มาสเตอร์การ์ด เผย กลุ่มมิลเลนเนียลไทย 52% จะโพสต์ข้อความหลังทานอาหาร

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

MasterCard photo library 2013

มาสเตอร์การ์ด เผย คนรุ่นมิลเลนเนียล (อายุ 18-29 ปี) ในเอเชียแปซิฟิก 1 ใน 3 ชอบรับประทานอาหารหรูนอกบ้านอย่างน้อยเดือนละครั้ง ซึ่งบ่อยกว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ ผลสำรวจที่ได้มาจากการสัมภาษณ์บุคคลจำนวน 8,698 คน (อายุระหว่าง 18 – 64 ปี) ในตลาด 17 แห่งของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงมิถุนายน 2558

สำหรับชาวมิลเลนเนียลในเอเชียแปซิฟิกที่ทานข้าวนอกบ้านบ่อยที่สุด คือ ชาวจีน ซึ่งมีอัตราเฉลี่ยในการออกมารับประทานอาหารในร้านหรูถึงเดือนละ 2-3 ครั้ง เป็นจำนวนที่มากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มชาวมิลเลนเนียลทั้งภูมิภาค และมากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ ทั้งหมด

“ปากต่อปาก” ยังมีอิทธิพลมากที่สุด

เมื่อต้องตัดสินใจเลือกร้านอาหาร ผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิก 50% จะเชื่อมั่นในคำบอกเล่าหรือคำแนะนำแบบปากต่อปากจากเพื่อนและครอบครัว ทั้งนี้ ผู้บริโภคโดยรวมทั้งหมด ไม่จำกัดกลุ่มอายุก็อาศัยการตัดสินใจโดยอิงคำแนะนำแบบนี้เป็นส่วนใหญ่เช่นกัน โดยที่ชาวมิลเลนเนียล 52% จะเชื่อคำแนะนำแบบปากต่อปาก และ 38% จะเชื่อคำแนะนำ หรือรีวิวในอินเตอร์เน็ตมากกว่า

ข้อมูลดังกล่าวดูสวนกับกระแสที่ว่า ชาวมิลเลนเนียล 36% จะโพสต์ความเห็นและคำแนะนำของตนลงบนโลกออนไลน์เพื่อเล่าประสบการณ์การทานอาหารที่ได้รับมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มมิลเลนเนียลชาวจีน 61% และชาวไทย 52% ที่มีจำนวนเกินครึ่งได้ทำการโพสต์ข้อความอย่างสม่ำเสมอหลังทานอาหาร

นอกเหนือจากกลุ่มมิลเลนเนียลแล้ว ชาวไทย 39% และชาวจีน 30% โดยรวมมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายมากขึ้นในการรับประทานอาหารนอกบ้านในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยที่ 1 ใน 3 ระบุว่าตั้งใจจะหาร้านอาหารที่หรูหราและแพงขึ้นด้วย

มองหาส่วนลด หรือข้อเสนอดีๆ เสมอ

แม้ว่าผู้บริโภคจะชื่นชอบการรับประทานอาหารนอกบ้าน แต่พวกเขายังคงระมัดระวังในเรื่องค่าใช้จ่าย ผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกร้อยละ 64 จะตรวจสอบหาส่วนลดหรือข้อเสนอดีๆ อยู่อย่างสม่ำเสมอ ทั้งจากเว็บไซต์ที่แจกคูปอง แอพพลิเคชั่นบนมือถือ หรือจากโครงการส่งเสริมทางการตลาดของบัตรเครดิต ชาวมิลเลนเนียล 68% จะมองหาข้อเสนอที่ดีอยู่เสมอก่อนที่จะตัดสินใจเลือกรับประทานอาหารในร้านใด

