The Surfer Kits ชุดอุปกรณ์คู่มือรวบรวมตัวช่วยให้ธุรกิจสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคสู่ความสำเร็จตลอดปี 2024 จัดทำโดย MEDIA INTELLIGENCE GROUP (MI GROUP) หนึ่งในไฮไลต์ที่น่าสนใจของชุดอุปกรณ์คู่มือนี้ คือ หมวดรู้ทัน โดยทีมงาน MI GROUP ได้ออกแบบ “MI’s Brand Personality Test – An Analysis” เป็นแบบทดสอบออนไลน์เพื่อวัด Brand Personality ว่าในมุมมองของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมองแบรนด์เราอย่างไร หรือมีการรับรู้ มีความเชื่อ มีความชอบต่อแบรนด์เราอย่างไร รวมทั้งยังเป็นการตรวจเช็ค Brand Personality ของตนเอง ณ ปัจจุบันเป็นอย่างไร เพื่อนำไปใช้วางแผนกลยุทธ์การตลาดและการใช้สื่อได้เช่นกัน
ด้วย 5 หมวดคำถาม ได้แก่ Brand Perception, Brand Value, Market Engagement, Customer Relationship, Product Diversity/Excellence ประเมินผลการบริหารแบรนด์ และประมวลผลโดย AI จากนั้นสะท้อนออกมาเป็นบุคลิกสัตว์ 12 ประเภทที่มีความโดดเด่นในแต่ละด้าน
นอกจากนี้ MI GROUP ยังได้วิเคราะห์ถึง Brand Personality ที่สะท้อนผ่านสัตว์แต่ละชนิด มีเทรนด์ที่ควรจับตามอง และเทรนด์ที่ควรระวัง เพื่อธุรกิจหรือแบรนด์ได้เตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสใหม่ และรับมือกับความท้าทายในปี 2024
1. ช้าง: มีความแข็งแกร่ง มีความน่าเชื่อถือ น่าเกรงขาม หนักแน่น
เทรนด์ที่ควรจับตามอง:
– การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน: พัฒนาแบรนด์ให้เป็นผู้นำในการปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน สื่อถึงความรับผิดชอบ ใส่ใจ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในปัจจุบัน
– การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล: ปรับใช้นวัตกรรมเพื่อพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาทางเทคโนโลยีให้ทันกับสถานการณ์การใช้เทคโนโลยีของผู้บริโภคในปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและความน่าเชื่อถือในสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลสมัยใหม่
เทรนด์ที่ควรระวัง:
– การผสมผสานทางวัฒนธรรม: ควรใช้ความระมัดระวังในการผสมผสานทางวัฒนธรรมหรือองค์ประกอบที่หลากหลาย โดยพยายามสร้างความสมดุลระหว่างการรับสิ่งใหม่และการรักษาสิ่งเดิม เพื่อรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจนและสม่ำเสมอ
2. สิงโต: แข็งแกร่ง มีพลัง โดดเด่น และมีความเป็นผู้นำ
เทรนด์ที่ควรจับตามอง:
– การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล: เปิดรับความก้าวหน้าด้านดิจิทัล โดยวางตำแหน่งแบรนด์ให้เป็นผู้นำในการปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคให้สะดวกสบายและล้ำสมัยยิ่งขึ้น
– การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน: แสดงความเป็นผู้นำของแบรนด์ในการส่งเสริมความยั่งยืนในการท่องเที่ยว สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในแนวทางปฏิบัติที่มีความรับผิดชอบและมีความคิดก้าวหน้าในธุรกิจ
เทรนด์ที่ควรระวัง:
– การยึดติดธรรมเนียมเดิมมากเกินไป: แม้ว่าการปฏิบัติตามสิ่งดั้งเดิมเป็นสิ่งสำคัญ แต่การยึดติดมากเกินไปอาจขัดขวางความสามารถในการปรับตัวและการรับนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้แบรนด์ตามไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่กำลังพัฒนา
