ทำความรู้จัก TEMU ยักษ์อีคอมเมิร์ชจีนถล่มไทย SME จะปรับตัวอย่างไรผ่านมุมมอง 2 กูรูอีคอมเมิร์ช

  • 47
  •  
  •  
  •  
  •  

กลายเป็นกระแสที่ต้องจับตา หลัง TEMU อีคอมเมิร์ชจีนเดินทางไปยึดตลาดได้ทั้ง สหรัฐฯ และยุโรป ภายในช่วงระยะเวลาเพียงปีเดียว แถมล่าสุด TEMU เข้ามาสู่ตลาดไทยเป็นแห่งที่ 3 ในอาเซียน หลังบุกตลาดไปที่ฟิลิปปินส์และมาเลเซีย จนมีการคาดการณ์ว่านี่จะเป็นสงครามราคาครั้งใหม่ของอีคอมเมิร์ช และจะเป็นสงครามราคาที่รุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ จนอาจทำให้ผู้ประกอบการไทยล้มหายตายจากไปอีกจำนวนไม่น้อย

 

ทำความรู้จัก TEMU และ Model Business

TEMU เป็นมาร์เก็ตเพลสที่เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาที่บอสตัน แมสซาชูเซตส์ เมื่อปี 2022 โดยเป็นส่วนหนึ่งของ PDD Holdings ซึ่งเป็นบริษัทแม่เดียวกับ Pinduoduo ที่มีฐานอยู่ในประเทศจีน จุดเด่นของ TEMU คือการนำเสนอสินค้าที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นของใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า ซึ่งมีราคาที่ถูกมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขายสินค้าตรงจากโรงงานในจีน โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ส่งผลให้ราคาลดลงกว่า 90%

ด้วยรูปแบบการทำธุรกิจของ TEMU ที่ช่วยให้สามารถขายสินค้าได้ราคาถูกมากและเข้าถึงผู้บริโภคมาจาก

  • การเป็นตัวกลางระหว่าง โรงงานผู้ผลิตจากจีนถึงผู้บริโภคทำให้ได้ราคาหน้าโรงงาน
  • การใช้โปรโมชั่นแบบจัดหนัก จัดเต็ม ยิ่งทำให้ราคาถูกลงมากขึ้นอีกหรือช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่ามาก
  • การจัดส่งสินค้าที่เน้นความรวดเร็ว โดยเน้นจัดส่งฟรี หากสินค้ามีปัญหาส่งคืนฟรีแถมเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่
  • ค่าธรรมเนียมต่ำ ทำให้สามารถควบคุมราคาให้ต่ำลงได้
  • มีการจัดเก็บ Data เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ซื้อ

การเติบโตของ TEMU ในปี 2023 เป็นไปอย่างรวดเร็วมาก มียอดขายสินค้ารวมถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนในสหรัฐฯ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการนำเสนอรหัสส่วนลด และการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า จนทำให้การเติบโตของ TEMU รวดเร็วอย่างมาก และส่งผลกระทบต่ออีคอมเมิร์ชในสหรัฐฯ แม้แต่แบรนด์ใหญ่อย่าง Amazon ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

ในปี 2023 TEMU ยังได้ขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศยุโรป โดยเริ่มจากประเทศอังกฤษ เยอรมัน และฝรั่งเศส เช่นกันยังคงมีการทำการตลาดเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าเช่นเดียวกับสหรัฐฯ ส่งผลให้ยอดดาวน์โหลดและการใช้งานเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการเติบโตที่รวดเร็วอย่างมาก ทำให้หลายประเทศเริ่มกังวลต่อการเติบโตของ TEMU ที่อาจจะทำลายระบบการค้าเดิมที่มีอยู่

 

TEMU มาไทยจะเกิดอะไรขึ้น ?

