“คมอักษร…แต่เจือด้วยความสัตย์”
เวลาผันผ่านเข้าสู่ยุคดิจิตอล เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ข้อความจากลายมือหรือตัวอักษร กลายเป็นข้อความทาง ‘โซเชียล’ ซะส่วนใหญ่ เหมาะกับชีวิตอันวุ่นวายในเมือง เพราะมันเป็นเพียงความสัมพันธ์ที่ใช้เวลาสั้นๆเท่านั้น แต่ข้อความสั้นๆก็มีพลานุภาพพอที่จะสั่นหัวใจให้หวั่นไหว ดึ๋งดั๋ง และมีพลังที่จะทำงานและใช้ชีวิตซ้ำๆนั้นต่อไป
เป็นไปได้ไหมว่าอารมณ์ของการ ‘ไม่ได้เจอ’ แต่ ‘ได้พิมพ์’ ได้แอบอมยิ้มกรุ้มกริ่มกับตัวเองเงียบๆตามร้านอาหาร ในสถานที่ทำงาน บนรถเมล์ รถไฟฟ้า ในร้านกาแฟ…คือ อารมณ์ร่วมสมัย เสน่ห์ของห้วงอารมณ์ประเภทนี้คือการ ‘ได้คุยแต่ไม่ได้เจอ’ นี่เอง สิ่งที่น่าคิดคือ…อาการอมยิ้มกรุ้มกริ่มกับตัวเองจะยังคงอยู่หรือไม่? เมื่อต้องสื่อสารกันผ่านปากต่อปาก ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เวลาต้องอยู่ด้วยกันแบบตัวเป็นๆ
ระยะห่างคือความสวยงามประเภทหนึ่ง และบางทีการไปถึงคือการทำลายความสวยงามนั้นในตัวมันเอง ดังเช่น การมองดวงจันทร์แสงนวลบนพื้นโลก กับการไปถึงดวงจันทร์แล้วเห็นพื้นผิวขรุขระ เช่นเดียวกับข้อความในโลกโซเชียล…มันสวยงามเสมอ เพราะมันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆที่พาเราออกไปจากโลกแห่งความจริงตรงหน้า แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า… มันยังไม่ใช่ความจริง!
และนี่คือ 10 นักเลงคีย์บอร์ด ที่เรามักจะพบเจอบ่อยมากที่สุดในทุกๆคอมเม้นต์ ครับ
“ใครสนวะ!”
นักเลงชนชั้นนี้มักเป็นพวกขี้หงุดหงิด เห็นอะไรที่มันขวางหูขวางตาตัวเองบนโลกโซเชียลไม่ได้ เป็นต้องเข้าไปแสดงความคิดเห็นสั้นๆแต่จริงใจและได้ใจความว่า “ใครสนวะ!”
รู้จริงทุกเรื่อง…ยกเว้นเรื่อง ‘ตู’ เอง
ไม่ว่าเราจะค้นคว้าหาข้อมูล เสาะแสวงหาความเท็จจริงมาอย่างสุดขั้วแค่ไหน แต่ก็ยังต้องหลีกแป้นให้กับคนกลุ่มนี้ครับ เพราะพวกเขามักจะชอบทำตัวเป็นคนรอบรู้ บรรลุพุทธิปัญญาเสมอ แต่ถ้าหากเรามองเป็นเรื่องดีได้…ความรอบรู้ หรือสอดรู้ของพวกเขา อาจเป็นผลดีกับเราในอนาคตได้ มองโลกให้เป็นสองด้านเสมอ…แล้วเราจะเข้าใจกันมากขึ้น ครับ
‘ไลค์’ ไว้ก่อน…พ่อสอนไว้
คนกลุ่มนี้เอะอะเป็นไลค์ เอะอะเป็นเลิฟ เรามักจะพบเห็นชนชั้นกลุ่มนี้เที่ยวกดไลค์ให้คนนู้นคนนี้อยู่บ่อยๆบนหน้า Feed ของเรา ทั้งที่ความเป็นจริงอาจไม่ได้อ่านข้อความที่เจ้าของสเตตัสแชร์ หรือไม่ได้กดเข้าไปดูข้างในเลย แต่พวกเขาจะมีแนวคิดอย่างหนึ่งที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างหนักแน่นว่า ‘ไลค์เข้าไว้…เป็นดี’
จู่โจมเฉียบพลัน
นี่คือสมาชิกกลุ่มที่มีอารมณ์ชัดเจนที่สุด พวกเขามักจะจู่โจม ต่อว่า และล่วงละเมิดทาง ‘เพจ’ ทันทีที่พบว่าเนื้อหา หรือบทความนั้นๆไร้สาระ หรือไม่ถูกต้องสำหรับพวกเขา ด้วยการทำร้ายทางวาจาทั้งผู้เขียนบทความ และคนแชร์…ชนิดเอาไม้จิ้มลูกชิ้นไม้เดียว แต่ได้ลูกชิ้นถึงสองลูก
ฮา why?
ฮาไปเสียทุกเรื่อง…จนเรื่องนั้นๆเสียใจความไปเลย สมาชิกพรรคในกลุ่มนี้มักจะฮาบริโภคเสมอ แม้จะเป็นสเตตัสที่ซีเรียส เอาจริงเอาจัง เราก็มักจะพบเห็นพวกเขาแวะเข้ามาป้วนเปี้ยน โชว์ความฮา…นำพามุข มาให้เราได้ขำขันอมยิ้มกันอยู่เสมอ จนบางครั้งเจ้าของสเตตัสก็อดสงสัยไม่ได้ว่า…นี่พวกพี่จะฮากันไปไหนวะเนี่ย!
ฮาตามนัด
ตามกันมาติดๆเหมือนตระเตรียมแผนการกันไว้แล้วเป็นปีๆ ทันทีที่มีคนฮาเจ้าแรก เราก็มักจะเห็นเจ้าที่สองมาสมทบสมทุนความฮาต่อกันอย่างติดๆ แน่นอนว่า…เมื่อมีหนึ่งมีสอง ก็ต้องมีสาม มีสี่ ตามมาแน่นอนครับ เผลอๆยาวเยียดเป็นขบวนคาราวานฮาคอมเม้นต์ กันเลยทีเดียว
สารวัตรคำผิด
สะกดผิด เขียนผิด นี่ไม่ได้เลย พี่แกต้องเข้ามาตรวจตราทุกที
“ขอแหล่งที่มาด้วยครับ”
ทีขอหวยไม่เห็นต้องใช้แหล่งที่มาเลย ขูดเลขออกก็ซื้อกันละ
แฟนพันธ์ุ ‘ทวง’
หากต้องมีการพาดพิงชิ่งกระทบถึงศิลปิน/นักร้อง/ภาพยนตร์/หรือดาราเซเลบฯ โปรดจงระมัดระวัง ยั้งไม้ยั้งนิ้วไว้บ้าง เพราะเราอาจจะโดนพวกแฟนพันธุ์แท้ตัวยงทั้งหลาย เข้ามารุมปราบปรามชนิดไม่มีที่ให้แทรกแผ่นดินหนีเลยเชียวล่ะ
“คหสต. นะค่ะ”
ส่วนตัวยังไงกัน! เม้นต์อร่ามอยู่บนโซเชียลเนี่ย
อนึ่ง, เหนือกว่าการแชท คือ การโทร…เหนือกว่าการโทร คือ การได้มองตากัน