือ “นอร์มา จีน มอร์เทนสัน” และเธอเริ่มเส้นทางอาชีพด้วยการเป็นนางแบบก่อนจะรุ่งโรจน์แบบสุดๆในเส้นทางสายฟิล์ม ซีนอมตะที่ผู้คนจดจำไปทั่วโลก ปากแดงชุดขาวกระโปรงปลิวที่เรากล่าวไปเมื่อตอนต้น ก็มาจากซีนหนึ่งในหนังเรื่อง The Seven Year Itch แม้ข้อสรุปการเสียชีวิตของเธอคือการได้รับยาเกินขนาด แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีอดีตเจ้าหน้าที่ CIA วัยเกษียณที่กำลังป่วยหนักได้สารภาพว่าเขาเป็นคนฆ่า มาลิรีน ด้วยการทำให้ดูเมือนว่าเธอจงใจฆ่าตัวตาย ตามคำสั่งของเบื้องบน เนื่องจากเธอรู้ความลับบางอย่างที่อาจจะทำลายความมั่นคงของชาติ ไม่มีอะไรมายืนยันว่าเขาพูดความจริง แต่ก็เป็นคำพูดของคนป่วยหนักที่กำลังจะเสียชีวิต อย่างไรก็ตามแม้ มาลิรีน จะจากไปกว่าห้าสิบปีแล้ว เธอยังคงถูกเอ่ยถึงอยู่เสมอจากสื่อต่างๆ แม้แต่มาดอนน่าก็ยังแจ้งเกิดตัวเองด้วยลุคของ มาลิรีน มอนโล ในเพลง Material Girl
5. Elizabeth Taylor
$20 million (720 ล้านบาท)
อายุ 79 ปี
วันที่เสียชีวิต: 23 มีนาคม 2011
สาเหตุ: หัวใจล้มเหลว
นักแสดงหญิงชาวอังกฤษที่มาโลดแล่นในฮอลลีวูด เธอเป็นที่จดจำในฐานะนักแสดงหญิงแถวหน้าที่โดดเด่นและจัดจ้าน และยังเป็นต้นแบบของนักแสดงหญิงที่ไม่แคร์สื่อในยุคนั้น เธอมีภาพลักษณ์ของหญิงสาวสวยที่ยั่วยวนเธอตกเป็นข่าวกับนักแสดงหนุ่มหลายคน และผ่านการแต่งงานมาถึง 8 ครั้ง แต่นั่นก็เป็นเรื่องส่วนตัวที่ถูกนำมาเผยแพร่ให้เป็นเรื่องส่วนรวม เป็นธรรมดาที่ข่าวคราวประเภทนี้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ชื่อของเธอจึงปรากฎอยู่บนสื่อบ่อยครั้ง ฝีมือด้านการแสดงของเธอได้รับการยกย่องจากสถาบันภาพยนตร์อเมริกันให้เป็นนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลลำดับที่ 7 และยังเคยได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม 2 ครั้ง ออสการ์เกียรติคุณ 1 ครั้ง ลูกโลกทองคำ 2 ครั้ง และรางวัลอื่นๆอีกมายมาย
4. Bob Marley
$21 million (756 ล้านบาท)
อายุ 36 ปี
วันที่เสียชีวิต: 11 พฤษภาคม 1981
สาเหตุ: มะเร็ง
โรเบิร์ต บ็อบ เนสตา มาร์เลย์ นักร้องเร็กเก้ชาวจาเมก้า เป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง และมือกีตาร์ที่เปี่ยมพรสวรรค์ เขาเติบโตในพื้นที่ห่างไกลความศิวิไลซ์และค่อนข้างแร้นแค้น แรงบันดาลใจทางดนรีของเขามาจากเพลงฝั่งอเมริกัน นักร้องคนโปรดของเขาคือ “เอลวิส” และ “เดอะ ดริฟเตอร์” เขาใช้ดนตรีเป็นสื่อในการเรียกร้องสันติภาพ สิทธิ และความเท่าเทียม ให้แก่คนในประเทศโลกที่สาม
3. Charles Schulz
$40 million (1,440 ล้านบาท)
อายุ 77 ปี
วันที่เสียชีวิต: 12 กุมภาพันธ์ 2000
สาเหตุ: มะเร็ง
นักวาดการ์ตูนชาวอเมริกัน เจ้าของคาแรคเตอร์อันโด่งดังอย่าง Snoopy and Charlie Brown เขาวาดการ์ตูนที่เติมเต็มวัยเด็กให้ผู้ใหญ่หลายคนทั่วโลก และผลงานของเขายังถูกส่งต่อให้ลูกๆของผู้ใหญ่เหล่านั้นได้ชื่นชมจากรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย
2. Elvis Presley
$55 million (1,980 ล้านบาท)
อายุ 42 ปี
วันที่เสียชีวิต: 16 สิงหาคม 1977
สาเหตุ: หัวใจล้มเหลว
“เอลวิส แอรอน เพรสลีย” ราชาร็อคแอนด์โรลที่เป็นทั้งนักร้องและนักแสดงชาวอเมริกัน เขาเป็นไอคอนทางวัฒนธรรมด้านดนตรีในศรรษตวรรษที่ 20 เลยทีเดียว แนวเพลงที่เขาสามารถร้องได้มีหลากหลายไม่ว่าจะ คันทรี, ป็อปบัลลาด, กอสเปล และบลูส์ ซึ่งศิลปินรุ่นหลังหลายคนมีเอลวิสเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ช่วงก่อนเสียชีวิตเขาเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นเนื่องจากสุขภาพเขาย่ำแย่มาก และมีหลายโรครุมเร้าอย่าง ปอดบวม เยื่อหุ้มปอดอักเสบ ลำไส้ใหญ่อักเสบ และโรคเรื้อรังอีกหลายโรคที่ส่งผลให้น้ำหนักตัวเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เรียกว่ากินยาวันละเป็นกำเลยทีเดียว
1. Michael Jackson
$115 million (5,580 ล้านบาท)
อายุ 50 ปี
วันที่เสียชีวิต: 25 มิถุนายน 2009
สาเหตุ: ได้รับยาเกินขนาด
ราชาเพลงป็อปที่มีผลงานเพลงติดหูผู้คนทั่วโลกอยู่หลายเพลง ในความเห็นส่วนตัวคิดว่าตอนนี้ยังไม่มีศิลปินเพลงป็อปคนใดที่ขึ้นมาฉายแสงอย่างเจิดจรัสและเป็นตำนานได้เท่า ไมเคิล แจ็คสัน เขาไม่ได้เป็นเพียงนักร้อง แต่ยังเป็นนักแสดงและนักออกแบบท่าเต้น โดยเฉพาะ “มูนวอร์ค” ท่าเต้นที่ทำให้เขาถูกจดจำที่สุดท่าหนึ่ง แม้เขาจะเสียชีวิตไปแล้วแต่อัลบั้มของเขายังคงขายได้ถึง 774,000 ชุดในสหรัฐอเมริกาจากการสำรวจล่าสุด
