ในการดำเนินธุรกิจความเจริญก้าวหน้าของบริษัทเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งการได้มีโอกาสร่วมงานหรือทำธุรกิจกับต่างชาติ น่าจะเป็นเป้าหมายที่หลายๆ บริษัทต้องการ และหนึ่งในประเทศที่มีเม็ดเงินการลงทุนในไทยสูงเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ “ประเทศญี่ปุ่น” ดังนั้น โอกาสที่ธุรกิจของไทยจะต้องติดต่อประสานงาน หรือทำธุรกิจร่วมกันกับญี่ปุ่นนั้นจึงมีโอกาสมากทีเดียว
ฉะนั้น หากคุณได้มีโอกาสทำงานหรือจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ร่วมกับบริษัทญี่ปุ่นแล้ว คุณคิดว่าตัวเองพร้อมหรือยัง? คุณมีการเตรียมการไว้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร?
ดังนั้น ในบทความนี้จึงนำเสนอ Infographic เพื่อแนะเคล็ดลับในการเตรียมตัวให้พร้อมกับการจับคู่ทางธุรกิจกับญี่ปุ่น โดยเป็นข้อมูลที่ได้มาจากงาน Krungsri-MUFG Business Matching Fair 2015 ซึ่งจัดโดยธนาคารกรุงศรี เป็นคู่มือสำหรับนักธุรกิจไทยให้สามารถนำไปใช้ในการทำงานได้อย่างไม่ยาก ลองศึกษาดูนะคะ
จาก Infographic ข้างต้นนี้คงพอจะช่วยให้นักธุรกิจไทยสามารถทำงานและเกิดการประสานกับต่างชาติได้อย่างคล่องตัว และไม่เฉพาะแต่กับชาวญี่ปุ่นเท่านั้นยังสามารถนำไปใช้กับการทำธุรกิจของชาติอื่นๆ ได้อีกด้วย
สำหรับ Krungsri-MUFG Business Matching Fair 2015 คือกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง ธนาคารกรุงศรีฯ ร่วมกับ ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) ในเครือ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ซึ่งปีนี้จัดขึ้นนับเป็นปีที่ 2 แล้ว มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างบริษัทไทยและญี่ปุ่นให้ขยายเพิ่มมากขึ้น โดยงานดังกล่าวเป็นงานจับคู่ธุรกิจนอกประเทศญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดที่จัดโดย BTMU และมีบริษัทเข้าร่วมประมาณ 170 บริษัท นำไปสู่การจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 300 คู่ แล้วยังสร้างสถิติใหม่ในเชิงจำนวนบริษัทและประเภทอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม อุปกรณ์การแพทยพ์ วัสดุก่อสร้าง ชิ้นส่วนเครื่องจักร ธุรกิจสื่อ ผลิตภัณฑ์เพื่ออุปโภคบริโภค และสินค้าแฟชั่น
ที่สำคัญคือนับเป็นปีแรกที่มีบริษัทจาก สปป.ลาว และเวียดนาม เข้าร่วม Business Matching ดังกล่าวนี้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีการวางเป้าหมายให้ กรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งเชิงยุทธ์หรือเป็นศูนย์กลางของการจับคู่ทางธุรกิจที่สำคัญอีกด้วย (Business matching hub) โดยหวังจะขยายจำนวนบริษัทที่เข้าร่วมให้ครอบคลุมบริษัทที่ตั้งอยู่ในกลุ่ม CLMV กลุ่มธุรกิจและประเภทอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากขึ้นออกไป
ในสภาพเศรษฐกิจไทยที่ค่อนข้างทรงตัว การได้รับความร่วมมือจากประเทศที่มีสถานะทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอย่างญี่ปุ่น นับเป็นโอกาสอันดีของนักธุรกิจไทยและอาเซียนเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสสร้างธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น ดังนั้น หากใครสนใจจะอยากจะศึกษาหาคววามรู้เกี่ยวกับการ Business Matching ก็สามารถคลิกเข้ามาอ่านได้เพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ https://www.krungsri.com/bank/th/KrungsriCorporate/CorporateBankingNews/2788.html