หากย้อนไปตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่เราได้รู้จักกับคำว่า เดลิเวอรี่ เชื่อว่าทุกคนจะลงความเห็นตรงกันว่า มันเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งของธุรกิจและร้านค้าเท่านั้น แต่ ณ ปัจจุบัน เดลิเวอรี่ได้ถูกนิยามความหมายขึ้นใหม่ จากที่ถูกมองว่าเป็นทางเลือก ก็กลายเป็น ‘ทางรอด’ ที่ธุรกิจร้านค้าจะต้องกระโดดเข้าไปเพื่อพยุงตัวเองให้รอดพ้นจากวิกฤตการแพร่ระบาดครั้งนี้
ในงานสัมมนา “เปิดสูตรลับ ปรับกลยุทธ์ ธุรกิจอาหารต้องรอด” ของ SCB มีอินไซต์โดยตรงจาก Robinhood ที่น่าสนใจ โดย คุณสีหนาท ล่ำซำ กรรมผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการแอปพลิเคชั่น Robinhood โดยเล่าให้ฟังว่า ในยุคที่ COVID-19 ยังอยู่กับเรา นอกจาก cashflow ที่ต้องมีมากพอสมควร การวางกลยุทธ์หรือแม้แต่การใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเดลิเวอรีก็ต้องฉลาดใช้ด้วย
ขณะเดียวกัน แพลตฟอร์ม Robinhood ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยร้านค้าและผู้บริโภคจริงๆ อย่างที่เราเห็นโปรโมชั่นล่าสุด ที่เหมาจ่าย 10 บาทในระยะทาง 5 กิโลเมตร ซึ่งต่อยอดมาจาก Free delivery ในระยะ 10 กิโลเมตรที่ผ่านมา ที่ทำให้ยอดออเดอร์พุ่งสูงขึ้นมาก 7-8 เท่าตัวทีเดียว
ทีนี้ก่อนที่เราจะไปล้วงอินไซต์ที่มาจาก Robinhood อยากอัพเดทนิดนึงว่า ตอนนี้ Robinhood ได้แก้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนไรเดอร์แล้ว จากที่มีจำนวนไรเดอร์แค่ 2,000 คน ตอนนี้เพิ่มเป็นหลัก 25,000 คน ส่วนจำนวน active rider อยู่ที่ประมาณ 16,000 คน ขณะที่มีจำนวนร้านค้าในปัจจุบันเพิ่มขึ้นเกือบ 1.5 แสนรายแล้วในแพลตฟอร์ม
ดังนั้น learning by doing ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ อุดช่องโหว่ที่เคยเป็นปัญหาให้เร็ว และเพิ่มศักยภาพให้ถูกจุดอย่างที่ Robinhood ทำ
สรุปอินไซต์ และคำแนะนำจาก Robinhood
อยากจะมาสรุปอินไซต์จากช่วงที่ผ่านมาของ Robinhood ตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาด เห็นได้ชัดเจนว่า traffic ในการซื้ออาหาร-เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่เพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงที่สถานการณ์ปกติ ซึ่งเดลิเวอรี่ทั้งหมดในประเทศไทยก็เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ สิ่งที่คุณสีหนาท เล่าให้ฟังและมองว่าร้านค้าสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลตรงนี้ เพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้นได้
-
3 คำค้นหายอดนิยม คือ ปลาแซลมอน, ยำ และ กาแฟ-เครื่องดื่ม
-
3 พื้นที่ที่มี traffic การสั่งอาหารสูงมาก คือ จตุจักร, ลาดพร้าว และ วัฒนา
-
ช่วง 3 วันที่คนจะสั่งออเดอร์มากที่สุด คือ ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์
-
‘วันจันทร์’ เป็นวันที่ยอดออเดอร์เงียบมากที่สุดบนแอปฯ Robinhood
-
ช่วง peak time มีอยู่ 2 ช่วง คือ 10.30 – 13.30 น. และ 16.30 – 19.30 น.
-
Robinhood ไม่มีการโฆษณา หรือจ่ายค่าแบนเนอร์ ร้านค้าสามารถจัดโปรโมชั่นสุดฮอต เพื่อให้ร้านได้อยู่หน้าแรกที่แนะนำร้านได้
-
ร้านค้าควรกระตุ้นยอดขายด้วยการจัดโปรโมชั่นลดราคา หรือ set คุ้มค่า (เพราะ Robinhood ไม่มีค่า GP, ไม่เก็บเงินร้านค้า, ไม่เก็บเงินจากไรเดอร์)
-
ร้านค้าควรคำนึงถึง package การขนส่ง, รสชาติที่อร่อยเหมือนทานที่ร้าน, เมนูมีความหลากหลาย
-
ร้านค้าควรทำ digital marketing เพื่อให้ลูกค้ามีช่องทางเข้าถึงร้านมากขึ้น เช่น Microsite, เพจร้านบนโซเชียลมีเดีย
-
ร้านค้าควรทำมาร์เก็ตติ้งแบบ original เช่น ฝากร้านในกลุ่ม Facebook กลุ่มในสื่อสังคมที่มีความชอบเหมือนกัน
-
มีกระบวนการคิดแบบ innovative สมมุติว่าเราเป็นลูกค้า และคิดถึงการอำนวยความสะดวกในรอบด้าน
นอกจากคำแนะนำข้างบนที่ได้สรุปให้อ่านกัน คุณสีหนาท ยังเกริ่นๆ ด้วยว่า Robinhood มีแพลนในระยะยาวที่จะขยายแพลตฟอร์มในต่างประเทศ โดยปักหมุดนำร่องไปที่กลุ่ม CLMV (กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมา, เวียดนาม) และหากผลตอบรับค่อนข้างดีอาจจะขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียต่อไป
ข้อมูลโดย Robinhood