อินไซต์ตลาดสัตว์เลี้ยง คนไทยนิยมเลี้ยงสัตว์แทนลูก – ถอดกลยุทธ์ “Petsumer Marketing” เอาใจทาสสายเปย์

  • 172
  •  
  •  
  •  
  •  

Petsumer-Marketing

“ตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยง” ทั้งในระดับโลก และในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันขยายไปยังสินค้า-บริการอีกหลากหลายกลุ่ม โดยในปี 2021 Euromonitor ประมาณการณ์ธุรกิจสินค้าและบริการเกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยง มีมูลค่า 43,372 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 110,268 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่มูลค่าตลาดในไทย ธุรกิจสินค้าและบริการเกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 3,954 ล้านบาท และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 40,638 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าในปี 2026 ตลาดสัตว์เลี้ยงโลก จะมีมูลค่าสูงถึง 217,651 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโตเฉลี่ย (2021 – 2026) ปีละ 7.2% (CARG) เช่นเดียวกับมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะเติบโตจากปี 2021 เฉลี่ยปีละ 8.4% (CARG) มาอยู่ที่ 66,748 ล้านบาทในปี 2026

จากมูลค่าตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่านับวันผู้คนจะหันมาเลี้ยงสัตว์มากขึ้น ซึ่งการเลี้ยงสัตว์ในทุกวันนี้ ไม่ได้เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่ยังดูแลเหมือนลูก หรือสมาชิกในครอบครัว

Petsumer

ล่าสุด “วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล” หรือ “CMMU” เผยผลสำรวจตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงในไทย ที่เติบโตสวนกระแส COVID-19 เป็นอย่างมาก สอดคล้องกับอัตราการเลี้ยงสัตว์ในไทยจากฐานข้อมูลเพื่อการขึ้นทะเบียนสุนัข-แมว มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากทุกปี ขณะที่อัตราการเกิดของเด็กในไทยตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นถึงครอบครัวจำนวนมากนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เพื่อเข้ามาเติมเต็มครอบครัว

เมื่อความนิยมการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้น และเป็นเทรนด์ต่อเนื่องในระยะยาว ทำให้ปัจจุบันหลายแบรนด์หันมาทำการตลาดด้วยกลยุทธ์ “Pet Marketing” มากขึ้น เป็นกลยุทธ์การตลาดที่แบรนด์เลือกใช้ “สัตว์เลี้ยง” เข้ามาเป็นอัตลักษณ์ส่วนหนึ่งของแบรนด์ เพื่อช่วยในการสื่อสารและสร้างภาพจำ หรือเพื่อผลประโยชน์ทางการตลาด โดยภาพโฆษณาที่มีทั้งสัตว์และสินค้าอยู่ในโฆษณา จะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากขึ้น และยังส่งผลให้ Pet Influencer เติบโตเพิ่มขึ้น

Petsumer Marketing

 

49% ของคนไทยเลี้ยงสัตว์แทนลูก และกว่า 80% อยู่สถานะโสด

ผลการศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณ โดนใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,046 คนเก็บข้อมูลโดยใช้ผ่านแบบสอบถาม และการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 100 คน เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก กลุ่มตัวอย่างแบ่งออกเป็นเพศหญิง 66.8% เพศชาย 22.3% และเพศทางเลือก 10.9% โดยอยู่ในช่วง Generation Z (น้อยกว่า 24 ปี) 12% Generation Y (24 – 41 ปี) 77.3% และ Generation X (42 ปีขึ้นไป) 10.7%

จากผลสำรวจพบ 3 เหตุผลหลักของการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง

– 49% เลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นลูก (Pet Parent) โดยเทรนด์การเติบโตของ Pet Parent เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในประเทศไทย โดยอัตราการเลี้ยงสัตว์ในไทยอ้างอิงจากฐานข้อมูลเพื่อการขึ้นทะเบียนสุนัข – แมว (Pet Register) เพิ่มมากขึ้นทุกปี ในขณะเดียวกัน อัตราการเกิดของเด็กไทยในช่วงปี 2560 – 2564 ก็ลดลงทุกปีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

– 34% เลี้ยงสัตว์เพื่อสถานะทางสังคม (Pet Prestige)

– 18% เพื่อช่วยเหลือ และช่วยบำบัดรักษา (Pet Healing) โดยสัตว์เลี้ยงบำบัดมีประโยชน์ อาทิ เพิ่มความสุข เพราะช่วยเพิ่มระดับสาร Oxytocin ได้ 20% และทำให้สภาพจิตดี ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดความดันโลหิต รวมถึงช่วยเยียวยาจิตใจหรือร่างกาย

