เผยพฤติกรรมคุณแม่ชาวไทยยุคดิจิทัล พบ 92% มีอำนาจตัดสินใจซื้อ และ64% เป็นขาช้อปออนไลน์สูง ขณะที่ Facebook เป็นโซเชียล มีเดียที่บรรดาคุณแม่ทั้งหลายนิยมใช้เป็นอันดับหนึ่ง
“theAsianparent” ได้จัดทำผลสำรวจพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตและการช้อปออนไลน์ของคุณแม่ยุคใหม่ 5,000 คน พบว่า คุณแม่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตในช่วงเวลา 18.00 – 22.00 น. มากที่สุด ซึ่งกิจกรรมหลักที่คุณแม่ใช้เป็นประจำ ได้แก่ เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันสำหรับครอบครัว 86% เป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ ใช้งานโซเชียลมีเดียทั่วไป 73% และอันดับสุดท้าย คือ ช้อปปิงออนไลน์ 64%
โดย 84% ของคุณแม่ที่ต้องการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแม่และเด็กมักค้นหาข้อมูลผ่านทางแอปฯ , 74% อ่านผ่านทางหน้าเว็บไซต์ ขณะที่กลุ่มคุณแม่ที่ใช้แอปฯ ส่วนมากมักเข้าไปใช้งานฟีเจอร์การติดตามพัฒนาการตั้งครรภ์และพัฒนาการเด็กเป็นอันดับหนึ่ง(92%) รองลงมา คือ ติดตามอ่านบทความเกี่ยวกับครอบครัว 51% และอันดับสุดท้าย คือ พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับพ่อแม่ท่านอื่น 47%
ส่วนโซเชียล มีเดียที่เหล่าคุณแม่ชาวไทยนิยมใช้นั้น อันดับ 1 Facebook 99% , ตามมาด้วย YouTube 84% และ Instagram 61%
ด้านพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ พบว่า 92% ของครอบครัวไทยคุณแม่จะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกซื้อของใช้ภายในบ้าน โดยโปรโมชันชอปปิงออนไลน์ที่ช่วยให้เหล่าบรรดาคุณแม่ตัดสินใจซื้อได้ง่ายที่สุดคือ “จัดส่งฟรี” 57% สิ่งที่น่าสนใจก็คือกลยุทธ์ “ซื้อ 1 แถม 1” นั้นมีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากกว่า ลดราคา 50%”
ส่วนการชำระเงินเมื่อชอปปิ้งนั้น การชำระเงินปลายทางเป็นที่นิยมมากที่สุดในบรรดาช่องทางการชำระเงินต่างๆ โดยมีอัตราส่วนสูงถึง 71% รองลงมา คือ mBanking 51% (นิยมใช้ผ่าน KBank 48% , SCB 42%, Krungthai 32%) ตามมาด้วยบัตรเครดิต/เดบิต 28% ถัดมาเป็นการโอนผ่านธนาคาร/ตู้เอทีเอ็ม 24% และสุดท้ายคือ E-wallet 9% (TrueMoney wallet 41%, AirPay 17%, Rabbit 10%) ตามลำดับ
นอกจากนี้ ยังพบว่า คำแนะนำของคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณแม่มาเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่ Online Influencer หรือ Celebrities Influencer มีส่วนช่วยให้คุณแม่รู้จักแบรนด์สินค้าและความน่าเชื่อถือของแบรนด์
สำหรับ “theAsianparent” เป็นเว็บไซต์ครอบครัวที่มีอยู่ใน 12 ประเทศทั่วโลก อาทิ สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย,ไทย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, เคนย่า, ศรีลังกา, อินเดีย และ ไนจีเรีย
แหล่งที่มา : theAsianparent