Kantar เผยรายงานความเครียดเป็นปัจจัยที่สร้างอุปสรรคอื่น ๆ ต่อสุขภาพโดยรวมของคนทั่วโลก เช่น ปัญหาน้ำหนักตัว การบริโภคอาหารที่ไม่สมดุล และค่าใช้จ่ายที่สูง ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกไม่สามารถบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพของตนได้
Kantar บริษัทวิจัยข้อมูลเชิงลึกทางการตลาดและการวิเคราะห์ชั้นนำของโลก เปิดตัวรายงาน Who Cares? Who Does? Health: Decoding Wellness เกี่ยวกับแนวโน้มด้านสุขภาพทั่วโลก รายงานรวบรวมข้อมูลเชิงลึกจาก 103,000 คน ใน 35 ตลาด ครอบคลุม 4 ทวีป รวมทั้งประเทศไทย เพื่อสำรวจพฤติกรรมและทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อสุขภาพกายและใจ
สรุปประเด็นสำคัญ ดังนี้:
– ช่องว่างระหว่างความคิดและการกระทำ: แม้ว่า 78% ของผู้คนเชื่อว่าพวกเขาต้องรับผิดชอบต่อสุขภาพของตัวเอง แต่มีไม่ถึงครึ่งที่ลงมือดูแลสุขภาพกายของตัวเอง และมีจำนวนน้อยกว่าที่ใส่ใจสุขภาพใจ
– ความเครียดเป็นอุปสรรคสำคัญต่อสุขภาพ และเป็นตัวกระตุ้นสุขภาพที่ย่ำแย่: ผู้คน 61% มองว่าความเครียดเป็นปัจจัยสำคัญด้านลบต่อสุขภาพ
– ค่าใช้จ่ายเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อทางเลือกเพื่อสุขภาพ: 52% ของผู้คนชี้ว่าค่าใช้จ่ายของสินค้าทางเลือกเพื่อสุขภาพเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาไม่ซื้อสินค้าเหล่านั้น
– การบริโภคอาหารที่ไม่สมดุล (Unbalanced diet) สะท้อนช่องว่างระหว่างความคิดและการกระทำ: 62% มองว่าอาหารแปรรูปเป็นอันตราย แต่มีเพียง 37% เท่านั้นที่พยายามหลีกเลี่ยง
ช่องว่างระหว่างความตั้งใจและการลงมือทำ
ผู้คนส่วนใหญ่ทั่วโลก (78%) เชื่อว่าพวกเขาเป็นผู้รับผิดชอบต่อสุขภาพของตนเอง แต่พวกเขาก็ไม่ได้ลงมือทำตามความเชื่อนั้น มีเพียง 51% ที่ดูแลสุขภาพร่างกายของตนอย่างจริงจัง และมีเพียง 48% ที่พยายามดูแลสุขภาพจิตใจของตนเอง
ทั้งนี้ มีเพียง 56% ของคนทั่วโลกที่รู้สึกว่าพวกเขามีสุขภาพกายและใจที่ดีหรือดีมาก
ไม่เพียงแต่ผู้บริโภคเท่านั้นที่มีบทบาทในการรักษาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เกือบครึ่งหนึ่งของผู้คน (49%) เชื่อว่าแบรนด์ต่าง ๆ ควรมีบทบาทในการส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่ดีขึ้น และ 47% คาดหวังให้ภาครัฐสนับสนุนนโยบายเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
การนอนหลับเพื่อรับมือกับความเครียด แต่การใช้หน้าจอเวลานานยังคงเป็นปัญหา
มากกว่า 3 ใน 5 ของผู้บริโภค (61%) มองว่าความเครียดเป็นอุปสรรคสำคัญต่อสุขภาพและยากต่อการหลุดพ้น ความเครียดนำไปสู่พฤติกรรมการกินที่ไม่ดี ซึ่งทำให้การควบคุมน้ำหนักยากขึ้น และเพิ่มความเครียดมากยิ่งขึ้นไปอีก นี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งผู้บริโภคมองว่าเป็นทั้งปัญหาทางด้านจิตใจและทางกาย
หลายคนรู้ว่าพวกเขาต้องการ “การนอนหลับ” ที่ดีขึ้นเพื่อจัดการกับความเครียด
– 45% ของผู้บริโภคยอมรับว่าการนอนแต่หัวค่ำ เป็นกุญแจสำคัญในการลดความเครียด แม้ว่าจะมีเพียง 2 ใน 3 (63%) ที่ได้รับการนอนหลับที่ดีอย่างสม่ำเสมอ
สาเหตุหนึ่งอาจมาจากการใช้เวลากับหน้าจอมากเกินไป โดยมีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่พยายามลดเวลาหน้าจอ แม้หลายคนจะแสดงความต้องการที่จะลดการเชื่อมต่อทางดิจิทัล
กลยุทธ์การจัดการน้ำหนักทางเลือกกำลังได้รับความนิยม
การจัดการน้ำหนักเป็นความท้าทายสำหรับคนทั่วไป โดย 38% ของผู้บริโภคระบุว่ามันส่งผลเสียต่อสุขภาพของตน แนวทางแบบเดิม เช่น การหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแคลอรีสูงและแปรรูป (ใน 71% ของผู้คน) และการออกกำลังกาย (ใน 47% ของผู้คน) ยังคงได้รับความนิยม
