ตลาดความงามโลกเริ่มฟื้นตัว ลอรีอัล กรุ๊ป เติบโต 20.7% ในครึ่งปีแรก

  • 253
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ลอรีอัล กรุ๊ป ได้รายงานผลการดำเนินงานรอบครึ่งปีแรกของปี 2564 โดยเติบโตขึ้น 20.7%[1] ในสถานการณ์
โควิด-19 ที่ยังไม่มีความแน่นอน ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามภาพรวมมีการฟื้นตัวขึ้นทีละน้อย และมีอัตราการเติบโตในเลขสองหลัก โดยลอรีอัล กรุ๊ป สามารถครองส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้นในทุกแผนกและในทุกภูมิภาค และมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นกว่าตลาดอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในไตรมาส 2 ที่ บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง และสามารถหวนคืนสู่อัตราการเติบโตในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด โดยเติบโตขึ้น 6.6% เทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2562 และเพิ่มขึ้น 8.4% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2562

 

 

ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของบริษัทฯ ทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถดึงดูด รวมทั้งสร้างและรักษากลุ่มลูกค้า รวมทั้งพันธมิตร โดยช่องทางอี-คอมเมิร์ซเติบโตในระดับปานกลางที่ 29.2%1เนื่องจากช่องทางร้านค้าปลีกสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ ยอดขายอี-คอมเมิร์ซคิดเป็นสัดส่วน 27.3%[2] ของยอดขายทั้งหมด ขณะที่กลุ่มค้าปลีกท่องเที่ยวนั้น ได้ฟื้นตัวขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยของการเดินทางระหว่างประเทศ และความสำเร็จในตลาดไหหลำ

 

 

ขณะเดียวกัน การมีส่วนร่วมทางสังคมและสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นภารกิจหลักของลอรีอัล กรุ๊ป โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวแคมเปญของ ลอรีอัล กรุ๊ป เป็นครั้งแรกทั่วโลก เพื่อให้ลูกค้า ผู้ถือหุ้น รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจทั้งหมด ได้รับทราบถึงการดำเนินงานต่างๆ ที่ภายใต้จุดมุ่งหมายในการ “สร้างสรรค์ความงามที่ขับเคลื่อนโลกใบนี้” พร้อมกันนี้ ยังได้มีการเปิดตัว “L’Oréal For Youth” ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกที่มีจุดประสงค์ เพื่อส่งเสริมการจ้างงานเยาวชนด้วยการเพิ่มโอกาสในการทำงานสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ให้เพิ่มสูงขึ้นอีก 30%

นายนิโคลา ฮิโรนิมุส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลอรีอัล กล่าวว่า “ลอรีอัล กรุ๊ป เติบโตอย่างแข็งแกร่งได้อีกครั้งในช่วงครึ่งปีแรก และมีความพร้อมที่จะเติบโตต่อไปในอัตราการขยายตัวระดับเดียวกับช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤติ ด้วยการใช้เทคโนโลยี data และ AI เพื่อก้าวขึ้นเป็นบริษัท Beauty Tech โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เราจะใช้แผนกลยุทธ์การเปิดตัวผลิตภัณฑ์แบบเชิงรุกของเรา พร้อมกันนี้ก็จะลงทุนในปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเติบโตที่เกี่ยวข้อง เพื่อกระตุ้นการขยายตัวในอนาคต และความต้องการในแบรนด์ต่าง ๆ ของเรา เรามีความมั่นใจมากกว่าที่เคยในความสามารถที่จะเติบโตธุรกิจในอัตราสูงกว่าตลาด และทำให้ปีนี้เป็นปีที่ประสบความสำเร็จในการเติบโตยอดขายและผลประกอบการ”

 

[1] เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว: อิงตามขอบเขตของทั้งกลุ่มที่เปรียบเทียบได้ และอัตราแลกเปลี่ยนคงที่

[2] ยอดขายที่เกิดขึ้นผ่านเว็บไซต์ของแบรนด์ + ยอดขายประมาณการณ์ที่แบรนด์ทำได้ ซึ่งสอดคล้องกับยอดขายผ่านเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซของร้านค้าปลีกของเรา (ข้อมูลที่ยังไม่สอบบัญชี)


  • 253
  •  
  •  
  •  
  •