ข่าวจาก PR Daily รายงานการศึกษาล่าสุดของ CMO Network ของนิตยสาร Forbes ทำการศึกษามาร์เกเตอร์ชั้นนำกว่า 2 พันคนต่อคำถามที่ว่าโฆษณาชิ้นไหนเป็นโฆษณาที่ดีที่สุดของปีนี้ วิธีการปรับตัวเข้ากับสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ เอเจนซีโมเดลที่ได้ผล และเนื้อหาอื่นๆ แต่หลังจากสัมภาษณ์ กินิ ไดทริช ผู้สัมภาษณ์สังเกตเห็นว่ามาร์เกเตอร์ชั้นนำในวงการกว่า 3 ใน 4 ส่วนไม่ตื่นตัวต่อโลกดิจิตอลทำกำลังเป็นเทรนด์ใหม่ ไดทริชจึงสรุปว่าพวกเขาไม่กระตือรือร้นต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานและตั้งชื่อคอนเซปต์นี้ว่า “โลกเปลี่ยน แต่มาร์เกติ้งไม่หมุนตาม”
โลกเปลี่ยน แต่เอเจนซี่ปรับตัวไม่ทัน?
ไดทริชให้ความเห็นว่าในเมื่อโลกเปลี่ยนไป วิธีรับข้อมูลข่าวสารเปลี่ยนไป ผู้บริโภคต่างก็เข้าถึงข้อมูลข่าวสารด้วยช่องทางที่เปลี่ยนไป แต่บุคคลผู้ซึ่งทำงานเพื่อสื่อสารสินค้าของบริษัทออกไปกลับบอกว่า “มีความสนใจเล็กน้อยกับความเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิตอล”
สิ่งเหล่านี้ตรงข้ามกับผลสำรวจที่ระบุว่า คนปัจจุบันใช้เวลากว่า 30% ในชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์ แต่มาร์เกเตอร์กลับสละงบประมาณเพียง 20% ของงบประมาณทั้งหมดให้กับกลยุทธ์ออนไลน์ ยิ่งกว่านั้น เอเจนซี่มักจ้างคนที่มีคนติดตามในทวิตเตอร์เพื่อทำงานในแผนกดิจิตอล แต่ลืมไปว่าพวกเขาอาจไม่คุ้นเคยกับการทำงานในออฟฟิศเอเจนซี่และอาจไม่มีความรู้เรื่องมาร์เกติ้งมากนัก
ในทางเดียวกัน มาร์เกเตอร์ชั้นนำหลายคนยังระบุว่ารู้สึกสับสนกับช่องทางการสื่อสารที่เพิ่มขึ้นเยอะมาก ทำให้ไม่รู้ว่าจะผนวกช่องทางเหล่านั้นเข้ากับสารที่ต้องการส่งอย่างไร นอกจากนั้น การทำงานกับเอเจนซี่รายอื่นก็เริ่มเป็นปัญหามากขึ้นเนื่องจากเน้นช่องทางการสื่อสารไม่เหมือนกัน
งบประมาณหดหาย?
ลูกค้าปัจจุบันนิยม cut cost ของเอเจนซี่ลงอย่างไม่ถนอมน้ำใจ เนื่องจากเมื่อยอดขายตก (ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการที่บริษัทไม่สามารถปรับตัวเข้ากับโลกดิจิตอล แต่อีกส่วนหนึ่งก็มีสาเหตุมาจากเอเจนซี่เช่นกัน) บริษัทจึงเริ่มเห็นว่าเอเจนซี่ไม่มีผลงานให้ประจักษ์และสมควรได้รับส่วนแบ่งน้อยลง นอกจากนี้การประเมินการทำงานของเอเจนซี่ยังทำได้ยากและไม่เป็นรูปธรรม
สำหรับบรรทัดสุดท้าย ผมมีความเห็นว่าการเข้าสู่ยุคดิจิตอลอาจไม่ได้เป็นอะไรที่ลึกล้ำถึงขนาดที่เอเจนซี่หลายคนต้องออกมาหวั่นวิตกและพยายามเร่งองค์กรให้ไปถึงระดับนั้นอย่างรวดเร็ว เพราะเบสิกที่สุดของการสื่อสารเตือนให้เรารู้ว่าผู้บริโภคจะจับใจโฆษณาหรือการสื่อสารที่คุยกับเขารู้เรื่องและน่าฟังเป็นสำคัญ ดิจิตอลหรือออนไลน์ที่ตื่นตัวกันนั้นเป็นเพียง channel หรือ ช่องทางหนึ่ง ที่เพิ่มให้คุณเข้าถึงผู้บริโภคง่ายขึ้น แต่ไม่ได้รับประกันว่าคุณจะคุยกับเขารู้เรื่องหรือไม่ ในทางกลับกัน การคุยกับผู้บริโภคได้มากทางและถี่ขึ้นอาจยิ่งเร่งให้เขา “เกลียด” คุณได้ไวขึ้น หากผลิตภัณฑ์ การสื่อสาร หรือกลยุทธ์ของคุณมีรอยด่างให้เห็น นำไปสู่การล่มสลายในไม่ช้า ฉะนั้น การเคลื่อนตัวช้าแต่มีคุณภาพอาจเป็นคำตอบในยุคที่ทุกอย่างหมุนไวจนผู้บริโภคไม่ทราบว่าอะไรเป็นของดีกันแน่