นอกจากนี้ การสำรวจยังพบว่า 80.7% ของผู้ที่เลี้ยงสัตว์มีสถานะโสด และ 19.3% มีสถานะสมรสแล้ว

Petsumer Marketing

Petsumer Marketing

Petsumer Marketing

 

ทาสหมา – ทาสแมวครองเมืองสูงสุด – คนเลี้ยงสัตว์ Exotic เพราะแตกต่าง เลี้ยงง่าย

การสำรวจครั้งนี้ ยังเจาะลึกว่าคนไทยนิยมเลี้ยงสัตว์อะไรมากที่สุด พบว่า

– 40.4% ของกลุ่มตัวอย่างเลี้ยงสุนัขมากที่สุด เนื่องจากสุนัขมีความซื่อสัตย์ ซุกซน ขี้เล่น ฉลาด แสนรู้ และคลายเหงาได้

– 37.1% ของกลุ่มตัวอย่างเลี้ยงแมว เนื่องจากไม่ส่งเสียงดัง น่ารัก ขี้อ้อน เลี้ยงดูง่าย เป็นสัตว์ที่รักสะอาด และไม่มีกลิ่นเหม็น

– 22.6% เป็นกลุ่มที่เลี้ยงสัตว์ Exotic เพราะสัตว์กลุ่มนี้ดูมีความแตกต่าง และอินเทรนด์ สามารถบอกตัวตนของคนเลี้ยงได้ อีกทั้งยังเลี้ยงง่าย ใช้พื้นที่น้อย อายุยืน เป็นโรคน้อย และสามารถเลี้ยงตามธรรมชาติได้

Petsumer Marketing

สำหรับสัตว์ Exotic ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด คือ ปลาสวยงาม เพราะไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์มาก รองลงมาคือ นก กระต่าย เต่า และหนู ตามลำดับ

นอกจากนี้ยังมีสัตว์แปลกที่คนนิยมเลี้ยงเช่นกัน อันดับ 1 คือ กิ้งก่า ตามมาด้วยชูก้าไกลเดอร์ แมงมุม งู ไก่สวยงาม ตามลำดับ

โดยช่องทางการรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง Exotic คือ Facebook Page/Facebook Group, YouTube หาความรู้ วิธีการดูแล-รักษา และ TikTok เพื่อคลายเครียด และดูเพื่อความบันเทิง

Petsumer Marketing

 

“เป็นทาส” ต้องพร้อมเลี้ยง พร้อมดูแล – พร้อมรักษา เผยทาสสายเปย์ ยอมจ่ายกว่า 2 หมื่นต่อตัวต่อปี 

ในการเลี้ยงสัตว์ ผู้เลี้ยง หรือเจ้าของต้องมีความพร้อม ทั้งความพร้อมในการเลี้ยง – พร้อมดูแล และพร้อมรักษา ซึ่งต้องมีการศึกษา หาข้อมูลต่างๆ เพื่อตัดสินใจ และมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องในการเลี้ยงสัตว์แต่ละชนิด รวมถึงค่าดูแลรักษาที่แตกต่างกันไป

  • พร้อมเลี้ยง

ช่องทางการรับข้อมูลเกี่ยวกับอาหารสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด คือ

– โซเชียลมีเดีย 39.8%

– จากเพื่อนและครอบครัว 28%

– ค้นหาทางอินเทอร์เน็ต 22.3%

– โฆษณาทีวี 9.9%

Petsumer Marketing

ช่องทางการซื้ออาหารสัตว์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ

– ร้านขายสินค้าสัตว์เลี้ยง 34.8%

– อีคอมเมิร์ซ 22.2%

– ซูเปอร์มาร์เก็ต 12.4%

– ไฮเปอร์มาร์เก็ต 11.8%

– คลินิกรักษาสัตว์ 8.2%

ขณะที่ความถี่ในการซื้อ มากกว่า 50% ซื้อมากกว่า 1 ครั้งต่อเดือน โดยปัจจัยหลักที่กระตุ้นการตัดสินใจในการซื้อ ได้แก่ โปรโมชัน ความหลากหลาย และคุณภาพของสินค้า

Petsumer Marketing

ทางด้านพฤติกรรมของผู้ซื้ออาหารสัตว์มักจะมุ่งเน้นการซื้อเพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยง ไม่ค่อยซื้อเพื่อตุนของ และ 62.6% ไม่ค่อยนิยมเปลี่ยนแบรนด์ เนื่องด้วยกลัวสัตว์เลี้ยงจะมีอาการท้องเสีย ไม่คุ้นกลิ่น และไม่คุ้นเม็ดอาหาร

