กลับมาอีกครั้งกับการจัดอันดับสุดยอดแบรนด์ทรงประสิทธิภาพบนโลกโซเชียล ที่ทาง THOTHZOCIAL ร่วมมือกับนิตยสาร BrandAge ซึ่งในปีนี้ทีมงานได้ยกระดับความเข้มข้นขึ้นด้วยการเพิ่มช่องทางสื่อสารยอดนิยมอย่าง Youtube เข้ามาคำนวณด้วย โดยยังคงใช้เกณฑ์การตัดสินหลักจาก Zocial Metric 2016 เกณฑ์ที่ใช้จัดอันดับรางวัลในงาน Thailand Zocial Awards 2016 แต่มีการปรับค่าคำนวณให้เหลือเพียง 2 Platform คือ Facebook Page ในอัตราส่วน 55% (1. Reach 15% 2.Interaction 40% 3.Growth 10% 4.Share 35% ) และ Youtube Channel ในอัตราส่วน 45% (1. Reach 25% 2. Interactive 15% 3. View 35% 4. Share 25%) เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดย Account ที่นำมาคำนวณต้องเป็น Official Account เท่านั้น
ก่อนจะเจาะลึกไปยังแบรนด์ที่ติดอันดับ ก่อนอื่นเรามาดูภาพรวมในภาคของประเภทธุรกิจทั้ง 8 ซึ่งผลของ Thailand’s Most Social Power Brand 2016 ในครั้งนี้เป็นการจัดอันดับในช่วง 1 มกราคม – 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา และสำหรับประเภทธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ กลุ่มธุรกิจ Digital TV ด้วยคะแนนสูงถึง 90.43% อันดับสองคือ กลุ่มธุรกิจ Consumer อยู่ที่ 51.65% คะแนน ส่วนอันดับ 3 และ 4 คือ กลุ่มธุรกิจ Retail และกลุ่มธุรกิจ Bank & Finance ที่คะแนนตามกันมาติดๆ 32.98% และ 32.96% ตามลำดับ อันดับที่ 5 คือกลุ่มธุรกิจ Automobile ด้วยคะแนน 20.85% ต่อด้วยอันดับที่ 6 คือกลุ่มธุรกิจ IT & Digital ได้รับคะแนน 20.59% อันดับที่ 7 คือกลุมธุรกิจ Real Estage ด้วยคะแนน 13.77% และสุดท้ายอันดับ 8 คือกลุ่มธุรกิจ E-Commerce ที่คะแนน 10.41%
คราวนี้เรามาเริ่มลงรายละเอียดในแต่ละกลุ่มธุรกิจแบบนับถอยหลังไปพร้อมๆ กัน
กลุ่มธุรกิจอันดับที่ 8 E-Commerce
บทบาทของการซื้อ-ขายผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นที่นิยมมากขึ้นเช่นกัน ด้วยรูปแบบที่สร้างความสะดวกสบายให้กับทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาเกิดการแข่งขันในแวดวงธุรกิจนี้เพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามอันดับที่ 1 ก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้าเก่า เจ้าเก๋าอย่าง LAZADA เรียกได้ว่าเป็นยุคบุกเบิกของกลุ่มธุรกิจนี้ก็ว่าได้
ตามมาด้วย iTrueMart ในอันดับที่ 2 สำหรับเจ้านี้ถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จ เพราะเปิดตัวมาเพียงไม่นานก็สามารถไต่อันดับขึ้นมาต่อท้ายอันดับที่ 1 ได้แล้ว อันดับที่ 3 คือ Kaidee หรือที่เราจะได้ยินชื่อในโฆษณาโทรทัศน์ว่า Kaidee.com ที่ไม่ว่าจะเป็นคนซื้อ หรือคนขายก็ง่าย ซึ่งทุกแบรนด์ก็ต่างพากันกระตุ้นตลาดออนไลน์กันแบบไม่มีใครยอมใคร เสนอความหลากหลาย ความสะดวกสบายมาให้กันขนาดนี้ ไหนๆ มีใครเป็นลูกค้าประจำของเจ้าไหนกันบ้าง
กลุ่มธุรกิจอันดับที่ 7 Real Estate
เมื่อพูดถึงกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาจฟังดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่เรื่องที่พักอาศัยถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ขาดไม่ได้ และกลุ่มธุรกิจ Real Estate ที่ทรงประสิทธิภาพบนโลกออนไลน์เป็น
- อันดับ 1 คือ Sansiri หรือเครือแสนสิริ ที่เราคุ้นหูกันมานานนั่นเอง
- อันดับที่ 2 เป็นของ Major Development เน้นอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเมียม ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจจะไม่คุ้นกับชื่อนี้กันเท่าไหร่นัก แต่หากลองเอ่ยชื่อ AGUSTON สุขุมวิท 22, M Project หรือ MAESTRO Residence คือกลุ่มคอนโดมิเนียมภายใต้การดูแลของเขาครับ
- อันดับที่ 3 คือ SC Asset กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ที่มีทั้งโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม/โฮมออฟฟิศ และคอนโดมิเนียมมากมาย เช่น กรานาดา, แกรนด์ แบงกอก บูเลอวาร์ด, ศาลาแดงวัน, วิสต้า ปาร์ค และเวิร์คเพลส เป็นต้น
- อันดับที่ 4 คือ Whizdom กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ที่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ในเมืองโดยมีที่ตั้งโครงการต่างๆ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า
- อันดับที่ 5 คือ Areeya Home อีกหนึ่งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ครบครัน ทั้งบ้านเดี่ยว, วิลเลจทาวน์, ทาวน์โฮม,โฮมออฟฟิศ และคอนโดมิเนียม เช่น อารียา โคโม่, เดอะวิลเลจ คอทเทจ, อารียา บริกก์ และเอ สเปซ มี เป็นต้น
กลุ่มธุรกิจอันดับที่ 6 IT & Digital
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหล่าอุปกรณ์ IT & Digital มีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันเรามากขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงไม่แปลกใจเลยว่ากลุ่มธุรกิจประเภทนี้จะไต่อันดับความทรงประสิทธิภาพขึ้นมารวดเร็วเช่นกัน แต่ในกลุ่มอุปกรณ์ IT& Digital เองก็แบ่งออกเป็นหลายประเภทการใช้งาน ดังนั้นคณะผู้จัดทำจึงจำแนกออกเป็น 3 หมวดหมู่ย่อย ดังนี้ Digital Imaging (กลุ่มอุปกรณ์ถ่ายภาพ), Digital IT (กลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์) และ Operator (กลุ่มเครือข่ายโทรคมนาคม)
เริ่มกันที่ Digital Imaging อันดับ 1 ก็คือเจ้าใหญ่อย่าง Canon นั่นเอง รองมาด้วยอีกหนึ่งเจ้าดัง Nikon ในอันดับที่ 2 ด้วยความที่ทั้ง 2 แบรนด์เป็นแบรนด์อุปกรณ์ถ่ายภาพที่มีประวัติยาวนาน ทำให้ผู้คนเชื่อถือและไว้วางใจในประสิทธิภาพ และยิ่งทั้งสองแบรนด์หันมาสนใจการตลาดออนไลน์มากขึ้น ก็ยิ่งเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้นไปด้วย ส่วนอันดับที่ 3 ตกเป็นของร้านอุปกรณ์รายใหญ่อย่าง Big Camera ที่รวบรวมเอาหลากหลายรุ่น หลากหลายแบรนด์ไว้ในที่เดียว อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมต่างๆ เรียกว่าเป็นร้านครบวงจร
กลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อันดับ 1 ไปครองได้แก่ Samsung Mobile ไม่แปลกใจเลยกับแบรนด์อันดับ 1 นี้ เพราะหลายคนคงเห็นแล้วว่าทาง Samsung Mobile ลงทุนกับการตลาดออนไลน์มากแค่ไหน ห่างกันมาไม่มากกับอันดับที่ 2 อย่าง OPPO ที่เริ่มทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น พร้อมกับการนำเสนอจุดเด่นของสินค้าให้ตรงใจผู้บริโภค และอันดับที่ 3 คือ ASUS เป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างได้เปรียบ เพราะมีทั้งสินค้าประเภท notebook และ smartphone และด้วยชื่อเสียงที่เป็ฯที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว จึงไม่ยากที่จะขึ้นมาอยู่ใน Top 3
สุดท้ายในกลุ่มธุรกิจ IT & Digital กับหมวดหมู่ Operator แน่นอนว่า 3 อันดับแรกนั้นเป็นของ 3 เครือข่ายรายใหญ่ของประเทศไทยอย่าง AIS ทรงประสิทธิภาพในอันดับ 1 DTAC อันดับ 2 และ TrueMove H อันดับ 3 แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือค่ายน้องใหม่ที่พึ่งเปิดตัวมาไม่นานอย่าง PenguinSim กลับได้รับอันดับทรงประสิทธิภาพบนโลกออนไลน์แซงหน้า TOT เครือข่ายการสื่อสารรายแรกๆ ของประเทศไทย ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 4 เป็นที่เรียบร้อย
กลุ่มธุรกิจอันดับที่ 5 Automobile
สำหรับกลุ่มธุรกิจทรงประสิทธิภาพบนโลกออนไลน์ในอันดับที่ 5 คือกลุ่มธุรกิจประเภท Automobile หรือว่ารถยนต์นั่นเอง และค่ายรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ก็คือ ค่ายรถยนต์แบรนด์อเมริกา Ford ตามมาด้วยค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Toyota และ Mazda ในอันดับที่ 2 และ 3 ตามลำดับ ส่วน Honda ตกอยู่ในอันดับที่ 4 และ แบรนด์สวีเดน Volvo อันดับที่ 5 ด้วยผลการจัดอันดับนี้เพื่อนๆอาจจะมองว่าไม่ตรงกับปริมาณแบรนด์รถยนต์ที่นิยมใช้กันบนท้องถนน จึงต้องขอบอกว่าผลการจัดอันดับนี้คำนวณจากประสิทธิภาพของการทำการตลาดบนโลกออนไลน์บน 2 platform ได้แก่ Facebook Page และ Youtube Channel ของแบรนด์นั้นๆ
กลุ่มธุรกิจอันดับที่ 4 Bank & Finance
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจประเภทใดก็ตาม ใจกลางการเติบโตของธุรกิจก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการเงิน ดังนั้นกลุ่มธุรกิจประเภท Bank & Finance จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่ในกลุ่มธุรกิจประเภทนี้ก็ใช่ว่าจะมีเพียงลักษณะธนาคารเพียงอย่างเดียว และครั้งนี้เราได้จำแนกออกเป็น 4 หมวดหมู่ ได้แก่ Bank (กลุ่มธุรกิจธนาคาร), Personal Finance (กลุ่มธุรกิจการเงินส่วนบุคคล), Life Insurance (กลุ่มธุรกิจประกันชีวิต) และInsurance (กลุ่มธุรกิจประกันภัย)
หากลองสังเกตกันดูดีๆ พักหลังมานี้กลุ่มธุรกิจธนาคารแบรนด์ต่างๆ พากันเร่งทำการตลาดบนโลกออนไลน์กันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยธนาคารกรุงไทยขึ้นแท่นอยู่ที่อันดับ 1 ด้วยการนำเสนอโฆษณา Viral ที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวออนไลน์เป็นอย่างมาก ต่อมาด้วยอันดับที่ 2 กับธนาคารชื่อดังสีม่วงอย่างธนาคารไทยพานิชย์ ที่เริ่มขยับขยายขอบเขตการบริการให้ครอบคลุมทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์ อันดับ 3 เป็นของธนาคารธนชาต อีกหนึ่งแบรนด์ที่เล็งเห็นความสำคัญของการตลาดออนไลน์
สถานการณ์การเงินของแต่ละบุคคลนั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ กลุ่มธุรกิจการเงินส่วนบุคคลจึงเกิดขึ้น และเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย และรวดเร็ว การตลาดออนไลน์จึงเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง สำหรับผลกาจัดอันดับในหมวดหมู่นี้ อันดับที่ 1 และ 2 เป็นแบรนด์ในเครือธนาคารกรุงศรี คือ Krungsri Auto และ Krungsri First Choice ตามลำดับ ส่วนอันดับที่ 3 เป็นของเครือธนาคารกสิกรไทย อย่าง K SME ครับ
