หนึ่งในความได้เปรียบของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคือ การดีไซน์ โดย 3 ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Google และ Microsoft ก็ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาในเรื่องนี้เช่นกัน และเป็นที่ทราบกันดีว่า Apple เป็นแบรนด์ให้ความสำคัญกับการดีไซน์มาโดยตลอดในทุกผลิตภัณฑ์ ทำให้ Apple ได้เปรียบแบรนด์อื่นๆ ในตลาด
แต่ Google และ Microsoft ก็ไม่ยอมแพ้ มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด นับตั้งแต่วันที่ปล่อย Zune และโปรแกรมที่จะเป็นประโยชน์สำหรับโปรแกรมเมอร์
การดีไซน์ของแบรนด์จึงเป็นเหมือน DNA ที่จะเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ต่อจากนี้ไปคุณอาจจะเห็นการออกแบบที่หลากหลายมากขึ้น และแตกต่างกันไปในแต่ละอุปกรณ์ ทั้งหมดนี้ เพื่อเป็นการพิสูจน์การใช้ความครีเอท ความคิดสร้างสรรค์ งานดีไซน์ และความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ต่อไป
หลักในการออกแบบของ Apple
“ที่ผ่านมา Apple ต้องให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงระหว่าง การออกแบบ และธุรกิจ วิธีที่ง่ายที่สุดคือ การออกแบบที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสร้างมูลค่าให้สินค้า” Fast Company
• เน้นงานที่มีความละเอียดอ่อน : สวยงาม มีคุณภาพ
• เอาใจเขามาใส่ใจเรา : ก่อนจะทำอะไรต้องคำนึงถึงผู้ใช้เป็นหลัก และให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับผู้ใช้
• โฟกัส : “เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด เราจึงตัดสินใจตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกให้หมด” Mike Markkula ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Apple กล่าว
• สร้างภาพลักษณ์ : รูปแบบความคิด การตัดสินใจของคนส่วนใหญ่ เกี่ยวกับบริษัท หรือสินค้า อันดับแรกพวกเขาจะใช้ความประทับใจแรก ใช้สัญชาตญาณส่วนตัวในการตัดสินใจ “บรรจุภัณฑ์” จึงต้องได้รับการออกแบบให้สวยงาม เพื่อดึงดูดความสนใจตั้งแต่ครั้งแรก
• เป็นมิตร : สตีฟ จ็อบส์ ได้รับการยอมรับในช่วงแรกของการเปิดตัวอุปกรณ์เทคโนโลยีต้องมีความเป็นมิตร และใช้งานง่าย
• วัสดุ และกระบวนการผลิต : โจนาธาน พอล “โจนี” ไอฟ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการออกแบบของบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์ และเป็นผู้ออกแบบ iMac กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์จาก Apple มีการออกแบบได้อย่างสวยงามลงตัว ชิ้นส่วนทุกชิ้นต่างก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม ทำให้อุปกรณ์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์
เป้าหมายในการออกแบบของ Google
ความโดดเด่นของดีไซน์จาก Google อยู่ที่ภาษาของการออกแบบ หรือ Visual Language ที่รวบรวมหลักการออกแบบที่ดี ผสมผสานกับความคลาสสิก นวัตกรรม และความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ โดยใช้เป็นแนวทางการออกแบบชุดเดียวที่ใช้ได้หลายอุปกรณ์ ข้อมูลจาก Google Material Design
หลักในการออกแบบของ Google
• วัสดุพื้นฐาน Google : วัสดุพื้นฐานของ Material Design คือ “กระดาษและหมึก” ที่มีแรงบันดาลใจมาจากสิ่งพิมพ์ของจริง ตัว “แผ่นงาน” ในระบบของ Material Design จึงเป็นเหมือนกระดาษขาว ที่วัตถุหรือข้อความมาวางไว้บนนั้นได้ เป็นการเปิดโลกจินตนาการได้อย่างมหัศจรรย์
• รูปแบบตัวอักษร กราฟิก และการตั้งใจนำเสนอ : องค์ประกอบพื้นฐานของการออกแบบคือ ตัวอักษร ภาพประกอบ การใช้พื้นที่ว่าง
• การเคลื่อนไหวที่มีความหมาย : การเคลื่อนไหวทุกอย่างต้องมีความหมาย
Microsoft
“ดูดีเมื่อเป็นสี่เหลี่ยม” แล้วทำไมต้องเป็นสี่เหลี่ยม?
ต้องย้อนกลับไปถึงการออกแบบก่อนว่า ทำไมต้องเป็นสี่เหลี่ยมๆแบบที่เห็นกันอยู่แบบนี้ ? ทีมออกแบบของไมโครซอฟท์ได้แรงบันดาลใจมาจากป้ายบอกทางต่างๆ ของระบบขนส่งสาธารณะ โดยพวกทีมออกแบบ เห็นว่าพวกป้ายเหล่านั้นมีสไตล์คล้ายๆกันคือ ตัวหนังสือที่ใหญ่สะดุดตา เขาจึงมองว่ามัน รวดเร็ว ว่องไว ทันสมัย และ ใหม่อยู่เสมอ เพราะความที่มันใหญ่สะดุดตา มันเลยทำให้เราเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสมัยนั้นไมโครซอฟท์เรียกสไตล์แบบนี้ว่า Metro Style เพราะเป็นการอ้างอิงถึง Metro Subway, Traffic sign ต่างๆ ต่อมาทีมออกแบบจึงสร้างมันเป็นสี่เหลี่ยมหลายๆอันหรือเรียกว่า Tiles นั่นเอง (ข้อมูลจาก http://www.thailivetile.com)
“ในช่วงแรก Microsoft อาจดูไม่ทันสมัยในยุคนี้ แต่ Microsoft ก็ได้รับผลกระทบจากทิศทางตลาด และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค จนพัฒนาเป็น Windows 8 ที่ผู้ใช้งานทุกคนต้องใช้เวลาในการสร้างความคุ้นเคย” HongKiat.com
หลักในการออกแบบของ Microsoft
• ความภาคภูมิใจในผลงาน : องค์ประกอบสำคัญที่ Microsoft นำมาใช้ในการออกแบบคือ ความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ
• น้อยแต่มาก : ออกแบบให้เรียบง่ายที่สุด ทุกอย่างที่ปรากฏบนหน้าจอจะต้องใช้งานได้จริง
• รวดเร็ว และไหลลื่น : ทุกฟังค์ชั่นต้องทำงานได้ดี ตอบสนองได้รวดเร็ว
• เป็นดิจิตอลอย่างแท้จริง : ต้องสัมผัสได้
• เป็นหนึ่งเดียว : ข้อนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะดีไซน์เป็นอย่างไร ทุกอย่างต้องสอดคล้องกัน
สิ่งที่ทั้ง 3 ค่าย มีเหมือนกัน
• เน้นการออกแบบที่เรียบง่าย ดูสะอาดตา
• เน้นการออกแบบที่ตอบสนองผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับทุกหน้าจอ
• เน้นการออกแบบที่ใช้งานง่าย โดยยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง
สิ่งที่ทั้ง 3 ค่าย มีไม่เหมือนกัน
• Microsoft : ให้ความสำคัญกับ “การแสดงข้อมูลแบบสี่เหลี่ยม” ซึ่งเป็นความโดดเด่นของหน้าจอแสดงข้อมูลจากไมโครซอฟท์ ที่มีการเคลื่อนไหวแบบแนวนอน สีสันสดใส แต่ยังขาดมิติ และพื้นผิว
• Google : เห็นอะไรก็เป็น “การ์ด” ไปหมด ด้วยการไล่ระดับเฉดสี การใช้แสงและเงา รวมถึงการใช้พื้นหลังสีขาว ทำให้วัสดุ หรือข้อความที่อยู่ด้านบนโดดเด่นขึ้นมาได้
• Apple : ความแตกต่างของ Apple คือ ตัวอักษรที่ทันสมัย มีความโปร่งแสง ความลงตัวของพื้นที่ว่าง และใน iOS7 ก็ยังมีเอฟเฟกซ์การเลื่อนภาพแบบ Parallax หรือวอลเปเปอร์แบบ 3 มิติ ที่มีภาพพื้นหลังสามารถหันไปตามทิศทางที่เรามองเครื่องได้
แบรนด์ไหนที่เติบโตเร็วที่สุด
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แบรนด์ที่มีมูลค่าการเติบโตมากที่สุดคือ Apple รวมแล้วกว่า 277.60% รองลงมาคือ Google และ Microsoft ตามลำดับ
แล้วแบรนด์ใดที่จะชนะสงครามการดีไซน์ครั้งนี้?
ที่ผ่านมา Apple ก็โดดเด่นในเรื่องการดีไซน์มาโดยตลอด แต่ในช่วงหลังมานี้ Google และ Microsoft ก็เริ่มให้ความสำคัญกับการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เรียกได้ว่าทั้ง 3 ค่ายนี้ ต่างก็ไม่มีใครยอมใคร
ความคิดเห็นจากนักออกแบบ
“ประสบการณ์ที่ Apple มอบให้ผู้ใช้งานตลอดมา ก็ยังคงทำได้ดีเหมือนเดิม Google ก็ได้ใช้ความพยายามอย่างแท้จริงในการพัฒนาดีไซน์ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย และสำคัญอย่างมาก” Kristy Tillman, IDEO
“ไม่ว่าคุณจะชอบ หรือไม่ชอบ iOS7แต่การออกแบบโดยรวมก็ยังเป็นมาสเตอร์พีช ที่มีสไตล์ เพียบพร้อมไปด้วยฟังก์ชั่น และโดดเด่นกว่าผู้ค้ารายอื่นในตลาดเดียวกัน” Cult of Mac
“สำหรับกลยุทธ์ระยะยาว และการเปลี่ยนแปลงของ Microsoft ในช่วงแรกผู้ใช้อาจยังไม่ชิน ไม่สะดวกสบาย เราหวังว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า สิ่งที่เราตัดสินใจวันนี้ จะไม่ทำให้เราผิดหวัง” Jacob Miller จาก Windows UI Designer
มูลค่าของแบรนด์ในปัจจุบัน
• Apple มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 760 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ในเดือนเมษายน 2015)
• Google มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 382 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ในเดือนเมษายน 2015)
• Microsoft มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 398 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ในเดือนเมษายน 2015)
คำถามคือ แล้วในสามแบรนด์นี้ แบรนด์ไหนจะชนะสงครามการออกแบบ ในขณะที่ปัจจุบัน มูลค่าตามราคาตลาด ก็ยังเป็นข้อบ่งชี้ได้แล้ว แบรนด์ไหนที่ประสบความสำเร็จ