สำหรับแบรนด์อาหารสัตว์ยอดนิมสำหรับสัตว์ทั่วไป ได้แก่ Royal Canin, SmartHeart และ Me-O

ในขณะที่อาหารสัตว์ Exotic แบรนด์ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Optimum, Sakura และ Prima

ส่วนค่าใช้จ่ายอาหารสัตว์ต่อเดือน พบว่าส่วนใหญ่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,001 – 2,000 บาทต่อเดือน

– ต่ำกว่า 1,000 ต่อเดือน อยู่ที่ 34.2%

– 1,001 – 2,000 บาทต่อเดือน อยู่ที่ 39.3%

– 2,001 – 3,000 บาทต่อเดือน อยู่ที่ 15.6%

– มากกว่า 3,000 บาทต่อเดือน อยู่ที่ 10.9%

Petsumer Marketing

  • พร้อมดูแล

ในด้านการดูแลเหล่าสัตว์เลี้ยงก็มีบริการยอดฮิตที่นิยมใช้ พบว่า

– อาบน้ำตัดขน 60.1%

– บริการรับฝากเลี้ยง 25.9%

– บริการสปานวด 6.7%

– บริการทำเล็บ 5.8%

ปัจจัยในการเลือกใช้บริการร้านเสริมสวยสัตว์เลี้ยง คือ

– ทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง

– รองลงมาคือความน่าเชื่อถือของสถานบริการ

– พนักงานมีจำนวนเพียงพอและเชี่ยวชาญ

– แบรนด์มีชื่อเสียง

Petsumer Marketing

ส่วนค่าใช้จ่ายต่อครั้งในการใช้บริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่อยู่ที่ 1,000 – 3,000 บาทต่อครั้ง

– 1,000 – 3,000 บาทต่อครั้ง อยู่ที่ 57.4%

– 3,001 บาทขึ้นไปต่อครั้ง อยู่ที่ 27%

– ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อครั้ง อยู่ที่ 15.6%

ส่วนความถี่ในการนำสัตว์เลี้ยงไปใช้บริการ ส่วนใหญ่มักนำสัตว์เลี้ยงเข้ารับบริการดังกล่าวประมาณ 1 ครั้งต่อเดือน

Petsumer Marketing

นอกจากนี้สิ่งที่คนรักสัตว์ทั้งหลายต้องการมี 3 อย่าง คือ

1. Pet Wellness Center บริการตรวจสุขภาพ รักษาโรค อาบน้ำ ตัดขน สปาสัตว์เลี้ยง ฝากสัตว์เลี้ยง จำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์ และปรึกษาแพทย์ออนไลน์

2. Pet Training ฝึกนิสัยสุนัขพันธุ์ดุ คลินิกดัดนิสัยสุนัข-แมว หรือการฝึกกีฬาเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน

3. After Death Service บริการรูปปั้นสัตว์เลี้ยงหลังเสียชีวิต สร้อยล็อกเก็ตแทนใจ หรือตุ๊กตาสุนัขเหมือนจริง

Petsumer Marketing

  • พร้อมรักษา

ในด้านการรักษาพยาบาล พบว่าคนเลี้ยงสัตว์ส่วนใหญ่เลือกนำสัตว์ไปรักษาในคลินิกเอกชน เนื่องจากเดินทางสะดวก และเวลายืดหยุ่น

– 43.3% เลือกที่จะนำสัตว์ไปรักษาในคลินิกเอกชน

– 41.2% เลือกนำสัตว์เลี้ยงเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสัตว์เอกชน

– 9.8% เลือกรักษาในโรงพยาบาลสัตว์รัฐบาล

โดยปัจจัยที่พิจารณาเลือกโรงพยาบาล หรือคลินิกในการใช้บริการ คือ ความเชื่อมั่นในสัตวแพทย์เป็นอันดับ 1 รองลงมา คือ ทำเลที่ตั้ง และชื่อเสียงของคลินิก ทางด้านการรักษาของสัตว์เอ็กโซติก คลินิกเฉพาะทางยังมีไม่มากเท่าไรนัก

Petsumer Marketing

 

Pet Marketing – Pet Influencer” ความน่ารักของสัตว์เลี้ยงดึงดูดให้คนสนใจ และมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ

ขณะที่การสื่อสารการตลาดจากแบรนด์ถึงคนเลี้ยงสัตว์ หรือที่เรียกว่า “การตลาดสัตว์เลี้ยง” (Pet Marketing) คือ กลยุทธ์การตลาดที่แบรนด์เลือกใช้ “สัตว์เลี้ยง” เข้ามาเป็นอัตลักษณ์ส่วนหนึ่งของแบรนด์เพื่อช่วยในการสื่อสารและสร้างภาพจำ หรือเพื่อผลประโยชน์ทางการตลาด

สำหรับการใช้สัตว์เลี้ยงในการโฆษณา (Pet on Advertising) พบว่า

– ภาพโฆษณาที่มีสัตว์และสินค้าอยู่ด้วยกันมีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากที่สุด 43.82%

– รองลงมาคือ ภาพที่มีสินค้าอย่างเดียว 37.08%

– ภาพคน สัตว์ และสินค้า มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ 19.10%

โดยภาพที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากที่สุดอย่างภาพที่มีสัตว์และสินค้าอยู่ด้วยกันจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ เพราะสัตว์จะช่วยดึงดูดได้ ดูไม่เน้นการขายมากจนเกินไป และสามารถเปรียบเทียบขนาดของสินค้าได้อย่างชัดเจน

Petsumer Marketing

สำหรับสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคอยากเห็นสัตว์เลี้ยงในการสื่อสารการตลาด ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค สายการบิน เครื่องใช้ไฟฟ้า และรถยนต์

นอกจากนี้ยังมีสัตว์เลี้ยงที่ทรงอิทธิพลบนโลกโซเชียล หรือ “Pet Influencer” หมายถึง สัตว์เลี้ยงที่มีอิทธิพลที่สามารถทำให้เกิดประโยชน์ด้านการตลาด

ประโยชน์ของ Pet Influencer มีทั้งช่วยโปรโมทสินค้า หรือบริการเพื่อคนรักสัตว์ ช่วยในการโปรโมทกิจกรรมและการท่องเที่ยวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง และมอบความบันเทิงแก่ผู้ติดตาม และสร้างรายได้จากคอนเทนต์ต่างๆ

โดยประเภทของคอนเทนต์ที่โดนใจผู้ชมมากที่สุด คือ คอนเทนต์บันเทิง ขำขัน โชว์พฤติกรรมสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ โดยคลิปสั้น หรือ Short Clip ถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำคอนเทนต์

Petsumer Marketing

 

PETSUMER Marketing” กลยุทธ์มัดใจทาสสายเปย์ และโอกาสทางธุรกิจ

จาก Insights ของภาพรวมตลาดสัตว์เลี้ยง และเหล่าทาส ทีมวิจัยได้พัฒนากลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อมัดใจเหล่าทาสสายเปย์ และสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยพัฒนาออกมาเป็นกลยุทธ์ “PETSUMER” ดังนี้

กลยุทธ์ทางด้านสินค้า และบริการ

– Personalization – ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะด้าน

– Easy Access – ความสะดวกและเข้าถึงง่าย คือ หัวใจ

– Trustworthiness – มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ น่าไว้วางใจ

– Social Influence – อิทธิพลจากคนในสังคมสำคัญต่อการตัดสินใจ

Petsumer Marketing

กลยุทธ์ด้านการสื่อสาร

– Uniqueness – สร้างเอกลักษณ์ให้โดดเด่นและเป็นที่จดจำ

– Mental Support – การสื่อสารโดยใช้สัตว์เพื่อคลายเครียด

– Engagement – สร้างความผูกพันกับลูกค้าจนเกิด Loyalty

– Rights – ให้ความสำคัญกับสิทธิของสัตว์เลี้ยง

Petsumer Marketing

โดยมีช่องทางในการสร้างโอกาสจากตลาดเหล่าทาสสายเปย์ได้มากมาย ได้ในด้านสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง ได้แก่ การขายของที่ระลึก หรือของแทนใจ การขายอาหารเสริม หรือวิตามิน และแฟชั่นสัตว์เลี้ยง

ส่วนด้านการบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงก็มีโอกาสในการธุรกิจเช่นกัน อาทิ ศูนย์บริการสัตว์เลี้ยงครบวงจร คลินิกสำหรับสัตว์ Exotic บริการ Telemedicine และบริการฝึกสัตว์เลี้ยง

Petsumer Marketing


  • 172
  •  
  •  
  •  
  •  
WP
อยู่ในแวดวงนิตยสารธุรกิจการตลาดกว่าสิบปี สนุกและชอบติตตามเทรนด์ ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในแพลตฟอร์มดิจิทัล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การตลาดและดิจิทัลร่วมกันนะคะ