มร.เอริค ชไนเดอร์ หัวหน้าส่วนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของมาสเตอร์การ์ด แอดไวเซอร์ กล่าวว่า คนเอเชียมีวัฒนธรรมในการทานข้าวนอกบ้านมานานแล้ว ดังนั้น มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชาวมิลเลนเนียลกระเป๋าหนักในภูมิภาคนี้จะกลายเป็นนักชิมตัวยง ซึ่งหลายคนก็จะแชร์ประสบการณ์ของพวกเขาลงในโซเชี่ยลมีเดีย และโพสต์ความเห็นออนไลน์ ในขณะที่ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าคนเริ่มเปลี่ยนรูปแบบจากการทานอาหารตามแผงลอย มาทานในร้านอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ

ทว่า หนุ่มสาวทั้งหลายยังคงใส่ใจในเรื่องค่าใช้จ่าย ด้วยวิธีที่หลักแหลมและใช้ได้จริง โดยการมองหาส่วนลดและเทียบข้อเสนอต่างๆ คนหนุ่มสาวยังคงเชื่อคำแนะนำแบบปากต่อปาก แม้ว่าจะมีโพสต์แนะนำร้านอาหารมากมายให้เลือกอ่านออนไลน์ ทั้งนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจในเอเชียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆกับการมีเทคโนโลยีและโซเชี่ยลมีเดียที่ปฏิวัติรูปแบบการเลือกรับประทานอาหาร ทำให้คนทั่วไปคาดหวังและจะมองหาประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการรับประทานอาหารนอกบ้าน

ประเด็นที่น่าสนใจ

• โดยรวมแล้ว ผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกยังไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการรับประทานอาหารนอกบ้าน โดย 61% ของผู้บริโภคทั้งหมดระบุว่าจะยังคงทานข้านนอกบ้านบ่อยเท่าเดิมในอีก 6 เดือนข้างหน้า 20% มีแผนที่จะทานข้าวนอกบ้านบ่อยขึ้น และ 19% มีแผนที่จะทานข้าวนอกบ้านน้อยลงในอีก 6 เดือนข้างหน้า

• ผู้รับประทานอาหารในไทย 60% และจีน 57% มีแนวโน้มสูงสุดที่จะโพสต์ความเห็นหรือคำแนะนำบน Social Network อาทิ เฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ โดยจำนวนราวหนึ่งในสองของผู้ตอบคำถามในตลาดนี้รายงานว่า พวกเขาโพสต์ความคิดเห็นบนโลกออนไลน์อย่างสม่ำเสมอหลังการรับประทานอาหาร

• ผู้บริโภคในจีน 58%, ไต้หวัน 44% และไทย 44% มีแนวโน้มสูงสุดที่จะทำการจองข้อเสนอร้านอาหารออนไลน์ผ่านเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นที่ให้คูปองส่วนลด ในขณะที่ผู้บริโภคในบังคลาเทศ เพียง 1% และอินโดนีเซีย 11% มีแนวโน้มน้อยสุดที่จะทำแบบนั้น

• ผู้บริโภคที่อาวุโสกว่าจำนวนหนึ่งใช้วิธีตรวจสอบทางออนไลน์เพื่อหาส่วนลด ไม่ว่าจะเป็นจาก เว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นที่มอบคูปอง หรือโครงการส่งเสริมทางการตลาดของบัตรเครดิต กว่าหนึ่งในสามของผู้บริโภคที่อายุ 55 ปีขึ้นไป 36% ระบุว่าพวกเขาทำเช่นนี้เป็นประจำก่อนเลือกว่าจะไปรับประทานอาหารที่ใด

• ผู้บริโภคในฟิลิปปินส์ 44% กำลังรัดเข็มขัด โดยหนึ่งในสองมีแผนที่จะทานข้าวในร้านที่ถูกลงในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และ 49% ตั้งใจจะทานข้าวนอกบ้านให้น้อยลง

• สถานที่ที่ได้รับความนิยมที่สุดสำหรับการรับประทานอาหารของผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิก คือ ร้านอาหารระดับกลางและคาเฟ่ ตามมาด้วยร้านอาหารฟาสต์ฟูด และร้านค้าแผงลอย และสุดท้ายคือศูนย์อาหาร

 


  •  
  •  
  •  
  •  
  •