อย่างไรก็ตาม เครื่องมือใหม่ ๆ เช่น แอปพลิเคชันการติดตามอาหารเริ่มเป็นที่ใช้กันถึง 8% ของผู้บริโภคทั่วโลก และมีการตระหนักรู้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเกี่ยวกับยารักษาโรคอ้วน GLP-1 ซึ่งปัจจุบันถูกใช้เพียง 3% ของผู้บริโภค ด้วย 3 เหตุผล ได้แก่ 1. ยังใหม่ต่อตลาด 2. การขาดแคลน อาจจำกัดการจัดจำหน่ายในบางภูมิภาค และ 3. ราคาสูง
พฤติกรรมการทานขนมทำให้เกิดการบริโภคอาหารแปรรูปและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
การรับประทานอาหารที่ไม่สมดุลจำพวกอาหารแปรรูปและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลถูกมองว่าเป็นภัยต่อสุขภาพ แม้ว่า 62% จะมองว่าอาหารแปรรูปมีอันตราย แต่มีเพียง 37% เท่านั้นที่หลีกเลี่ยง ขณะที่เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลก็เช่นกัน โดย 73% มองว่าอันตรายแต่มีไม่ถึงครึ่ง (48%) ที่ลดการบริโภค
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้การดึงดูดของอาหารแปรรูปและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลยังคงแข็งแกร่งคือพฤติกรรมการทานขนมที่ครองตลาดอยู่ ขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มอัดลมมีการเข้าถึงสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ FMCG โดยมีการเข้าถึงสูงแตะ 90% และ 77% ตามลำดับ ความแพร่หลายและการเข้าถึงได้ง่ายของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทำให้การหลีกเลี่ยงของผู้บริโภคเป็นไปได้ยาก เช่นเดียวกับการที่ 2 ใน 3 คนระบุว่าการได้ทานขนมนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
ผู้บริโภครู้สึกว่าถูกจำกัดในการทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ
ต้นทุนส่งผลเป็นอย่างมากต่อความสามารถในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยกว่าครึ่ง (52%) ระบุว่าต้นทุนสูงของสินค้เพื่อสุขภาพเป็นอุปสรรคหลักต่อการซื้อ ขณะที่ความไม่น่าเชื่อถือและความสับสนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในบรรจุภัณฑ์ยังคงเป็นปัจจัยที่ขัดขวางผู้บริโภคในการเลือกเพื่อสุขภาพ
ผู้คนต้องการทำสิ่งที่ดีกว่าแต่ก็ติดอยู่ในวงจรของความเครียด พฤติกรรมการกินที่ไม่ดี และอุปสรรคต่อการจัดการน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมักถูกเพิ่มขึ้นโดยต้นทุนที่สูง แบรนด์ต่าง ๆ มีโอกาสสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ด้วยการทำให้เข้าถึงได้ง่าย มีความโปร่งใส และตอบโจทย์ด้านอารมณ์ พวกเขาสามารถช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างความต้องการของผู้คนกับความเป็นจริง ช่วยปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพให้ดียิ่งขึ้นทั่วโลก
เปลี่ยนอุปสรรคเป็นโอกาสในตลาดประเทศไทย
คุณชีวานนท์ ปิยะพิทักษ์สกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส ประเทศไทยและมาเลเซีย Kantar Worldpanel แนะนำสำหรับแบรนด์ในตลาดผู้บริโภคไทย เพื่อเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาส
“แบรนด์ในประเทศไทยมีโอกาสที่ดีในการช่วยให้ผู้บริโภคบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพ โดยแก้ไขปัญหาเรื่องราคา ความสะดวก ความโปร่งใส และตอบโจทย์ความต้องการทางอารมณ์ ผู้บริโภคต้องการความชัดเจนในข้อมูลสินค้า โดยสินค้าต้องมีข้อความที่ไม่สร้างความสับสน การสื่อสารที่ตรงไปตรงมาและฉลากที่เข้าใจง่ายจะสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์
สุขภาพไม่ใช่การห้ามตัวเองไปทั้งหมด แต่เป็นการหาสมดุลระหว่างสุขภาพและการใช้ชีวิตที่สนุกสนาน แบรนด์สามารถเติมเต็มความสัมพันธ์ทางอารมณ์ผ่านผลิตภัณฑ์ที่สร้างความสุขและการเข้าใจผู้บริโภค
นอกจากนี้ การให้ความรู้และแคมเปญการตลาด จะช่วยกระตุ้นพฤติกรรมที่ดีในกลุ่มที่กำลังเริ่มสนใจสุขภาพ ส่วนกลุ่มที่เพิ่งเริ่มต้น แบรนด์ควรเน้นที่ความเรียบง่าย ความคุ้มค่า และข้อมูลที่เข้าใจง่าย”
อ่านรายงาน Kantar Who Cares? Who Does? Health: Decoding Wellness https://kantar.turtl.co/story/whocares-who-does-2024-p