แม้ว่าช่วงปีที่ผ่านมา EV จะเป็นที่พูดถึงอย่างมาก ทั้งในแง่ของการแข่งขันในตลาดอย่างราคาขาย ค่าใช้จ่ายแฝงที่ไม่ได้ถูกไปกว่ารถยนต์ใช้น้ำมัน หรือเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ EV มีส่วนช่วยอย่างมาก แต่หากดูเทรนด์รถยนต์ระดับโลกแล้วจะเห็นได้ว่าเริ่มย้อนกลับมาที่เทคโนโลยี Hybrid เนื่องจากใช้ไฟฟ้าได้เช่นเดียวกับ EV และใช้สะดวกสบายในเรื่องของการเดินทางเช่นเดียวกับรถใช้น้ำมัน
แต่นอกจากเรื่องของสมรรถนะและความสะดวกสบายระหว่างการเดินทางแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเช่นกัน ซึ่งจากข้อมูลอินไซต์ของ Krungsri Auto ที่ประมวลมาจากฐานผู้ใช้รถกว่า 4.2 ล้านรายภายใต้แอป Go by Krungsri Auto พบว่ามี 3 เทรนด์ตลาดรถที่ผู้บริโภคน่าจับตามองในปี 2025
Connectedness ช่องทางสู่โลกออนไลน์
ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีอย่าง AI และ ChatGPT ได้เข้ามาเป็นผู้ช่วยของหลายๆ คน ทำให้คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z กล้าแสดงความคิดเห็น และมีแนวความคิดที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น บทความเชิงวิเคราะห์หรือเปรียบเทียบสินค้าต่างๆ กลายเป็นที่นิยม และมีการเชื่อมโยงที่ไร้ขีดจำกัดในทุกๆ ช่องทาง ส่งผลให้พฤติกรรมการเลือกซื้อของผู้บริโภคกลายเป็น O2O2O
หรือหมายถึงจากออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์ แล้วจากออฟไลน์ก็สามารถสะท้อนกลับมาสู่ออนไลน์ได้อีกครั้ง สิ่งนี้ทำให้แบรนด์ต่างๆ ต้องปรับตัว และให้ความสำคัญกับการบริการที่ฉับไว รวมไปถึงควรมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาและให้คำแนะนำให้แก่ลูกค้าได้ทันทีหน้างาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำได้ตอนที่อยู่บนรถ และรถจะเป็นหนึ่งช่องทางในการเชื่อมต่อเข้าสู่โลกออนไลน์
Careful Spending ซื้อทำไมถ้าเช่าได้
เนื่องจากความกังวลด้านเศรษฐกิจและภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงมาก ทำให้หลายคนมีแนวโน้มในการใช้สอยอย่างชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมการทดลองเช่าระยะสั้นเป็นที่นิยมมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ลดภาระด้านอื่นๆ เช่น การหันมาเช่าใช้รถเฉลี่ย 2-3 ปีต่อรถหนึ่งคัน แทนการซื้อครอบครองแบบไม่ต้องผูกพันในระยะยาว เพื่อซื้อประสบการณ์การใช้รถ เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ เช่น ประกัน ภาษี ค่าซ่อมบำรุง
สำหรับตลาดรถเช่าของไทยในปี 2025 คาดว่าอยู่ที่ระดับ 50,000 ล้านบาท โดยมีแนวโน้มของการแข่งขันในธุรกิจรถยนต์ให้เช่าที่สูงขึ้น ผู้ประกอบการที่เป็นค่ายรถยนต์ก็เริ่มหันมาต่อยอดทำธุรกิจรถเช่าในระยะยาวเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น เกิดแพลตฟอร์มรถเช่าใหม่ๆ เพื่อให้รายย่อยสามารถนำรถยนต์ของตนเองมาปล่อยเช่าได้ในลักษณะเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (Sharing Economy) รวมไปถึงตัวเลือกการให้เช่ารถยนต์ EV ด้วย
Community-on-the-go รับจบครบบนออนไลน์
อย่างที่กล่าวไว้ในช่วงแรกว่า รถยนต์จะกลายเป็นหนึ่งช่องทางในการเชื่อมต่อสู่โลกออนไลน์ ในขณะที่ตลาดรถยนต์ก็จะเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มตัว และจะเป็นช่องทางหลักของผู้บริโภคในการหาข้อมูลและการติดต่อซื้อขายสินค้า โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์มือสองที่จากเดิมใช้แพลตฟอร์ม Marketplace เป็นหลัก แต่หลายธุรกิจก็เริ่มเข้าสู่ช่องทางนี้ด้วยตัวเองกันแล้วผ่านโซเชียลมีเดียว
ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่สนใจสามารถดูสภาพรถ และค้นหาข้อมูลได้อย่างละเอียด รวมถึงตรวจสอบประวัติรถ เช่น เลขไมล์ และการรับรองคุณภาพ ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเดินทางไปโชว์รูมหรือเต็นท์รถ ปัจจุบันดีลเลอร์หลายรายพัฒนาบริการแบบต่อเนื่อง ให้ลูกค้าสามารถยื่นขอสินเชื่อออนไลน์กับสถาบันการเงินได้ทันที และจัดส่งรถยนต์ถึงบ้าน ทำให้กระบวนการซื้อสะดวก รวดเร็ว มีความโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นได้มากขึ้น