ปัจจุบันนี้การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ผ่านระบบซอฟแวร์มีความจำเป็นมากขึ้น เช่นการทำงานโดย Google Analytics ซึ่งเข้าครอบงำอุตสาหกรรมdigital marketing เข้าไปทุกขณะ ฉะนั้นงานในส่วน marketing จำเป็นต้องปรับตัวเข้ากับยุทธศาสตร์นี้ให้ได้
การสร้างสรรค์การตลาดอย่างในอดีตได้ผ่านไปแล้ว เพราะการเพิ่มขึ้นของอินเตอร์เน็ตที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้บริโภคในทุกๆ วินาที และการเพิ่มขึ้นของข้อมูลข่าวสารในโลกของการตลาดทำให้การวิเคราะห์และเข้าถึงข้อมูลเปลี่ยนไป จึงเกิดแนวความคิดแบ่งนักการตลาดเป็นสองประเภทด้วยกันได้แก่ Marketing scientists และ Marketing artists หรือคือนักการตลาดในแบบดั้งเดิม
อย่างไรก็ตาม มีข้อแตกต่างที่เราอาจจะไม่ทราบระหว่าง Marketing scientists และ Marketing artists โดย Marketing scientists จำเป็นจะต้องติดตามและวิเคราะห์ ประวัติการค้นหาข้อมูลของผู้บริโภค เพื่อที่จะเปิดเผยและค้นพบให้ได้ว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมและความต้องการอย่างไร เพื่อที่จะนำมาใช้ในการสร้างสรรค์ ad campaigns
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้บอกว่า ในส่วนของ Marketing artists หรือนักการตลาดแบบดั้งเดิมไม่มีความจำเป็นต่อแผนกการตลาด แต่นักการตลาดรุ่นใหม่จะต้องมีทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน ดังนั้น แผนกการตลาดจะต้องหาหนทางที่จะทำให้มีทั้ง “การสร้างสรรค์” และ “การขับเคลื่อนข้อมูล” เพื่อกลยุทธ์ทางการตลาดให้ได้ นำไปสู่การสร้างแคมเปญโฆษณาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ดังนั้น ลองดูตาม Inforgraphic นี้ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับข้อแตกต่างในฟังก์ชั่นระหว่าง Marketing scientists และ Marketing artists เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาตนเองให้คุณมีความเป็น Marketing scientists และ Marketing artists ให้ได้ในคนเดียว