Luxury goods หรือสินค้าหรูหราเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก ในที่นี้คือเหล่าสินค้าแบรนด์เนมต่างๆไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น เครื่องสำอาง น้ำหอม นาฬิกา จิวเวลรี่ กระเป๋าถือ กระเป๋าเดินทาง หรือแม้แต่อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตขึ้นในทุกปี โดยเหล่าผู้ผลิตในอุตสาหกรรม Luxury goods ต่างตอบรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มลูกค้าด้วยการพิถีพิถันกับดีไซน์ คุณภาพของแมททีเรียล ฝีมือการผลิตที่เหนือกว่า และราคาที่กำหนดมาเพื่อยกระดับให้สินค้ากลายเป็นของมีคุณค่า
Luxury goods เป็นอุตสาหกรรมที่ผันผวนตามสถานเศรษฐกิจโลกและ GDP ของแต่ละประเทศผู้ผลิต สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีตลาด Luxury goods ใหญ่ที่สุดมาอย่างต่อเนื่องด้วยมูลค่าตลาดภายในประเทศที่สูงถึง 64.9 พันล้านยูโร เมื่อปี 2014
LVHM (Moët Hennessy-Louis Vuitton) เป็นบริษัทที่มีมูลค่าแบรนด์สูงที่สุดในโลก(จากการจัดอันดับ 100 แบรนด์) ด้วยมูลค่า brand value ราวๆ 25.87 พันล้านเหรียญฯ และยังมีรายได้สูงที่สุดจากการจัดอันดับอีกด้วย LVMH เป็นบริษัทที่มี Luxury brand ในเครือกว่า 30 แบรนด์ และแบรนด์อื่นๆที่เป็น Prestigious brand อีกกว่า 60 แบรนด์(รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้านค้าปีก และมีเดีย) และยังถือหุ้นอยู่ในบริษํทแบรนด์หรูอีกหลายแบรนด์
ปี 2014 LVHM มีกำไรสุทธิ (net margin profit) 19.9% ส่วนหนึ่งเป็น shares ที่บูทส์มาจากแบรนด์ Hermes ถึง 2.677 พันล้านยูโร Hermes ไม่ใช่แบรนด์ในเครือโดยตรงแต่ LVHM ไปซื้อหุ้นไว้ 23.3% ครองอันดับ 1 มาโดยตลอด แหละมีแนวโน้มจะมั่งคั่งขึ้นเรื่อยๆด้วย
จาก 10 อันดับบริษัทเจ้าของแบรนด์หรู มี 3 บริษัทที่เป็น Conglomerate คือมีหลายสายผลิตภัณฑ์อยู่ในเครือทั้งเสื้อผ้า นาฬิกา เครื่องสำอาง กระเป๋า แว่นตา น้ำหอม ฯลฯ // 2 บริษัทเป็นเครื่องสำอางกับน้ำหอม // 2 บริษัทเป็นจิลเวลรี่และนาฬิกา // 2 บริษัทเป็นเสื้อผ้า และสุดท้ายคือ Luxottica จากอิตาลีเป็นบริษัทเจ้าของ accessories หลายแบรนด์
บริษัท Chow Tai Fook จากฮ่องกงทำทองและจิวเวลรี่ เป็นเอเชียรายเดียวที่ติดโผแต่ก็ล่วงลงอยู่ที่อันดับ 7 จากปีก่อนหน้าที่เคยครองอันดับ 4 ด้วยอัตราการเติบโตของยอดขายนั้น -17.0% ซึ่งทั้ง 10 อันดับเป็นผลสำรวจที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลล่าสุดโดย Deloitte ในปี 2014 (fiscal year)
เอาล่ะ…เราไปดูทั้ง 10 อันดับกันได้เลย เริ่มจาก King of kingdom รายแรก LVHM
1. LVMH Moët Hennessy-Louis Vuitton SA (France)
แบรนด์ในเครือ: Louis Vuitton, Fendi, Bulgari, Loro Piana, Emilio Pucci, Acqua di Parma, Donna Karan, Loewe, Marc Jacobs, TAG Heuer, Benefit Cosmetics
รวมยอดขายสินค้า luxury: $23,297
รายได้รวม: $40,727
