[infographic] เปิดศึก “เบียร์ VS กาแฟ” อะไรทำให้สมองคุณสร้างสรรค์ได้แจ่มกว่ากัน?

  • 2
  •  
  •  
  •  
  •  

BeerCoffee

 

 

เฮ้อ… เครียด เครียด เครียด งานก็เยอะ เรื่องก็แยะ แถมยังมีแฟนขี้บ่นอีกต่างหาก (อันหลังเติมเอง ฮ่าฮ่าฮ่า) วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าเครื่องดื่มชนิดไหนจะช่วยคุณสลายกองงานล้นโต๊ะที่กองสุมกันมาเป็นสัปดาห์ๆ อย่างหมดจด วัดกันไปเลย! ระหว่างเบียร์กับกาแฟ แก้วไหนจะเจ๋งกว่ากัน! สนับสนุนข่าวและห้ามมวยโดย ilovecoffee ซึ่งนำผลทดลองทางวิทยาศาสตร์ของ Mikael Cho มาตีแผ่เป็น infographic ให้เราดูกัน ยกหนึ่งเริ่ม! เป๋ง!

 

เนื้อหาสำคัญ

สมองของคุณเมื่อได้รับเบียร์ หรือ กาแฟ

 

มุมน้ำเงิน: ฝ่ายเบียร์

ส่วนนี้ของสมองเรียกว่า ซีเรบรัม คอร์เทกซ์ ซึ่งควบคุมสติ ความคิด ภาษาและการตอบสนอง

เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ซิริบรัม คอร์เทกซ์ คุณจะสามารถตั้งสมาธิได้ดีขึ้นเพราะมันทำให้สมองคุณปลอดจากสิ่งกวนใจอื่นๆ

และเมื่อปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดถึง 0.07 (ประมาณ 2 แก้ว)

คุณก็จะ MORE CREATIVE!

 

ข้อดี

เบียร์ทำให้คุณไม่ค่อยกังวลโลกรอบๆ ตัวคุณ และทำให้สมองสามารถเชื่อมโยงไอเดียในส่วนลึกของสมอง คุณจึงสามารถสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว

 

ข้อเสีย

เบียร์เพียงสองแก้วอาจทำให้คุณไม่สามารถตั้งสมาธิและลดความสามารถในการจดจำ

 

เวลาที่ดีที่สุดในการดื่ม

เบียร์ดีที่สุดหากคุณต้องการหาความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ

 

มุมแดง: กาแฟ

เมื่อสารอเดโนเซียเข้าไปกระตุ้นอเดโนเซียรีเซฟเตอร์ คุณจะรู้สึกเซื่องซึม

แต่เมื่อสารคาฟเฟอีนเข้าไปแทนที่และทำการกระตุ้นอเดโนเซียรีเซฟเตอร์แท

นั้นหมายความว่า 5 นาทีให้หลังคุณจะมีพลังงานมากขึ้น

 

ข้อดี

คาฟเฟอีนจะมีผลอยู่เพียง 5 นาทีซึ่งจะทำให้คุณมีพลังงานและเพิ่มความสามารถในการโฟกัสสิ่งต่างๆ

 

ข้อเสีย

ดื่มเพียงเล็กน้อยจะทำให้ร่างกายของคุณเริ่มด้านชาและต้องการดื่มมากขึ้นเรื่อยๆ

 

เวลาที่ดีที่สุดในการดื่ม

ดีเมื่อคุณมีไอเดียอยู่แล้วและต้องการลุยกับงานตรงหน้าให้เสร็จ

 

อย่างไรก็ตาม! การดื่มมากเกินไปจะไม่เกิดผลดีใดๆ เดินทางสายกลางนะพวก!

 

beercoffee

 

 แถมท้ายตอนจบกับหัวข้อ…

อะไรคือความคิดสร้างสรรค์

เว็บ medium อ้างอิงมุมมองทางวิทยาศาสตร์ให้คำจำกัดความ “ความคิดสร้างสรรค์” ไว้ว่า ความสามารถในการคิดถึงสิ่งหนึ่งสิ่งใดแบบต้นฉบับ ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงระหว่างไอเดียก่อนหน้านี้ที่มีสุมอยู่ในสมองคุณ การสร้างควาเชื่อมโยงดังกล่าวเกิดจากสารอะดิโนซีนซึ่งช่วยให้สมองตื่นตัวเมื่อหมดแรงและทำให้กระบวนการเชื่อมโยงเซลล์ประสาทช้าลงเพื่อค้นหาพลังงานที่แอบซ่อนอยู่ในร่างกายขณะนั้น ข้างต้นเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อคุณทำงานอย่างเคร่งเครียดติดต่อกันหลายชั่วโมงจึงเริ่มรู้สึกเหนื่อยหอบ นั้นเพราะของเหลวในสมองเหือดหายไปหมดนั้นเอง


  • 2
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง