เรียกว่ายังรอการกลับมาทวงบัลลังค์ตำแหน่งผู้นำตลาด Smartphone อย่าง Apple หลังเสียแชมป์ไปอย่างยาวนานให้กับ Samsung โดยเมื่อปลายปีที่แล้ว Apple กลับมาคว้าตำแหน่งผู้นำตลาดได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนโดนเจ้าของตำแหน่งยึดคืนมาได้ ที่สำคัญยังอาจถูกผู้เล่นจากจีนไล่ลงไปอยู่ในอันดับต่ำกว่าเดิม
นั่นเป็นเพราะรายงานของบริษัทวิจัยตลาดอย่าง IDC ระบุยอดขาย Smartphone เฉพาะของ Apple ลดลง 10% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายในจีนลดลงอย่างฮวบฮาบ นั่นเป็นเพราะคนจีนหันมาใช้แบรนด์ Smartphone ของจีนเองเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดเกิดการแข่งขันอย่างรุนแรง ประกอบกับเศรษฐกิจจีนยังย่ำแย่ ซึ่งแบรนด์จีนมีราคาที่ถูกกว่า
นักวิเคราะห์ยังระบุอีกว่า ปีนี้คาดว่าระบบ Android จะสามารถเติบโตรวดเร็วกว่าระบบ iOS ถึง 2 เท่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Android มีการใช้ที่ลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้โอกาสการเติบโตของ Android ยังมีโอกาสให้เติบโตมากขึ้น
ขณะที่การจัดส่ง Smartphone ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือคิดเป็นประมาณ 289 ล้านเครื่องในไตรมาสแรกของปีนี้ โดย Samsung ยังสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 20.8% หรือคิดเป็นการจัดส่งอยู่ที่ประมาณ 60 ล้านเครื่อง ส่วน Apple มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 17.3% หรือคิดเป็นการจัดส่งอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านเครื่องและ Xiaomi ผู้ผลิตจากจีนมีสัดส่วนอยู่ที่ 14.1% หรือคิดเป็นการจัดส่งอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านเครื่อง
นอกจากนี้ IDC ยังระบุอีกว่า การฟื้นตัวของ Huawei และค่าย Smartphone อื่นๆ ในจีน รวมถึง Xiaomi และ OPPO มีแนวโน้มที่จะเติบ โดยเป็นการเติบโตจากการแย่งส่วนแบ่งของทั้ง Samsung และ Apple โดยเฉพาะผู้บริโภคชาวจีนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นลูกค้า Apple จะหันมาใช้แบรนด์ผู้ผลิตในจีนมากขึ้น ซึ่งตลาดจีนถือเป็นตลาดที่ใหญ่รองจากสหรัฐฯ จีนจึงเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับ Apple แม้จะกระตุ้นยอดขายด้วยการนำเสนอส่วนลดแบบจุกๆ
ที่สำคัญนักวิเคราะห์ยังมองอีกว่า Apple ช่วงที่ผ่านมาไม่ได้สื่อสารชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องของ AI แม้จะมีการนำเสนอระบบ AI อยู่บ้าง ในขณะที่ผู้ผลิตหลายแห่งเพิ่มกลยุทธ์และฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับ AI มากขึ้น โดยเฉพาะ Samsung ที่หันมาใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Galaxy S24 โดยเน้นย้ำถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาระบบ AI มาสู่การใช้งานทั้งข้อความแปลภาษา รูปภาพ และเกม