จากการพูดคุยกับ 2 ผู้เชี่ยวชาญ คุณป้อม-ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ และ คุณไว-ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา จาก Priceza ในเรื่องการเข้ามาของ TEMU ซึ่งทั้ง 2 ท่านเห็นตรงกันว่า SME ไทยจะได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ที่สำคัญจะเกิดสงครามราคา (Pricing War) ระลอกใหม่ที่จะมาลดราคาแข่งกับเจ้าตลาดเดิมที่มีอยู่อย่าง LAZADA และ Shopee รวมถึงกลุ่ม Social Commerce อย่าง TikTok, Facebook เป็นต้น

จากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ในปี 2566 ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยมีมูลค่าตลาดราว 6.34 แสนล้านบาท คาดว่าในปี 2567 มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยจะแจะที่ระดับ 6.94 แสนล้านบาท และปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยสูงถึง 7.50 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่า คนไทยใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซซื้อสินค้าและบริการสูงถึง 66.90%

โดย คุณไว Priceza ให้ความเห็นชัดเจนว่า “การที่ TEMU เข้ามาประเทศไทยจะส่งผลให้สินค้าจีนเข้ามาทุ่มตลาดอีกระลอก เนื่องจาก TEMU เป็นรูปแบบขายสินค้าตรงจากโรงงานที่จีน ทำให้มีราคาถูกมากและจะเข้ามาทุบตลาด Cross Border ทำให้เกิดการแข่งขันด้านสงครามราคาหรือ Pricing War ซึ่งก่อนหน้านี้สินค้าจีนที่ว่าถูกแล้ว ครั้งนี้จะมีราคาถูกยิ่งกว่าเดิม”

ด้าน คุณป้อม ภาวุธ เห็นคล้ายกันว่า “ตลาดอีคอมเมิร์ชหลัง TEMU เข้ามาก็จะแข่งขันด้านราคา เพราะแบรนด์หลังๆ ที่เข้ามาไทยจะได้เปรียบ เนื่องจากแบรนด์แรกๆ อย่าง LAZADA ที่เข้ามากว่า 10 ปีใช้เงินมหาศาลในการสร้างตลาดเหมือนเป็นการปูทางไว้เกิดเป็น Price Sensitive ยิ่งเมื่อ TEMU เน้นขายสินค้าจากโรงงานที่จีนทำให้ราคาถูกลงมาก ยิ่งส่งผลให้สงครามราคารุนแรงมากขึ้น”

 

SME ไทยไม่รอดสงครามครั้งนี้

สำหรับ คุณไว Priceza มองว่า ผลกระทบจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกคือสินค้าแบรนด์ ซึ่งอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบในระยะเวลาอันสั้นนี้ แต่สิ่งที่น่าจะกระทบหนักจะเป็นสินค้าที่ไม่มีแบรนด์หรือ Unbrand ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่เน้นราคาถูกเป็นหลัก ไม่ต้องมีแบรนด์สามารถใช้งานได้ ซื้อได้แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ซึ่งตรงกับแนวคิดการขายของ TEMU

แต่ในระยะยาวผู้ประกอบการที่เป็นสินค้าแบรนด์อาจจะต้องเตรียมปรับตัวเพื่อรับมือ เพราะมันจะมีมันเหลื่อมล้ำกันอยู่ในด้านการนำเข้าแบบ Cross Border เนื่องจากกฎหมายเอื้อให้สินค้าที่นำเข้ามาไทยมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาทไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงในการที่สินค้าจีนจะล้นทะลักเข้ามาเมืองไทย แล้วจะส่งผลต่อสินค้าแบรนด์

ขณะที่ คุณป้อม ภาวุธ เห็นคล้ายๆ กันว่า ตลาดอีคอมเมิร์ชแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกต้องการซื้อสินค้าก็จะเข้ามาร์เก็ตเพลสอย่าง LAZADA และ Shopee ซึ่ง TEMU จะเข้ามาชนกับส่วนนี้เต็มๆ อีกส่วนคือกลุ่ม Social Commerce ที่ไถฟีดไปเจอแล้วซื้อโดยที่ยังไม่ต้องการ ส่วนนี้มีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันเมื่อไถฟีดเจอสิ่งที่น่าสนใจจะแวบไปดูที่มาร์เก็ตเพลสเพื่อเช็คราคาว่าที่ไหนถูกกว่า

ดังนั้นผู้ประกอบไทยที่อยู่ใน 4 พื้นที่อีคอมเมิร์ชได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของ TEMU แน่นอน ทั้งมาร์เก็ตเพลสและ Social Commerce รวมถึงผู้ประกอบการที่อยู่กลุ่ม Food Delivery ที่เริ่มมีการนำสินค้าเข้ามาขาย โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันและกลุ่มที่เป็นแบรนด์ขายผ่านเว็บไซต์ของแบรนด์เอง หนีผลกระทบนี้ไม่ได้

 

SME และ Supply Chain จะรับมืออย่างไร ?

ทั้ง 2 ท่านยังเห็นเหมือนกันว่า ผู้ประกอบการไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้เลย เรียกว่าเป็นสถานการณ์ที่ต้องรับมือด้วยภาครัฐเท่านั้น หากจะให้ผู้ประกอบการไทยอยู่รอดได้ เพราะสินค้าที่อยู่ใน TEMU จะเป็นสินค้าจีนส่งตรงจากโรงงานในจีน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่ไทย แต่สหรัฐฯ และยุโรปที่ TEMU ไปมาแล้ว ยังต้องหามาตรการออกมาเพื่อป้องกันการทะลักเข้ามาจองสินค้าจีน

ซึ่ง คุณไว Priceza เห็นว่า ภาษีนำเข้าคือด่านแรกที่ภาครัฐต้องเข้ามาดูแล ปัจจุบันกฎหมายอนุญาตให้นำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาทโดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ขณะที่ผู้ประกอบการไทยเสียภาษีทุกด้านทำให้ต้นทุนสูงกว่าและไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ ผู้ประกอบการไทยจึงจำเป็นต้องสร้างแบรนด์ แต่ในระยะยาวสินค้าแบรนด์ก็มีโอกาสได้รับผลกระทบ เพราะสุดท้ายแล้วถ้าผู้บริโภคเจอของถูกมาก บางทีผู้บริโภคก็จะลองใช้สินค้าราคาถูกซึ่งสามารถใช้ได้เหมือนกัน

ด้าน คุณป้อม ภาวุธ มองว่า ผลกระทบที่น่ากังวลที่สุด นอกจากจะกระทบผู้ประกอบการที่ขายของในแพลตฟอร์มแล้ว จะลามเข้าไปถึง Supply Chain ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิต ไปจนถึงบริษัทขนส่งต่างๆ เนื่องจากสไตล์การทำธุรกิจของจีนจะเข้ามาควบคุมต้นทุนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งการสร้างระบบชำระเงินเอง ระบบขนส่งเอง ระบบคลังสินค้าเอง แต่ช่วงแรกอาจจะใช้ Supply Chain ในประเทศก่อนแล้วค่อยๆ ลงทุนเองทีหลัง

 

เห็นได้ชัดว่าในมุมมองผู้บริโภค การเข้ามาของ TEMU คือทางเลือกใหม่ที่ให้ผู้บริโภคที่สินค้าที่หลากหลายและราคาถูกลง แต่ในแง่ผู้ประกอบการแล้ว TEMU ไม่ต่างไปจาก Alien Species ที่เข้ามายึดครองพื้นที่และขับไล่เจ้าของถิ่นเดิมออกไป ผลกระทบในช่วงแรกผู้บริโภคอาจไม่รู้สึกและในระยะยาวสินค้าจีนจะเข้ามากลืนสินค้าไทย ซึ่งทุกคนก็ทราบอยู่แล้วว่าสินค้าจีนส่วนใหญ่คุณภาพเป็นอย่างไร

นั่นทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวกันครั้งใหญ่อีกระลอก และต้องขอความร่วมมือจากภาครัฐช่วยอีกทาง

ก่อนที่จะสายเกินไป!


  • 47
  •  
  •  
  •  
  •  
Gigolo
เมื่อเทคโนโลยีอยู่ใกล้กับชีวิตทุกคน มารู้เท่าทันเทคโนโลยีเพื่อใช้มัน แต่อย่าให้เทคโนโลยีมันใช้เรา