เผยข้อมูล TikTok สร้างการมีส่วนร่วมได้ดีที่สุด ในการทำ Influencer Marketing ของประเทศไทย

  • 141
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การทำการตลาดผ่าน KOL หรือ Influencer เพิ่มความนิยอย่างมากในปัจจุบัน แต่แม้ความนิยมนี้มีมาอย่างต่อเนื่อง ก็พบข้อมูลที่น่าสนใจว่าการตลาดในรูปแบบนี้เพิ่มความนิยมอย่างมากในแพล็ตฟอร์ม TikTok มากกว่าในแพล็ตฟอร์มอื่นๆ เสียอีก

 

พบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing) ในเอเชียปี 2022/23 โดย AnyMind Group, บริษัทที่เปิดทำธุรกิจแบบครบวงจร (End-to-end Commerce Enablement Company) ได้เผยแพร่รายงานประจำปีฉบับที่สามเกี่ยวกับการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ในเอเชีย ด้วยข้อมูลที่ได้รับจากแพลตฟอร์มการทำการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์อย่าง AnyTag รายงาน State of Influence in Asia 22/23 จะวิเคราะห์ข้อมูลจากอินฟลูเอนเซอร์กว่า 500,000 รายและแคมเปญการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ทั้งหมด 4,000 แคมเปญใน 10 ประเทศทั่วเอเชีย ได้แก่ กัมพูชา ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม

 

รายงาน State of Influence in Asia 22/23 มีข้อมูลเกี่ยวกับอินฟลูเอนเซอร์และแคมเปญบน TikTok โดยเราสามารถเห็นความนิยมของแพลตฟอร์มที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการทำการตลาดโดยใช้ Influencer ซึ่งพบว่าจากสัดส่วนการเติบโตของแคมเปญในช่วงเวลาที่วิเคราะห์ ตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ.2564 ถึงพฤศจิกายน พ.ศ.2564 โดยสัดส่วนเฉลี่ยของแคมเปญที่ทำงานบน TikTok เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ อยู่ที่ 17.67% ในขณะที่ช่วง เดือนมิถุนายน พ.ศ.2565 ถึงสิงหาคม พ.ศ.2565 TikTok มีสัดส่วนเฉลี่ยอยู่ที่ 24.34% สะท้อนให้เห็นว่า มีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

 

นอกจากนี้ TikTok ยังเป็นผู้นำด้านอัตราการมีส่วนร่วมเฉลี่ยเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมอื่น ๆ ในทุกประเทศที่มีให้บริการ ยกเว้นในอินโดนีเซียที่ Instagram เป็นผู้นำด้านอัตราการมีส่วนร่วมเฉลี่ยนอกเหนือจากอินฟลูเอนเซอร์ระดับแมคโคร (อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามตั้งแต่ 100,000 ถึง 1 ล้านคน)

ประเทศไทย Facebook ยังครองเจ้าตลาด แต่ TikTok สร้างการมีส่วนร่วมได้ดีกว่า

สำหรับประเทศไทย เทรนด์การใช้อินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียลมีเดียสำหรับทำการตลาดนั้นค่อนข้างน่าสนใจ เราได้ข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางการใช้งานโซเชียลมีเดียที่แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ

ในประเทศไทย Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและแบรนด์ก็นิยมทำการตลาดบนแพลตฟอร์มนี้มากที่สุดถึง 35.3% แต่อัตราการมีส่วนร่วมในเนื้อหาที่อินฟลูเอนเซอร์สร้างขึ้นนั้นต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ และเนื้อหาที่เป็นที่นิยมมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ แฟชั่นและความงาม (25.23%) ความบันเทิงและงานอดิเรก (24.10%) และสุดท้ายคืออาหาร (11.20%)

ขณะที่ TikTok ที่กำลังมาแรงนั้น เราก็ได้เห็นความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ทั้งด้านการใช้งานบนแพลตฟอร์มและอัตราการมีส่วนร่วมในเนื้อหาต่าง ๆ ซึ่ง หากคิดเป็นเปอร์เซนต์จะอยู่ที่ 14.6%

ดังนั้น TikTok จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับแบรนด์หรือนักการตลาดที่ต้องการเน้นเรื่องอัตราการมีส่วนร่วมบนเนื้อหาให้มาเลือกใช้ทำการตลาดได้เช่นกัน และที่สำคัญ ในอนาคตเราอาจได้เห็น การแข่งขันด้านการพัฒนาตัวแพลตฟอร์มระหว่าง TikTok และ Instagram เนื่องจากความนิยมที่ค่อนข้างสูสีกันอย่างมากในประเทศไทยนี้

 

นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา Shopee เป็นแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด (137,800 ครั้ง) จากเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ทั่วเอเชียบน Instagram ทั้งในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ รองลงมา คือ LINE (96,910 ครั้ง) TikTok (88,931 ครั้ง) Lazada (59,995 ครั้ง) และ Canon (45,307 ครั้ง) ตามลำดับ

 

ด้านอุตสาหกรรมชั้นนำในเอเชียปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจที่มีการใช้แคมเปญการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ ได้แก่ แบรนด์แฟชั่นและความงาม (29.66% ของแคมเปญทั้งหมด) อาหารและเครื่องดื่ม (26.24% ของแคมเปญทั้งหมด) ครอบครัวและการศึกษา (12.80% ของแคมเปญทั้งหมด) ไลฟ์สไตล์และบ้าน (11.06% ของแคมเปญทั้งหมด) ความบันเทิงและงานอดิเรก (6.16% ของแคมเปญทั้งหมด)

 

Mr.Kosuke Sogo, CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง AnyMind Group กล่าวว่า การตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ในเอเชียได้มาถึงจุดตัดของการเปลี่ยนแปลงแล้ว และเราเชื่อว่าอนาคตของพื้นที่นี้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดพร้อมกับอัพเดตวิธีการต่าง ๆ ของการทำธุรกิจออนไลน์ ให้ความสามารถในการติดตาม การระบุแหล่งที่มา และความน่าเชื่อถือที่มากขึ้นสำหรับนักการตลาด การมีเครื่องมือและข้อมูลเชิงลึกที่เหมาะสมจะช่วยให้นักการตลาดและธุรกิจมีแรงผลักดันในการเร่งเข้าสู่ยุคใหม่ของการค้าขายแบบไร้พรมแดนและเปิดกว้างได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การรวมการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์เข้ากับห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจ ไปจนถึงการจัดหาผู้สร้างสรรค์เนื้อหาที่มีความสามารถในการเริ่มต้นแบรนด์ของตนเองโดยตรงต่อผู้บริโภค เรากำลังพัฒนาการค้ายุคหน้าในเอเชียไปสู่ทั่วโลก


  • 141
  •  
  •  
  •  
  •  
Tukko Nathida
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ MarketingOops.com กับความตั้งใจในการนำเสนอเนื้อหาที่ทันเหตุการณ์ และเกิดประโยชน์ ให้สามารถนำเนื้อหาความรู้ และ Insight ไปต่อยอดกับอนาคตของธุรกิจ และการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยี ครีเอทีฟ การตลาด โฆษณา และสตาร์ทอัพ