หลายคนอาจจะคุ้นหูกับชื่อ KAKAO Entertainment ซึ่งเป็นบริษัทที่มีคลังคอนเทนต์เยอะมาก เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรความบันเทิงยักษ์ใหญ่ อันดับหนึ่งในเกาหลีใต้ และอันดับต้นๆ ของโลก ทั้งยังมี KAKAO Chat ที่ความนิยมพุ่งสูงถ้าเทียบภาพให้ชัดขึ้น ความนิยมสูงมากพอๆ กับ LINE ในไทยอย่างนั้นเลย เพราะคนเกาหลีถึง 90% ใช้โปรแกรมแชทของ KAKAO
โดย KAKAO WEBTOON อยู่ในหมวด Story Entertainment ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ตอบโจทย์การนำเสนอคอนเทนต์พรีเมี่ยมแบบ K-culture ที่จะรวบรวมทั้งการ์ตูน นิยายต่างๆ ไว้เสิร์ฟสาวกการ์ตูน และคนที่ชื่นชอบความเป็นวัฒนธรรมเกาหลี และอาจจะมีหลายคนที่ยังไม่รู้ว่า มีออริจินัลสตอรี่ของ KAKAO WEBTOON หลายเรื่องที่ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ และซีรีส์
อย่างเช่น Itaewon Class, What’s Wrong with Secretary Kim, Space Sweepers, The Uncanny Counter, Love Alarm และ Solo Leveling เป็นต้น
ดร.ยางวอน ฮยอน กรรมการผู้จัดการ คาเคา เว็บตูน ไทยแลนด์ คอร์ป ได้เล่าให้ฟังว่า เหตุผลที่ประเทศไทย เป็นประเทศแรกที่เปิดตัวเว็บตูน (ก่อนเกาหลีด้วยซ้ำ) ก็เพราะว่า หนึ่งในเป้าหมายของบริษัทแม่คือ ต้องการรุกตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) แต่ความโดดเด่นของไทยมีหลายอย่าง เช่น
-
สถิติการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยสูงถึง 69.5% (สูงกว่าเฉลี่ยทั้งโลก)
-
คนไทยเปิดกว้างและชื่นชอบวัฒนธรรมเกาหลี
-
เทรนด์การอ่านการ์ตูนออนไลน์กำลังมา
“ปัจจัยที่เป็นแรงขับเหล่านี้ ทำให้เชื่อมั่นว่าคอนเทนต์และแพลตฟอร์ม KAKAO WEBTOON จะเข้าถึงผู้อ่านคนไทยได้ไม่ยาก และน่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี”
โดยคอนเทนต์ของ KAKAO WEBTOON มีออริจินัล เว็บตูน ที่เป็นผลงานสร้างสรรค์จาก Novelcomics ซึ่งเป็นคำผสม ระหว่าง novel กับคำว่า comic หมายถึง เว็บตูนที่มีออริจินัลสตอรี่มาจากนิยาย ก็คือ เป็นรูปแบบการจัดทำคอนเทนต์โดยมี base มาจากนิยายชื่อดัง แล้วนำมาสร้างเป็นเว็บตูน ซึ่งจะเลือกจากนิยายที่ได้รับความนิยมสูง จาก KAKAO Page content ที่เป็นแพลตฟอร์มเกาหลี และมีคอนเทนต์จำนวนมากกว่า 10,000 เรื่อง
อย่างเช่น Solo Leveling ที่มีกระแสความนิยมไปทั่วโลก และติดอันดับหนึ่งในหลายประเทศ ทั้งในเกาหลี, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย และ ไทย
ดร.ยางวอน ยังเปรยๆ ด้วยว่าตอนนี้มีโปรเจ็กต์ที่กำลังทำร่วมกับ ‘คุณรอมแพง’ เจ้าของผลงานเรื่องบุพเพสันนิวาส (Love Destiny) ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนแปลงจากนิยายมาเป็นเว็บตูน และคาดว่าอาจจะเปิดตัวได้ในเดือน พ.ย. ปีนี้
ทั้งนี้ ลองมาดูว่า เทรนด์การอ่านการ์ตูนออนไลน์กำลังมานั้นจริงมั้ย KAKAO WEBTOON เปิดตัวในไทยวันแรก คือ 7 มิ.ย. 2564 ด้วยการเปิดตัวออริจินัลสตอรี่ทั้งหมด 70 เรื่อง (ปัจจุบันเพิ่มมาเป็น 90 เรื่อง) ซึ่งในระยะเวลาแค่ 4 วันที่เปิดตัว ทำรายได้ไปทั้งหมด 10 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งไม่เคยมีการเปิดตัวแพลตฟอร์มไหนของ KAKAO Entertainment ในประเทศใดที่การเปิดตัวสัปดาห์แรก สร้างรายได้สูงขนาดนี้มาก่อน
โดยประเมินว่า สิ้นเดือน ก.ค.นี้ จะมียอดดาวน์โหลด 3 ล้านครั้ง และ active users 1 ล้านคนอย่างแน่นอน และปีหน้าที่คาดการณ์ไว้ เชื่อว่ายอดดาวน์โหลดจะเพิ่มเป็น 1.5 ล้านครั้ง และ active users จะอยู่ที่ 4.5 ล้านคน
จุดเด่นของ KAKAO WEBTOON
-
ระบบ UI / UX ของแอปพลิเคชัน (user interface / user experience)
-
เน้นประสบการณ์การอ่านคอนเทนต์ หรือ IPX (IP eXperience) ที่แปลกใหม่
-
การโชว์ตัวอย่างเว็บตูนขนาดเล็ก (thumbnail) ด้วยตัวละครที่เป็นภาพเคลื่อนไหวมีชีวิตชีวา
-
ใช้ระบบ AI Matching คือ จับคู่เว็บตูนเรื่องที่ตรงกับความชอบของผู้อ่าน
-
ฟีเจอร์ Universe circle ที่แรกและที่เดียวในแอปฯ KAKAO WEBTOON ที่จะจัดกลุ่มเว็บตูนตามประเภทต่างๆ และเรียงต่อกัน โดยเราจะเลื่อนขึ้น-ลง แทนที่จะเปิดแบบขวาไปซ้าย, ซ้ายมาขวา
-
KAKAO WEBTOON จะปล่อยเรื่องใหม่อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 – 5 เรื่อง และตอนใหม่ทุกสัปดาห์
-
ใช้ระบบโมเดล ‘รออ่านฟรี’ สำหรับคนที่ไม่อยากเสียเงินเพื่ออ่าน โดยจะมีกิจกรรมเพื่อรับแคชของขวัญ หรือใช้ตั๋วรออ่านฟรี (มีทุกเรื่อง แต่ถ้าเป็นเรื่องใหม่ต้องรอ 7 วันถึงอ่านได้)
-
สำหรับคนที่ยอมเสียเงินเพื่อนอ่านเว็บตูน จะใช้ฟีเจอร์ ‘แลกตั๋วเช่า’ เพียงตอนละ 5 บาท ซึ่งอ่านได้นาน 365 วัน
-
มีจุดยืนที่ชัดเจน สนับสนุนการอ่านคอนเทนต์แบบถูกลิขสิทธิ์
ทั้งนี้ ดร.ยางวอน ยังบอกด้วยว่า กลุ่มเป้าหมายหลักๆ ของ KAKAO WEBTOOn ในตอนนี้ก็คือ ผู้อ่านที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี มีจำนวนสูงมาก ขณะที่กลุ่มที่รักการอ่านตูนที่ยอมเสียเงินอ่านก็มีสัดส่วนถึง 10-12% ถือว่ายังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม รายได้ส่วนหนึ่งของ KAKAO WEBTOON ก็คงเป็นการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ เพื่อนำไปต่อยอดทำภาพยนตร์ หรือซีรีส์ ซึ่งในอนาคตคงต้องติดตามกันยาวๆ ว่า 150 เรื่องที่ KAKAO WEBTOON ตั้งเป้าเอาไว้ภายในปีนี้ จะมีเรื่องอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ปักหมุดมาแล้วว่า KAKAO WEBTOON เตรียมจะขยายไปที่ไหนบ้าง มีตั้งแต่ อินโดนีเซีย, สหรัฐอเมริกา, อินเดีย และฝรั่งเศส
ข้อมูลโดย KAKAO WEBTOON