สื่อนอกบ้าน (Out-of-Home: OOH) ถือเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังและมีการใช้งานมาเนิ่นนาน โดยทำหน้าที่ในการป่าวประกาศเรื่องราว/ข้อมูลให้ประชาชนรับทราบ อย่างไรก็ตาม ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สื่อ OOH มีการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขนานใหญ่ รวมถึงมีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น
พาขวัญ วงศ์พลทวี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและคู่ค้าสัมพันธ์ บริษัท แพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสื่อนอกบ้านชั้นนำของไทย ฉายภาพจุดเปลี่ยนสื่อนอกบ้านว่า สื่อ OOH มีวิวัฒนาการแปรเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์ของคนในสังคมและการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งยังสะท้อนภาพเศรษฐกิจมหภาคและการเปลี่ยนแปลงเชิงภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ ตัวอย่างเช่น การเติบโตของป้ายบิลบอร์ดในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นนอก สะท้อนถึงการขยายตัวของเมืองที่ล้อไปตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า สนามบิน ศูนย์การค้า รวมถึงการเปลี่ยนผ่านป้ายโฆษณาแบบดั้งเดิมสู่จอดิจิทัล
ไม่ว่ารูปแบบสื่อ OOH จะมีวิวัฒนาการหลากหลายไปมากน้อยเพียงใด แต่บทบาทของสื่อ OOH ยังคงทำหน้าที่เป็นตัวกลาง “เชื่อม” แบรนด์และผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับแคมเปญ โปรโมชั่น ให้ความบันเทิง สร้างแรงบันดาลใจ ตราบใดที่ผู้บริโภคยังต้องเดินทางและใช้ชีวิตนอกบ้าน ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า สื่อ OOH เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค
Plan B Media ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมสื่อ OOH มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการพัฒนาสินค้าให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ตอบโจทย์ความต้องการนักการตลาด แบรนด์สินค้า ซึ่งที่ผ่านมา ได้ทุ่มเม็ดเงินในการเปลี่ยนผ่านสื่อ OOH สู่ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นจอซิกเนเจอร์ Twintube+ จอรูปแบบ Vertical Screen บริเวณถนนสาทร จอดิจิทัลสกรีนขนาดใหญ่ The Prime9 ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนเอกมัย-รามอินทรา และนวัตกรรม 3D Illusion บนจอดิจิทัลที่หลายแบรนด์นิยมทำกันมากขึ้น โดยล่าสุดมีเปิดตัวจอใหม่ที่บริเวณศูนย์การค้า The Emsphere ซึ่งล้วนเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่สำคัญของกรุงเทพฯ สามารถดึงดูดสายตาและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกที่ ทุกเวลา สามารถมองเห็นได้ทุกครั้งเมื่อเดินทางออกนอกบ้าน สามารถตอบโจทย์แคมเปญได้ในทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนาแพลทฟอร์ม Magnetic เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวัดผลแคมเปญ เพื่อให้สื่อ OOH สามารถวัดผลได้อย่างเป็นระบบและทราบถึงข้อมูลเชิงลึก เช่น เพศ อายุ ความสนใจ จำนวนผู้เห็นสื่อโฆษณา จำนวนครั้งของการมองเห็น ความถี่ในการมองเห็น และระยะเวลาที่ผู้สัญจรอยู่บริเวณป้ายโฆษณา ช่วยให้นักการตลาดนำข้อมูลมาวิเคราะห์และวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“เรายังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วมด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจผ่านนวัตกรรมของสื่อโฆษณาที่ทันสมัยและหลากหลาย เพื่อให้แบรนด์ใช้สื่อ OOH ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มศักยภาพ ขณะเดียวกัน เราก็พร้อมสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ที่จะช่วยยกระดับวงการและปลดล็อกศักยภาพสื่อ OOH ได้อย่างเต็มที่” พาขวัญ กล่าว
ปัจจุบัน Plan B Media บริหารสื่อ OOH แบ่งตามประเภทดังนี้ ป้ายบิลบอร์ด (Billboard) 3,908 ป้าย สื่อโฆษณาภายในรถโดยสารประจำทาง 2,683 คันและรถไฟฟ้า MRT 39 สถานี สื่อโฆษณาประเภทจอดิจิทัล 577 จอ สื่อโฆษณาภายในห้างสรรสินค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ต 14,305 จอ สื่อโฆษณาภายในสนามบิน 28 แห่ง
Creativity ปลดล็อกศักยภาพ
กนกกร สีหพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ GREYnJ UNITED กล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน โลกโฆษณากำลังเข้าสู่ยุคแห่งการสร้างประสบการณ์เหนือระดับ (Immersive Marketing) กล่าวคือ แบรนด์และผู้บริโภคมีความผูกพันทางอารมณ์ (Emotional Connection) ที่ลึกซึ้งและยาวนานขึ้น ผู้บริโภคมีความคาดหวังต่อแบรนด์สินค้ามากขึ้น ขณะเดียวกัน สินค้าและบริการก็มีบทบาทต่อชีวิตผู้บริโภคมากขึ้น
ดังนั้น การสร้างแบรนด์ในยุคแห่งประสบการณ์เหนือระดับ จึงต้องผสานเทคโนโลยีเข้ากับโลกแห่งความจริง เพื่อให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคผ่านโมเมนต์ที่น่าจดจำและความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง สัมผัสและรับรู้ได้ถึงคุณค่าและความเชื่อของแบรนด์ ด้วยเหตุนี้ สื่อ OOH จึงเป็นอีกหนึ่งแพลทฟอร์มที่สำคัญในการเชื่อมแบรนด์และผู้บริโภคมาเจอกัน นำไปสู่ “ปฏิสัมพันธ์” ระหว่างกันในระดับที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นผ่าน “ประสบการณ์” ที่ไม่เพียงสนุก แต่ยังมีความหมายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย หากขาดองค์ประกอบสำคัญที่เรียกว่า “ความคิดสร้างสรรค์” (Creativity)
กรณีศึกษา Talkable Bus Shelter
เมื่อเร็วๆ นี้ Plan B ได้ร่วมมือกับ GREYnJ UNITED คิดค้น Creative Solutions ที่เรียกว่า “ป้ายรถเมล์พูดได้” หรือ Talkable Bus Shelter ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยี GPS ที่ติดตั้งในระบบป้ายรถเมล์อัจฉริยะ (Smart Bus Shelter) ที่ Plan B ได้รับสิทธิในการสร้างและบริหารจัดการพื้นที่สื่อโฆษณาประเภทป้ายกล่องไฟจากกรุงเทพมหานคร มาประยุกต์ใช้ แก้ปัญหาด้านการเดินทางแก่ผู้พิการทางการมองเห็น ให้สามารถเข้าถึงบริการสาธารณะได้อย่างสะดวก ใช้บริการรถโดยสารและถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการอย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Talkable Bus Shelter โดย FWD ประกันชีวิต
ทั้งนี้ กว่าจะเป็น “ป้ายรถเมล์พูดได้” นั้น ทั้ง Plan B และ GREYnJ UNITED ต่างทำงานอย่างหนัก เพื่อหา “ความเป็นไปได้” จากทรัพยากรที่มีอยู่ นั่นคือ ป้ายรถเมล์อัจฉริยะที่ก่อสร้างและบริหารโดย Plan B ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม ขณะเดียวกัน ทีมครีเอทีฟจาก GREYnJ UNITED ได้นำจุดแข็งด้านความคิดสร้างสรรค์ ค้นหาอินไซต์ ไลฟ์สไตล์ ปัญหา อุปสรรคและความต้องการของผู้พิการทางการมองเห็น โดยความร่วมมือกับมูลนิธิคนตาบอด ซึ่งทั้งทีมเทคนิคจาก Plan B และทีมครีเอทีฟจาก GREYnJ UNITED ต่างทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ผสานจุดแข็งของแต่ละฝ่ายเข้าด้วยกัน จนกลายเป็น Creative Solutions ที่มุ่งสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการทางการมองเห็นอย่างแท้จริง