อัตราเติบโตของยอดขาย: 7.0%
กำไรสุทธิ: 19.9%
2. Compagnie Financiere Richemont SA (Switzerland)
แบรนด์ในเครือ: Cartier, Van Cleef & Arpels, Montblanc, Jaeger- LeCoultre, Vacheron Constantin, IWC, Piaget, Chloé, Officine Panerai
รวมยอดขายสินค้า luxury: $13,217
รายได้รวม: $13,217
อัตราเติบโตของยอดขาย: 3.9%
กำไรสุทธิ: 12.8%
3. The Estée Lauder Companies Inc. (United States)
แบรนด์ในเครือ: Estée Lauder, M.A.C., Aramis, Clinique, Aveda, Jo Malone; Licensed fragrance brands
รวมยอดขายสินค้า luxury: $10,780
รายได้รวม: $10,780
อัตราเติบโตของยอดขาย: -1.7%
กำไรสุทธิ: 10.1%
* แม้ Sales growth จะติดลบแต่ยังไม่หลุดโผ 1 ใน 3 อันดับแรกจาก 100 บริษัท
4. Luxottica Group SpA (Italy)
แบรนด์ในเครือ: Ray-Ban, Oakley, Vogue Eyewear, Persol, Oliver Peoples; Licensed eyewear brands
รวมยอดขายสินค้า luxury: $10,172
รายได้รวม: $10,172
อัตราเติบโตของยอดขาย: 4.6%
กำไรสุทธิ: 8.4%
5. The Swatch Group Ltd. (Switzerland)
แบรนด์ในเครือ: Breguet,HarryWinston, Blancpain,Longines, Omega, Rado; Licensed watch brands
รวมยอดขายสินค้า luxury: $9,223
รายได้รวม: $9,530
อัตราเติบโตของยอดขาย: 3.1%
กำไรสุทธิ: 16.3%
6. Kering SA (France)
แบรนด์ในเครือ: Gucci, Bottega Veneta, Saint Laurent, Balen- ciaga, Brioni, Pomellato, Girard-Perregaux, Ulysse Nardin
รวมยอดขายสินค้า luxury: $8,984
รายได้รวม: $13,344
อัตราเติบโตของยอดขาย: 4.5%
กำไรสุทธิ: 5.5%
7. Chow Tai Fook Jewellery Group Limited 周大福珠宝集团有限公司 (Hong Kong)
แบรนด์ในเครือ: Chow Tai Fook, Hearts on Fire
รวมยอดขายสินค้า luxury: $8,285
รายได้รวม: $8,292
อัตราเติบโตของยอดขาย: -17.0%
กำไรสุทธิ: 8.6%
8. L’Oréal Luxe (France)
แบรนด์ในเครือ: Lancôme, Biotherm, Helena Rubinstein, Urban Decay, Kiehl’s; Licensed brands
รวมยอดขายสินค้า luxury: $ 8,239
รายได้รวม: $8,239
อัตราเติบโตของยอดขาย: 5.7%
กำไรสุทธิ: 15.0%
9. Ralph Lauren Corporation (United States)
แบรนด์ในเครือ: Ralph Lauren, Polo Ralph Lauren, Purple Label, Black Label, Double RL, RLX Ralph Lauren
รวมยอดขายสินค้า luxury: $7,620
รายได้รวม: $7,620
อัตราเติบโตของยอดขาย: 2.3%
กำไรสุทธิ: 9.2%
10. PVH Corp. (United States)
แบรนด์ในเครือ: Calvin Klein, Tommy Hilfiger
รวมยอดขายสินค้า luxury: $6,441
รายได้รวม: $8,241
อัตราเติบโตของยอดขาย: 3.9%
กำไรสุทธิ: 5.3%
รวมยอดขายสินค้า luxury จากทั้ง 10 อันดับ: $106,258
รายได้รวมจากทั้ง 10 อันดับ: $130,162
อัตราเติบโตของยอดขายจากทั้ง 10 อันดับ: 2.0%
กำไรสุทธิจากทั้ง 10 อันดับ: 13.2%
ตารางเปรียบเทียบ
Reference: Deloitte
Reference: Statista
Reference: Boomberg
Cover photo: Mylittlefashblog.blogspot
Source: Copyright © MarketingOops.com