HonestDocs เผย คนไทยสายเขียว 64% ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ มีเพียง 16% ใช้รักษาโรค ผู้ตอบแบบสอบถามคนไทยจำนวน 14% ยอมรับว่าเคยทดลองใช้กัญชามาก่อน แต่มีเพียง 16% ของผู้ใช้นำกัญชามาใช้ทางการแพทย์เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดเป็นหลัก ในขณะที่เยาวชนบางส่วนบริโภคกัญชาทุกวัน
การนำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์กลายเป็นกระแสภายในระยะเวลาเพียงไม่นาน หลังจากรัฐบาลไทยเล็งประกาศปลดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด พร้อมการจับมือกับหลายภาคส่วน ด้วยจุดประสงค์ในการนำกัญชามาวิจัยและใช้ในเชิงการแพทย์ และเพื่อเป็นการเข้าใจการบริโภคกัญชาของคนไทย HonestDocs ศูนย์รวมข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ จึงได้จัดทำแบบสำรวจเกี่ยวกับการบริโภคกัญชาขึ้น
แม้การใช้กัญชาทางการแพทย์กำลังอยู่ท่ามกลางการปรึกษาหารือเพื่อปลดล็อคทางกฏหมาย มีคนไทยจำนวนไม่น้อย ถึง 14% ที่เคยลิ้มรสกัญชามาก่อนจากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 12,905 คน ทั้งนี้จากผลสำรวจพบว่า 64% ของผู้ใช้กัญชานำไปใช้เพื่อสันทนาการ และมีเพียง 16% เท่านั้นที่นำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์
ในทางการแพทย์สารของกัญชาที่เป็นที่รู้จักและมีการวิจัยมากคือ THC (Tetrahydrocannabinol) และ CBD (Cannabidiol) ซึ่ง THC ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ทำให้เกิดความผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้ม และลดอาการปวดได้ ในขณะที่ CBD นอกจากจะมีคุณสมบัติในการลดอาการปวดแล้ว ยังสามารถลดการอักเสบของแผล ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าผู้ตอบแบบสอบถามที่ใช้กัญชารักษาทางการแพทย์ ใช้กัญชาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดมากที่สุด (28%) ตามด้วยเพื่อคลายเครียด ช่วยทำให้นอนหลับ (16%) เพื่อรักษาโรคมะเร็ง (16%) และเพื่อรักษาโรคซึมเศร้า (10%)
อันที่จริงแล้ว ยังไม่มีการวิจัยใดยืนยันว่ากัญชาใช้ควบคุมหรือรักษาโรคมะเร็งได้ มีเพียงบางงานวิจัยที่พบว่าสารในกัญชาสามารถชะลอการเกิดใหม่หรือทำให้เซลล์มะเร็งบางชนิดตายได้ในห้องแล็บ แต่ยังจะต้องมีการวิจัยในมนุษย์ต่อไป ในขณะนี้สมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำว่ากัญชาปลอดภัยในการใช้บรรเทาอาการของโรคมะเร็ง และผลข้างเคียงของการทำเคมีบำบัด เช่น คลื่นไส้ ไม่อยากอาหาร แต่ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาจากแพทย์แผนปัจจุบันด้วย
ผลสำรวจยังเผยให้เห็นว่า กว่า 60% ของเยาวชนวัยต่ำกว่า 18 ปีที่ใช้กัญชา ใช้กัญชาทุกวัน สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การใช้กัญชามีผลกระทบต่อสมอง ทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงกับคนวัยนี้ที่สมองกำลังพัฒนา โดยมีงานวิจัยพบว่า วัยรุ่นที่ใช้กัญชานั้นมี IQ ต่ำ ความจำแย่ และสมาธิสั้น กว่าคนที่ไม่ได้ใช้กัญชา
ในฐานะที่เป็นศูนย์รวมข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ HonestDocs แนะนำว่า แม้กัญชาจะใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้ แต่ก็ต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ในปริมาณที่เหมาะสม มิฉะนั้นอาจเกิดผลลบ เช่น ความคิดเลื่อนลอยสับสน ควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม ความจำเสื่อม กล้ามเนื้อลีบ หัวใจเต้นเร็ว หูแว่ว เป็นต้น
ทั้งนี้ 44% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ไม่บริโภคกัญชา ให้เหตุผลว่าไม่ได้มีความต้องการและไม่เห็นประโยชน์ในการบริโภคกัญชา และอีก 42% ยอมรับว่าไม่กล้าลองกัญชาเพราะว่ากลัวจะเสพติด
หมายเหตุ: ข้อมูลและผลสำรวจโดย HonestDocsในบทความนี้เป็นเพียงข้อมูลอ้างอิงเบื้องต้นเท่านั้น ผู้ป่วยที่สนใจการใช้กัญชาเพื่อรักษาหรือบรรเทาโรคควรได้รับการแนะนำและดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด