สมาคมโฆษณาดิจิทัล(ประเทศไทย) ร่วมกับ ทีเอ็นเอส บริษัทวิจัยชั้นนำเผยผลสำรวจมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลของปี 2559 ซึ่งเก็บข้อมูลจาก 24 เอเยนซี่ชั้นนำ โดยผลสำรวจพบว่าเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลในปีนี้มูลค่ารวมกว่า 9,883ล้านบาท เติบโตขึ้น22% จากปี 2558 ผลสำรวจช่วงครึ่งแรกของปี 2559มีการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลไปแล้วกว่า 4,732ล้านบาท และคาดว่างบใช้จ่ายผ่านสื่อดิจิทัลในช่วงครึ่งปีหลังจะขยายตัวได้มากกว่าช่วงครึ่งปีแรก
ในปี 2559 นี้ ประเภทกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มใช้งบโฆษณาลงกับสื่อดิจิทัลมากที่สุด คือ กลุ่มยานยนต์ 1,011 ล้านบาท ซึ่งขยับแซงหน้ากลุ่มสื่อสารซึ่งเป็นผู้นำมาโดยตลอด ตามด้วยกลุ่มเครื่องประทินผิว 974 ล้านบาท ในขณะที่กลุ่มสื่อสาร ซึ่งเคยเป็นอันดับ1ปรับลดการใช้มาอยู่อันดับ 3 มูลค่า 915 ล้านบาท ตามด้วยกลุ่มเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ 627 ล้านบาท และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม 529 ล้านบาท ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มใช้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลเพิ่มในมูลค่าสูงที่สุดเทียบจากปี 2558 คือ กลุ่มเครื่องประทินผิว ซึ่งใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 379 ล้านบาท
ผลสำรวจยังระบุด้วยว่าโฆษณาในรูปแบบเฟซบุ๊ก(Facebook) ยังคงเป็นประเภทของการใช้สื่อออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยครองส่วนแบ่ง 29% จากงบโฆษณาทั้งหมด และมียอดการใช้เพิ่มขึ้นถึง49% จากปี 2558 รองลงมาคือวีดีโอออนไลน์ที่ครองส่วนแบ่ง 17% ส่วนไลน์(LINE) มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง131% จากปี 2558 ในขณะที่ดิสเพลส์ (Display) มียอดการใช้ลดลงจากปีที่ผ่านมา 2%
ทั้งนี้อุปสรรคที่เอเยนซี่มองว่าทำให้ลูกค้ายังไม่ใช้เงินกับโฆษณาดิจิทัลในสัดส่วนที่มากอย่างที่ควรจะเป็นนั้น เกิดจากความยังไม่เข้าใจสื่อดิจิทัลมากพอ และผลสำรวจพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะใช้งบโฆษณาดิจิทัลเพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค
นพ.ศุภชัย ปาจริยานนท์ นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า สื่อโฆษณาดิจิทัลยังเติบโตอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับยอดผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและโซเชียลเน็ทเวิร์คที่เพิ่มขึ้นแบรนด์ต่างๆมีการกำหนดวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงการสร้างความรู้และสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคเท่านั้น แต่รวมไปถึงการสร้างยอดขายผ่านอีคอมเมิร์ซและการเพิ่มจำนวนลูกค้าเป้าหมาย (Lead Generation) ผ่านสื่ิอดิจิทัล ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นอีกว่า เครื่องมือสำหรับนักการตลาดที่สำคัญในอนาคตอันใกล้ได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Analytic) และ โซเซียล ลิสเทนนิ่ง (Social Listenting) ซึ่งล้วนแล้วแต่จะช่วยทำให้การใช้สื่อดิจิทัลมีประสิทธิภาพสูงสุด
คุณนรสิทธ์ สิทธิเวชวิจิตร อุปนายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล(ประเทศไทย) ชี้แจงเพิ่มว่าจากการสำรวจในปีนี้ของทางสมาคม เห็นได้ชัดเจนว่า สื่อดิจิทัลได้ก้าวขึ้นมาเป็น สื่อหลักเทียบเคียงกับสื่อโทรทัศน์ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้เม็ดเงินโฆษณากับสื่อโทรทัศน์เป็นหลัก อย่าง ผลิตภัณท์บำรุงเส้นผม เครื่องประทินผิว ยานยนต์ และ เครื่องดื่มไร้แอลกอออล์ มีการเพิ่มขึ้นของ สื่อออนไลน์วีดีโอมากที่สุด ส่วนสื่อที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในทุกช่วงอายุอย่าง ไลน์ (LINE) ก็มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งชี้ให้เห็นว่า นักการตลาดเมืองไทยมีความเร็วของปรับเปลี่ยนสื่อ ให้ตรงกับ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
คุณกิตติ เศรษฐวีรวัฒน์ ผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยี และดิจิทัล ทีเอ็นเอส ไทยแลนด์หัวหน้าโครงการสำรวจฯกล่าวว่าข้อมูลงบประมาณและการใช้จ่ายด้านสื่อต่างๆ เป็นข้อมูลที่สำคัญต่อนักการตลาด และนักโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในการตัดสินใจทางธุรกิจ ซึ่งในปัจจุบันสื่อดิจิทัลมีบทบาทต่อผู้บริโภคในการสร้างการรับรู้ต่อตราสินค้า/บริการ และต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการเป็นอย่างมาก โดยในช่วงห้าปีที่ผ่านมา (ภายหลังการเข้ามา และได้รับความนิยมของ Smart Phone ในประเทศไทย) การบริโภคสื่อ Traditional Media ของผู้บริโภคได้แบ่งสัดส่วนการบริโภคให้กับสื่อ Digital Media เพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ ในขณะที่ข้อมูลการใช้จ่ายและงบประมาณด้านสื่อ Digital Media มีอยู่อย่างจำกัด และกระจัดกระจาย ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งในการสำรวจปีนี้ได้จัดทำขึ้นในมิติที่หลากหลายอาทิการลงรายละเอียดในข้อมูลเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย แพลทฟอร์ม อย่าง Facebook, Display, YouTube และ LINEโดยเฉพาะเป็นต้น ในรูปแบบของรายงานและข้อมูลดิบผู้สนใจรายงานฉบับเต็มพร้อมด้วยข้อมูลดิบสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tnsglobal.com/thailand-digital-ad-spend-report