ถอดบทเรียน CrowdStrike เมื่อธุรกิจมั่นใจจนไม่มีแผนสำรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

  • 2
  •  
  •  
  •  
  •  

กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตระดับโลก เมื่อ CrowdStrike อัปเดตซอฟท์แวร์ล้มเหลวจนทำให้ระบบทั้งหมดล่ม ปัญหาก็ดูไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากมาย ติดอยู่แค่ว่ามันดันไปเกิดขึ้นกับ Microsoft บริษัทซอฟท์แวร์ระดับโลกที่มีธุรกิจใช้บริการทั่วโลก แถมธุรกิจและองค์กรที่ใช้ล้วนแต่อยู่ในส่วนงานที่มีความสำคัญอย่างมาก เช่น ระบบสาธารณสุข ระบบการบิน ระบบ Cybersecurity เป็นต้น

แม้ทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ก็กลายเป็นบทเรียนที่สำคัญของหลายธุรกิจ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นว่า ธุรกิจใหญ่ระดับโลกต้องมีมาตรการทุกอย่างรองรับอย่างรัดกุม ส่งผลให้หลายธุรกิจไม่ได้มีการเตรียมรับมือเหตุฉุกเฉิน เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญ ที่ไม่ควรพึ่งพาหรือไว้ใจกับความเชื่อมั่นระดับโลก แต่ธุรกิจควรต้องมีแผนสำรองเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

นักวิชาการด้านเทคโนโลยีชี้ว่า บทเรียนครั้งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญเพราะในอนาคตที่จะมาถึง เทคโนโลยีจะต้องเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่อีกครั้งนับตั้งแต่ช่วงเข้าสู่สหัสวรรษหรือ Y2K โดยคาดการณ์กันว่า เทคโนโลยีจะเผชิญปัญหา Millennium Bug หรือ ปัญหา 2038 ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ถึง 14 ปีข้างหน้า โดยระบบนับเวลาของเทคโนโลยีจะสิ้นสุดลงในปี 2038

มีการีคาดการณ์กันว่า เทคโนโลยีทั้งหมดจะดับและหยุดทำงานลงเหมือนที่เกิดขึ้นกับ Microsoft และ CrowdStrike ซึ่งธุรกิจที่มีการเตรียมการรับมือ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านเทคโนโลยีอีกด้วย

ย้อน Timeline สถานการณ์

– 18 กรกฎาคม 2024 เวลาค่ำ ศูนย์ 911 และบริการขนส่งหลายแห่งในสหรัฐฯ หยุดชะงัก

– 18 กรกฎาคม 2024 เวลากลางดึก สายการบินหลายสายถูกระงับการบิน

– 19 กรกฎาคม 2024  เวลาเช้ามืด CrowdStrike รับทราบปัญหาและทำการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่

– 19 กรกฎาคม 2024 – เวลาเช้า ระบบปฏิบัติการ Windows บนอุปกรณ์หลายชนิดไม่สามารถทำงานได้ ระบบธนาคารเริ่มล่ม

– 19 กรกฎาคม 2024 – เวลาสาย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเริ่มเข้าตรวจสอบและดำเนินการแก้ไข

– 19 กรกฎาคม 2024 – เวลาเที่ยง ปัญหาขยายวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อหลายธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะ สายการบิน ธนาคาร สาธารณสุข

– 19 กรกฎาคม 2024 – เวลาบ่าย George Kurtz ซีอีโอของ CrowdStrike ออกมากล่าวขอโทษผ่านสื่อสังคมออนไลน์

– 19 กรกฎาคม 2024 – เวลาช่วงเย็น Microsoft ระงับการอัปเดตซอฟต์แวร์และกลับไปใช้เวอร์ชันก่อนหน้าเพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างปกติ

– 19 กรกฎาคม 2024 – เวลาค่ำ ระบบเริ่มกลับมาใช้งานได้บางส่วน

– 20 กรกฎาคม 2024 – เวลาเช้า George Kurtz ออกแถลงการณ์ปัญหาส่วนใหญ่ได้ถูกแก้ไขแล้ว และกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เหลือ

บทสรุปของเรื่องนี้คือการที่ธุรกิจต้องมีแผนสำรอง รวมถึงอย่าเชื่อมั่นสถานการณ์ฉุกเฉินจะไม่มีวันเกิดขึ้น ดังนั้นการเตรียมการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินจึงเป็นสิ่งสำคัญ และควรมีระบบสำรองกรณีที่ระบบหลักมีปัญหาจะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง

Source: ReutersCNN


  • 2
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา