เชื่อว่าดิจิตอลมาร์เก็ตเตอร์หลายคนกำลังคว้านหาความลับดำมืดของพฤติกรรมผู้บริโภคบนโลกอินเตอร์อย่างสุดกำลัง ซึ่งยิ่งค้นก็ยิ่งมึนเพราะมีการเปลี่่ยนแปลงเร็วชั่วอึดใจ วันนี้ เว็บไซค์ buffer จึงลองรวบรวมผลการศึกษาทำทำกับชาวอเมริกันถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการโพสต์เนื้อหาบน Twitter และ Facebook พบสถิติ 7 อย่างที่น่าสนใจและจะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มยอดวิวบนเพจคุณอย่างได้ผล เผื่อจะเป็นแนวทางช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้น
1. คนจะตอบสนองกับโพสต์ที่มีรูปภาพมากขึ้น 39%
รูปภาพทำให้ผู้คนอยาก take action บนโพสต์ของคุณมากขึ้น 39% เมื่อเทียบกับโพสต์ที่ใส่เพียง link, videos หรือมีเพียงข่าวสารอัพเดท ขณะที่จากสถิติพบว่าโพสต์มีรูปภาพจะได้รับการกด like มากขึ้น 53% มี comment มากขึ้น 104% และมีคนคลิกไปอ่าน link ต่อเพิ่มขึ้น 84% โดยรูปภาพที่บริษัทเป็นคนถ่ายเองจะได้ผลมากที่สุด
ขณะที่ Wishpond เว็บไซค์ซึ่งศึกษาเรื่องการตลาดบนโซเชียลเนคเวิร์กเช่นกันระบุว่า โพสต์ที่มีรูปภาพจะมีคนติดตามเพิ่ม 120% ขณะที่หากรวบรวมเป็นอัลบั้มจะมีคนติดตามเพิ่ม 180% ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า การจัดเก็บภาพในหมวดหมู่เดียวกันเข้าเป็นอัลบั้มจะทำให้ประสิทธิภาพการโฆษณาดีขึ้น มากกว่าการโพสต์ภาพแยกทีละภาพ
2. โพสต์ที่สั้นจะมีคนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น 23%
การเขียนข้อความให้สั้นไม่ใช่ได้ผลกับ Twitter เท่านั้น แต่จากการศึกษาพบว่าโพสต์ที่มีตัวอักษรต่ำกว่า 250 ตัวอักษรจะมีคนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น 60% ขณะที่หากสั้นกว่า 80 ตัวอักษรจะมีคนมาร่วมมากขึ้น 66% ฉะนั้นการเขียนแบบ Right to the point หรือตรงประเด็นน่าจะเป็นกลยุทธ์พีอาร์ที่ดีอย่างหนึ่ง
3. การใส่สัญลักษณ์ emoticons ช่วยเพิ่มคอมเมนต์ได้กว่า 33%
คิดผิดซะแล้วถ้าเห็นว่า emoticons เป็นของไว้ให้วัยรุ่นเล่นสนุกกัน เพราะจากการสำรวจของ Amex Open Forum infographic พบว่า โพสต์ที่มี emoticon จะได้คอมเมนต์เพิ่ม 33% แชร์เพิ่ม 33% และได้ยอดไลค์เพิ่มขึ้น 57% อีกด้วย โดยนักวิจัยคาดว่าการใส่ emoticon ช่วยให้โพสต์ของคุณดู “เป็นมนุษย์” มากขึ้น และทำให้เข้าถึงผู้บริโภคง่ายขึ้น
4. ยอดมีส่วนร่วมในวัยพฤหัสบดีและวันศุกร์จะเพิ่มขึ้น 18%
ต้องขอเตือนไว้ก่อนว่าหัวข้อนี้อาจเปลี่ยนไปตามบริบทของสังคม แต่จากการสำรวจคนอเมริกันของ Buddymedia พบว่าคนจะเล่น Facebook มากขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์กว่า 18% เหตุผลง่ายๆ เพราะพวกเขาเริ่มอ่อนล้าจากการทำงานมาทั้งสัปดาห์และใจลอยไปหาวันหยุดสุดสัปดาห์ซะแล้ว ส่วนวันจันทร์หรืออังคารแทบไม่มีใครสนใจโพสต์เลย
โดยการสำรวจนี้ทำให้หลายวงการ ทั้งวงการกีฬา ค้าปลีก ยานยนต์ และสุขภาพ
5. คำถามจะมีคอมเมนต์เพิ่มขึ้น 100%
Kissmetric ยืนยันว่ากลยุทธ์ที่ช่วยเรียก comment จากผู้อ่านได้อย่างแน่นอนก็คือการตั้งคำถาม (ก็แหงล่ะ) โดยเพิ่มขึ้นกว่า 100% มากกว่าโพสต์ที่มีข้อความอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม โพสต์คำถามจะได้ like และ share ต่ำกว่าโพสต์ชนิดอื่นจึงเป็นข้อควรระวัง
ด้านคำที่น่าเอามาตั้งเป็นคำถามคือคำถามที่ขึ้นต้องด้วย “ควรจะ” “อันไหน” และ “ใคร” เนื่องจากคำถามปลายปิดที่ไม่ได้ต้องการความคิดเห็นยาวเหยียดนั้นจะกระตุ้นให้คนเข้ามาตอบมากขึ้นเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกหรือไม่ ขณะที่คำถามประเภท “ทำไม” และ “อย่างไร” จะได้รับความนิยมน้อยกว่า
6. ผู้ใช้กว่า 35% ยอมรับว่าเข้าไปคลิก like แฟนเพจของบริษัทเพื่อร่วมสนุกในกิจกรรมต่างๆ
หากเพจของคุณมีคนติดตามน้อย ลองจัด contest แจกของรางวัลไม่อั้น จะช่วยเพิ่ม traffic ได้ไม่ยาก เนื่องจากคนโดยทั่วไปจะปฏิเสธการเชิญชวนคลิกเพจธรรมดาที่ตัวเองไม่มีผลประโยชน์ร่วมด้วย (ยกเว้นกรณีสนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการอยู่ก่อนหน้าแล้ว) ขณะที่หากเป็น contest ประเภท “จงบรรยายภาพต่อไปนี้” จะมีคนเข้ามาคอมเมนต์เพิ่มกว่า 5.5 เท่า หากคิดไม่ออกว่าอยากใส่คำว่าอะไรลงใน contest ลองคำว่า “ผู้ชนะ” “ชนะ” “การแข่งขัน” และ “ลุ้นรางวัลและโปรโมชั่นสุดพิเศษ” ดูสิ เนื่องจากการสำรวจพบว่าคนจะรู้สึกตอบสนองกับคำประเภทนี้มาก
7. กว่า 42% ของผู้ใช้กดติดตามแฟนเพจเพราะต้องการคูปองส่วนลด
การสำรวจของ Socially Stacked บอกเราว่า คนจะติดตามแฟนเพจเรามากขึ้น 42% หากมีส่วนลดมาล่อ โดยหากเป็นส่วนลดประเภทคูปองจะได้ผลมากที่สุด ของแถมและการชิงโชคได้ผลรองลงมา
แล้วคุณในฐานะมาร์เก็ตเตอร์เห็นอะไรในช่วง 2-3 เดือนมานี้บ้างล่ะ? แชร์ให้เราฟังกัน