ไม่ใช่เล่น..สินค้าไอทีปลอมขายสะพัดทั่วโลกทะลุแสนล้านดอลลาร์

  • 169
  •  
  •  
  •  
  •  

ขึ้นชื่อว่าสินค้าขายดี คนนิยมใช้ก็ย่อมต้องมีคนหัวใสทำของลอกเลียนแบบกันออกมาขายกันเป็นธรรมดา ไม่เว้นแม้แต่สินค้าในกลุ่มเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ที่ซับซ้อนก็ยั๊งงงจะมีคนทำของเลียนแบบออกมา

OECD_1

แต่ที่น่าสนใจคือ ปลอมกันขนาดที่สามารถทำเงินได้มหาศาล ซึ่งข้อมูลเผยแพร่ฉบับล่าสุดจาก องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาหรือ OECD ที่รวบรวมไว้ตั้งแต่ 2013 ระบุว่า สินค้าไอทีฮอตฮิตติดมือของคนทั่วโลกอย่างโทรศัพท์มือถือ เกือบ 1 ใน 5 ของที่ขายกันทั่วโลกเป็นสินค้าปลอม และ 1 ใน 4 ของเกมคอนโซลที่ขายกันก็ปลอมเช่นกัน

รายงานฉบับดังกล่าวยังประเมินไว้ มูลค่าของการซื้อขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปลอมทั่วโลกนั้นสูงถึง 1.43 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 7% ของตลาดสินค้าไอซีทีทั่วโลก

OECD_2

โดยหากดูข้อมูลจำแนกตามประเภทสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมทำสินค้าปลอมหรือลอกเลียนแบบขึ้นมามากที่สุดคือ เครื่องเล่นเกมคอนโซลราว 24% ของสินค้าที่ซื้อกันขายทั่วโลก

รองลงมาคือ สินค้าประเภทหูฟัง 19% และอุปกรณ์เสริมมือถือราว 18%

ส่วนแหล่งที่มาของสินค้านั้นก็พอจะเดาได้ว่า แหล่งผลิตใหญ่ที่สุดของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปลอมคือ จีนและฮ่องกง ครองสัดส่วนถึง 57%

โดยมีตลาดเป้าหมายสำคัญคือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งจากข้อมูลพบว่า มูลค่าของสินค้าปลอมมากกว่า 40% ถูกนำไปขายในตลาดสหรัฐฯ

ส่วนสินค้าที่พบการละเมิดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาสูงสุดคือ สินค้าจากสหรัฐ รองลงมาคือ สินค้าจากฟินแลนด์ และญี่ปุ่น

นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มของสินค้าประเภทแบตเตอรี่มือถือ, ที่ชาร์จ, เมโมรี การ์ด,บัตรแถบแม่เหล็ก, สื่อบันทึกข้อมูลแบบเอสเอสดี และเครื่องเล่นเพลงถูกปลอมมากขึ้นด้วย

ถึงราคาจะถูกยั่วใจ แต่ก็อย่าลืมว่า ของลอกเลียนแบบอย่างไรก็คือ ของลอกเลียนแบบที่ไม่ได้มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับสินค้าจริงที่มีการออกแบบและพัฒนามาเป็นอย่างดี

โดยเฉพาะประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน ไม่ว่าจะข้อมูลส่วนตัวที่เสี่ยงจะถูกสอดแนมผ่านโปรแกรมไม่ประสงค์ดี หรือแม้แต่ความปลอดภัยในเชิงของคุณภาพของการผลิต

ตลอดจนถึงบริการหลังการขายสำหรับสินค้าบางอย่างที่ต้องการการดูและหรือบำรุงรักษาเป็นพิเศษ ซึ่งการซื้อของถูกแต่ต้องไปวัดดวงกันตอนใช้งานเทียบกับการซื้อของจริงที่ต่อให้มีปัญหาในการใช้งานก็ยังมีศูนย์ดูแลลูกค้าให้พออุ่นใจน่าจะคุ้มกว่ากันเยอะ

ที่มา: www.oecd.org , www.statista.com


  • 169
  •  
  •  
  •  
  •