กลุ่มธุรกิจประเภทประกัน เป็นกลุ่มธุรกิจที่เรารู้จักกันมานาน และเป็นสินค้าที่สามารถเพิ่มความอุ่นใจให้กับทั้งตัวเอง และคนในครอบครัวได้ แต่เมื่อพูดถึงกลุ่มธุรกิจประกันชีวิต ที่ทรงประสิทธิภาพบนโลกออนไลน์ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ อันดับ 1 ได้แก่ FWD แบรนด์น้องใหม่มาแรง กระตุ้น awareness ด้วยการโฆษณาออนไลน์ที่เข้าถึงทุกกลุ่มผู้บริโภค แซงหน้าเจ้าใหญ่ในอันดับ 2 และอันดับ 3 อย่าง AIA และ Allianz Ayudhya
สำหรับอีกหมวดหมู่ในกลุ่มธุรกิจนี้ คือกลุ่มธุรกิจประกันภัยที่ทิพยประกันภัย กระตุ้นแบรนด์จนได้อันดับที่ 1 ไปครอบครอง อันดับที่ 2 คือสยามซิตี้ประกันภัย และอันดับที่ 3 คือนวกิจประกันภัยนั่นเอง
เข้าสู่ Top 3 กันแล้ว รับประกันเลยว่าทั้งประเภทของกลุ่มธุรกิจ และแบรนด์ต่างๆ จะเป็นชื่อที่เรารู้จัก แถมยังเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรามากกว่าอันดับที่ผ่านมาข้างต้นอย่างแน่นอน
กลุ่มธุรกิจอันดับที่ 3 Retail ร้านอาหาร, ร้านค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อ
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่ทรงประสิทธิภาพในอันดับที่ 3 ก็คือกลุ่ม Retail ร้านอาหาร, ร้านค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อ ส่วนร้านค้าที่ครองแชมป์ไปในกลุ่มนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อชื่อดังอย่าง 7-Eleven ที่มี campaign มากมายทั้งทางสื่อ online และ offline ต่อกันที่อันดับ 2 อย่าง Tesco Lotus ที่เมื่อคิดถึงของสด ของถูกต่างก็ต้องคิดถึงที่นี้ และในอันดับที่ 3 เป็นของร้านไก่ทอดผู้พันที่ทุกคนคุ้นเคย KFC นั่นเอง โดยแบรนด์นี้สร้างพื้นฐานการตลาดออนไลน์อยู่ในระดับดีเลยละครับ เพราะมีการสร้างตัวละครของแบรนด์ ที่มีลักษณะเฉพาะตัว และเป็นที่จดจำของคนทั่วไป
กลุ่มธุรกิจอันดับที่ 2 สินค้าอุปโภคบริโภค
กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่ไม่เคยหยุดพัฒนาสินค้าใหม่ๆ มาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค แต่มีเพียงแบรนด์ที่ทำการตลาดได้ครอบคลุมเท่านั้นที่จะสามารถครองใจผู้บริโภคได้ ซึ่งแบรนด์ Clear แชมพูสำหรับดูแลหนังศีรษะอยู่ในอันดับที่ 1 ส่วนอันดับที่ 2 คือ Sunsilk แบรนด์แชมพูที่มีหลายสูตรเพื่อผมสวย และ Nivea ที่มีทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลผู้หน้า และผิวกาย อยู่ในอันดับที่ 3
กลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางเป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในบ้านเรา จนมีแบรนด์เครื่องสำอางน้องใหม่เกิดขึ้นมากมายตามกระแสความนิยม แต่ถึงจะมากมายแค่ไหนก็ยังไม่สามารถแซงหน้าแบรนด์ดัง แบรนด์ใหญ่อย่าง L’oreal Paris ไปได้ โดยในช่วงที่ผ่านมาทางแบรนด์ L’oreal ได้สร้างสรรค์ผลงานเพื่อการตลาดออนไลน์ไว้ไม่น้อย ซึ่งมันไม่เพียงสร้างความทันสมัยให้แบรนด์เท่านั้น แต่ทำให้มีคนรู้จักและสนใจสินค้าของแบรนด์มากขึ้นอีกด้วย รวมไปถึงแบรนด์ดังจากญี่ปุ่นในอันดับที่ 2 อย่าง SK-II เองก็เช่นกันที่ผลงานด้านการตลาดออนไลน์ ช่วยเพิ่มชื่อเสียงให้แบรนด์มากขึ้น ส่วนอันดับที่ 3 คือ Karmarts ลงแข่งขันด้วยรูปแบบ และราคาของสินค้าที่ตรงใจผู้บริโภคมากกว่า
ในหมวดหมู่ที่ 3 UHT Milk ที่แบรนด์ Foremost อยู่ในอันดับที่ 1 ส่วนแบรนด์นมพร้อมดื่มสำหรับเด็ก Enfa อยู่ในอันดับที่ 2 และแบรนด์นมถั่วเหลืองขวดแก้ว Vitamilk อยู่ในอันดับที่ 3
ต่อกันเลยกับหมวดหมู่ Carbonate Drink ด้วยลักษณะของสินค้าในหมวดหมู่นี้ เอื้ออำนวยในการสร้าง campaign บนช่องทางออนไลน์ได้ค่อนข้างหลากหลาย เช่น ความซ่า, ความสดชื่น เป็นต้น ซึ่งในหมวดนี้เพื่อนๆ คงจะเดาแบรนด์อันดับ 1 กันได้ไม่ยาก เพราะเมื่อพูดถึงแบรนด์น้ำอัดลมที่พบเห็นได้บ่อยบนสื่อออนไลน์นั้น ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก Coca-Cola หรือ Coke นั่นเอง นอกจากนี้ยังส่งแบรนด์ในเครืออย่าง Fanta มาอยู่ในอันดับที่ 2 อีกด้วย ส่วน Pepsi อยู่ในอันดับที่ 3
มากันที่หมวดหมู่ RTD Tea หรือชาพร้อมดื่ม ที่แบรนด์ ICHITAN และ Yen Yen ใช้ campaign ตอบแทนผู้บริโภคกระตุ้นการเติบโตของแบรนด์ และแน่นอนในอันดับที่ 3 ก็คือ Oishi Drink นั่นเอง
เมื่อกระแสรักสุขภาพกำลังเป็นที่นิยม สินค้าประเภทเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพก็เติบโตขึ้นไปด้วย แต่สำหรับอันดับที่ 1 อาจจะผิดคลาดกันไปนิดหน่อย เพราะเป็นเครื่องดื่มพร้อมวิตามินบำรุงผิวพรรณสำหรับผู้ชาย Mansome แสดงให้เห็นได้ว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่ใส่ใจเรื่องผิวพรรณแล้ว ผู้ชายก็ใส่ใจตัวเองมากขึ้นเหมือนกัน กลับมาที่อันดับที่ 2 คือ Sappe’ For One Day และอันดับที่ 3 คือ Jele Beautie
มาดูในหมวดหมู่ Alcohol เครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกงานสังสรรกันบ้าง สินค้าในหมวดหมู่นี้ก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้หลากหลายเช่นเดียวกับหมวดหมู่ Carbonate Drink เช่น เรื่องมิตรภาพ, ความสุขในชีวิต เป็นต้น โดยอันดับที่ 1 เป็นของ Chang World อันดับที่ 2 เป็นของ Leo ส่วนอันดับที่ 3 เป็นของ Johnie Walker
ปิดท้ายกลุ่มธุรกิจ Consumer ด้วยหมวดหมู่ Coffee กาแฟ เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ใครหลายคนขาดไม่ได้ และด้วยกาแฟหลากหลายรสชาติพร้อม campaign บนช่องทางออนไลน์ให้เห็นอยู่บ่อยๆ ทำให้ NESCAFÉ อยู่ในอันดับที่ 1 ส่วนกาแฟ Naturegift นำเสนอสรรพคุณของกาแฟที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค บวกกับรูปแบบการสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่น ทำให้ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 2 และ Khao Shong Coffee คง concept กาแฟไทยรสเข้มข้น ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 3
กลุ่มธุรกิจอันดับที่ 1 Digital TV
สำหรับกลุ่มธุรกิจนี้เริ่มต้นขึ้นได้ไม่นาน แต่มีการแข่งขันทางการตลาดสูงมากๆ ทุกสถานีต่างพากันนำเสนอรายการที่น่าสนใจ ในรูปแบบของตัวเอง โดยช่องที่ทำการตลาดออนไลน์ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ได้แก่ Workpoint TV โดดเด่นด้วยรายการที่เพิ่มความสนุกสนาน เช่น ปริศนาฟ้าแลบ และชิงร้อยชิงล้าน เป็นต้น
ส่วนอันดับที่ 2 อย่าง GMM25 โดดเด่นด้วย Series ที่นำแสดงโดยนักแสดงวัยรุ่น เช่น ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ และ Club Friday เป็นต้น สำหรับช่อง 7 HD อยู่ในอันดับที่ 3 เพราะฐานผู้ชมที่มากอยู่แล้ว ถึงจะเปลี่ยนมาเป็น Digital TV แต่ลักษณะเด่นของละครช่อง 7 ก็ยังคงอยู่ แถมยังเพิ่มเติมรายการใหม่ๆ เข้ามา ทำให้ตรงใจหลากหลายกลุ่มผู้ชมมากขึ้น