3. เหยี่ยว: มุ่งเน้นการใช้กลยุทธ์ มีการโฟกัส และแม่นยำ
เทรนด์ที่ควรจับตามอง:
– การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน: สอดคล้องกับการเน้นย้ำของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการเดินทางอย่างมีความรับผิดชอบของแบรนด์ ทำให้ผู้บริโภคเห็นว่าแบรนด์มีกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับค่านิยมสมัยใหม่และมีแนวปฏิบัติที่มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม
– การสื่อสารการตลาดโดยใช้ AI: โดยใช้เครื่องมือ AI ขั้นสูงสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึก คาดการณ์แนวโน้ม ปรับแต่งการสื่อสารรายบุคคล รวมถึงหากลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม แสดงให้เห็นถึงการมองการณ์ไกลด้านกลยุทธ์และแนวทางในการสื่อสารตลาดขั้นสูงของแบรนด์
เทรนด์ที่ควรระวัง:
– การผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ: ถึงแม้ว่าการผสมผสานองค์ประกอบในด้านต่างๆเพื่อการพัฒนาจะมีประโยชน์ แต่แบรนด์ควรระมัดระวังและมีการคำนวณถึงผลลัพธ์อย่างรอบคอบ โดยควรรักษาความต่อเนื่องและความสอดคล้องของภาพลักษณ์แบรนด์ และหลีกเลี่ยงการผสมผสานอันหลากหลายที่ทำให้แบรนด์นำเสนอสาระสำคัญอย่างไม่ตรงจุด
4. แพนด้า: มีเสน่ห์ ให้ความสำคัญกับลูกค้า นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
เทรนด์ที่ควรจับตามอง:
– งานฝีมือ: โชว์ความทุ่มเทของแบรนด์ต่อคุณภาพและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยมือ ผลิตภัณฑ์ที่ทำตามความต้องการของลูกค้าแบบเฉพาะรายบุคคล และผลิตภัณฑ์ที่มีจำนวนจำกัด
– รีวิวจากลูกค้า: นำเสนอรีวิวจริงจากประสบการณ์ของลูกค้าเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคและเป็นการเน้นย้ำเสน่ห์หรือจุดเด่นของแบรนด์
เทรนด์ที่ควรระวัง:
– แฟลชเซลล์หรือส่วนลดที่มากจนเกินไป: กลยุทธ์ดังกล่าวอาจทำให้ผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของแบรนด์และมีมุมมองต่อแบรนด์ที่เปลี่ยนไป
– การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างรวดเร็ว: การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกเบื่อ และไม่เห็นคุณค่าของผลิตภัณฑ์
5. หงส์: โดดเด่น น่าจดจำ มีความเป็นเลิศด้านความสัมพันธ์
เทรนด์ที่ควรจับตามอง:
– การสร้างประสบการณ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค: ปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในด้านการสร้างประสบการณ์กับแบรนด์ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของแบรนด์กับฐานผู้บริโภค
– การสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคล: ออกแบบสินค้าหรือบริการที่ตรงตามความต้องการสำหรับผู้บริโภครายบุคคล แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจของแบรนด์ต่อความชอบหรือความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน
เทรนด์ที่ควรระวัง:
– การเข้าถึงคนทั่วไป: การเจาะตลาดไปที่กลุ่มผู้บริโภคทั่วไปอาจทำให้ภาพลักษณ์เฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เสียหาย
6. ลาบราดอร์: เป็นที่รัก เป็นมิตร เข้าถึงง่าย เน้นรักษาความสัมพันธ์
เทรนด์ที่ควรจับตามอง:
– การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน: สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ สอดคล้องกับทิศทางของแบรนด์ที่ตอบสนองต่อเทรนด์การรักษ์โลกและรับผิดชอบต่อสังคม
– การสื่อสารทางการตลาดที่เสริมด้วย AI: ใช้เครื่องมือ AI เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึก การคาดการณ์แนวโน้ม การสื่อสารที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และการปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด แสดงให้เห็นถึงการมองการณ์ไกลและความล้ำสมัยในการสื่อสารการตลาดของแบรนด์
เทรนด์ที่ควรระวัง:
– การผสมผสานวัฒนธรรม: ในขณะที่การผสานวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ควรนำมาปรับใช้ แบรนด์ควรระมัดระวังในเรื่องของความสอดคล้อง โดยต้องไม่ให้ขัดกับภาพรวมของแบรนด์ และยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจนดังเดิม
7. เสือชีตาห์: การเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว รวดเร็ว และการมีปฏิสัมพันธ์
เทรนด์ที่ควรจับตามอง:
– การเติบโตของดิจิทัล: ใช้ประโยชน์จากการเติบโตของดิจิทัลเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและการโต้ตอบกับผู้บริโภค โดยสื่อให้ผู้บริโภคเห็นถึงการปรับตัวที่คล่องแคล่วเข้ากับกระแสหรือการใช้งานดิจิทัลของผู้บริโภคเป็นสำคัญ
– การให้คุณค่าทางด้านจิตใจ: ผสานความคิดริเริ่มที่สะท้อนถึงการตระหนักและการตอบสนองของแบรนด์ต่อความต้องการ ข้อกังวล หรือความรู้สึกของผู้บริโภค เผยให้ผู้บริโภคเห็นถึงความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของแบรนด์
เทรนด์ที่ควรระวัง:
– ความซับซ้อน: การรักษาความชัดเจนและความกระชับในการสื่อสารของแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญ การผสมผสานองค์ประกอบหรือแนวคิดต่างๆที่ซับซ้อนมากเกินไปอาจทำให้ข้อความของแบรนด์ที่ต้องการสื่อไปยังผู้บริโภคมีความคลุมเครือ ไม่ชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคสับสนได้
8. ม้า: เต็มไปด้วยพลัง นำหน้า เชื่อถือได้
เทรนด์ที่ควรจับตามอง:
– การเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน: แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในแนวทางปฏิบัติต่อความยั่งยืน และเป็นผู้นำให้แก่แบรนด์ต่างๆได้ปฏิบัติตาม
– ขับเคลื่อนแบรนด์ด้วยเทคโนโลยี: ปรับตัวให้สอดคล้องกับนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เน้นย้ำถึงคุณค่าที่ไม่หยุดนิ่งของแบรนด์ในยุคดิจิทัล
เทรนด์ที่ควรระวัง:
– ความพยายามที่จะฉูดฉาด: การมีส่วนร่วมในกระแสระยะสั้นที่หวือหวาไม่เกี่ยวข้องกับอัตลักษณ์ของแบรนด์อาจทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์เสื่อมเสียคุณค่าในด้านของความยั่งยืน
9. ผีเสื้อ: การเปลี่ยนแปลง ความสดใส แปลกตา
เทรนด์ที่ควรจับตามอง:
– การเน้นความสำคัญของจิตใจ: แบรนด์ควรปรับตัวให้มีความสอดคล้องกับจิตใจของผู้บริโภค สะท้อนถึงความเข้าใจในผู้บริโภคของแบรนด์
– การผสมผสานวัฒนธรรม: การรวมองค์ประกอบทางวัฒนธรรมที่หลากหลายเข้ากับการแสดงออกของแบรนด์ แสดงให้เห็นถึงความสามารถของแบรนด์ในการผสานองค์ประกอบจากหลายๆ ด้าน
เทรนด์ที่ควรระวัง:
– การเน้นย้ำที่มากเกินไปในเรื่องของศิลปะ: แม้ว่าความสวยงามและความน่าดึงดูดของสื่อจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การเน้นที่มากเกินไปอาจทำให้เอกลักษณ์หรือมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์เจือจางลง
10. โลมา: สนุกสนาน ดึงดูด มีความเยี่ยมยอดที่หลากหลาย
เทรนด์ที่ควรจับตามอง:
– รูปแบบการทํางานที่ยืดหยุ่น: วางตำแหน่งแบรนด์ให้เป็นผู้นำในการปรับตัวสนับสนุนอิสระในการทํางานรูปแบบใหม่จากการทํางานที่สถานที่ใดก็ได้ สะท้อนถึงความหลากหลายและการก้าวไปข้างหน้าของแบรนด์
– การสื่อสารการตลาดที่เสริมด้วย AI: นำเครื่องมือ AI ขั้นสูงมาใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค คาดการณ์แนวโน้ม และปรับแต่งการสื่อสารเฉพาะบุคคล แสดงให้เห็นถึงความเยี่ยมยอดและนวัตกรรมที่หลากหลายของแบรนด์
เทรนด์ที่ควรระวัง:
– การเน้นนวัตกรรมที่มากเกินไป: แม้ว่านวัตกรรมจะสำคัญ แต่การตามหานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องอาจทำให้ค่านิยมหลักและวิสัยทัศน์ระยะยาวของแบรนด์ถูกบดบัง ซึ่งอาจนำไปสู่การแสดงตัวตนของแบรนด์ที่ไม่สอดคล้องกัน
11. เต่า: มั่นคง น่าเชื่อถือ เป็นแบรนด์ที่มุ่งเน้นด้านผลิตภัณฑ์
เทรนด์ที่ควรจับตามอง:
– ประชากรที่สูงอายุ: ปรับแบรนด์ให้สอดคล้องกับความต้องการและความชอบของประชากรสูงอายุ สะท้อนถึงความไวและความสามารถในการปรับตัวไปสู่ความหลากหลายของประชากรในวัยต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและความน่าดึงดูดของแบรนด์ให้กับผู้ชมกลุ่มใหญ่ขึ้น
– ตลาดงานฝีมือและผู้ผลิตสินค้าท้องถิ่น: วางตำแหน่งแบรนด์ให้เป็นแบรนด์ที่สนับสนุนงานฝีมือและสินค้าท้องถิ่น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นต่อคุณภาพ ความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และการสนับสนุนชุมชน ก่อให้เกิดการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคผ่านการให้คุณค่ากับงานฝีมือท้องถิ่น
เทรนด์ที่ควรระวัง:
– การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว: แม้ว่าการพัฒนาสิ่งต่างๆให้ทันสมัยเป็นสิ่งสำคัญ แต่การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่กะทันหัน หรือมากเกินไปอาจทำให้เกิดความขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมั่นคง ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคที่ต้องการความสม่ำเสมอและความน่าเชื่อถือรู้สึกไม่สบายใจ
12. จิ้งจอก: เป็นแบรนด์ใหม่ที่มีความเฉลี่ยวฉลาด และมีศักยภาพสูง
เทรนด์ที่ควรจับตามอง:
– การเติบโตของดิจิทัล: ใช้ความก้าวหน้าของนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการปรับเปลี่ยนและพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
– การใช้ AI สำหรับการสื่อสารการตลาด: การนำ AI มาใช้เพื่อปรับแต่งกลยุทธ์สามารถแสดงให้เห็นถึงแนวทางที่ก้าวหน้าและความมุ่งมั่นในการใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อการเติบโตของแบรนด์
เทรนด์ที่ควรระวัง:
– การผสมผสานทางวัฒนธรรม: แม้ว่านวัตกรรมจะเป็นกุญแจสำคัญ แต่การผสมผสานนวัตกรรมที่หลากหลายมากจนเกินไปอาจทำให้เอกลักษณ์ของแบรนด์จืดจางลง ดังนั้นจึงควรรักษาสมดุลของการประยุกต์ใช้นวัตกรรมให้สอดคล้องพอดีกัน
สามารถทำแบบทดสอบออนไลน์ MI’s Brand Personality Test – An Analysis โดยสแกน QR CODE ด้านล่างนี้