คว้าโอกาศทองในตลาด “AI” ยังไง ให้ถูกหลัก Sustainability branding สรุปจาก “AI Masterclass” โดย IBM แบรนด์เทคฯระดับโลก

คงประจักษ์กันแล้ว ว่า “AI” ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นเครื่องมือสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้ธุรกิจ ใครนำไปใช้ก่อน ย่อมได้เปรียบ แต่ประเด็นสำคัญตอนนี้คือการใช้ AI อย่างมีคุณภาพ ต้องมาคู่กับความรับผิดชอบด้วย “พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง” (With great power comes great responsibility) ประโยคนี้คุ้น ๆ มั้ย? 

ดังนั้นการสร้างความน่าเชื่อถือจึงเป็นเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ในยุคดิจิทัล ความโปร่งใส การใส่ใจความเป็นส่วนตัว และการใช้อย่างมีจริยธรรมล้วนเป็นกุญแจสร้างความไว้วางใจให้แบรนด์ เราควรใช้ AI เพื่อเสริมพลังให้สังคม นี่แหละการสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับแบรนด์ เพื่อสร้าง Sustainability branding อย่างยั่งยืนที่แท้จริง 

 

AI พุ่งทะยานในอาเซียน = โอกาสทองของเรา? 

“IBM AI Master Class” ที่เพิ่งจัดผ่านออนไลน์ไปไม่นานนี้ เน้นย้ำเรื่องการขับเคลื่อนนวัตกรรมผ่านการใช้เทคโนโลยี AI อย่างมีความรับผิดชอบเป็นพิเศษ เหมาะเป็นแนวทางที่รัฐบาลหรือองค์กรในอาเซียนควรนำไปใช้ และเหตุผลที่ทาง IBM เน้นย้ำไม่ให้ลืมคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและจริยธรรม เป็นเพราะว่าตลาด AI กำลังบูมจริง ๆ 

ตลาดของ AI นั้นมีแนวโน้มที่จะพุ่งทยานไปถึง 134 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2025 และยังมีการคาดการณ์ว่าจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกมหาศาล หรือประมาณ 16 ล้านล้านเหรียญฯ ภายในปี 2030 ส่วนศักยภาพของ AI ในการเปลี่ยนโฉมธุรกิจนั้นคงคงทราบกันดีด้วยทั่วแล้ว 

ที่สำคัญกว่านั้นคือกลุ่มอาเซียน (ASEAN) ของเรามีแววเป็นผู้เล่นหลักในสมรภูมินี้ โดยเฉพาะในตลาด Generative AI ซึ่งจะเติบโตแบบก้าวกระโดดปีละ 24.4% จากปี 2023-2030 และนอกจากนี้ ประเทศอย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม หรือฟิลิปปินส์ ล้วนมีความพร้อมในการใช้ AI เกินค่าเฉลี่ยโลกด้วยซ้ำ 

ถ้าไม่ใช่โอกาสทองของเราชาวอาเซียน แล้วจะเรียกว่าอะไร? 

 

ความท้าทายย่อมมาพร้อมโอกาส

แน่นอนว่าการก้าวสู่การใช้ AI ในเชิงธุรกิจย่อมมีอุปสรรค อย่างเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ความแม่นยำ การอธิบายให้ลูกค้าหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าใจได้ง่าย ๆ หรือแม้กระทั่งการป้องกัน “อคติ” ที่อาจแฝงอยู่ในอัลกอริทึมของ AI นี่คือปัจจัยหลักที่องค์กรจะพลาดไม่ได้ ดังนั้นหากคิดจะใช้ AI ให้ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องมีกรอบแนวคิดด้าน AI และธรรมาภิบาลที่ดี หากขาดสิ่งนี้ ธุรกิจก็อาจดึงศักยภาพของ AI มาใช้ได้ไม่เต็มที่ แถมความเสี่ยงในการลงทุนก็จะสูงขึ้นด้วย

เพื่อลดความเสี่ยง ภาครัฐและเอกชนอาเซียนจึงมีบทบาทสำคัญ ควรคุยเรื่อง AI เพราะนี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะเน้นให้เห็นความสำคัญของการร่วมมือเพื่อผลักดันให้ใช้ AI อย่างรับผิดชอบ และการที่อาเซียนเพิ่งเปิดตัวกรอบแนวคิดด้าน AI ไปหมาด ๆ เป็นสัญญาณว่าเรากำลังรุกสร้างแนวทางที่จะทำให้มั่นใจว่า AI ถูกนำมาใช้อย่างถูกต้อง และให้ความสำคัญกับจริยธรรม  

แคทเธอรีน เลียน กรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหารส่วนงานเทคโนโลยี ไอบีเอ็ม อาเซียน ได้ย้ำในจุดนี้ว่า

“องค์กรต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลลัพธ์ที่จะได้รับจากการลงทุนกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงเรื่องของความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ความถูกต้องของข้อมูล ความสามารถในการอธิบายที่มาของการคำแนะนำของ AI รวมถึงอคติของข้อมูล Responsible AI and AI governance จะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จในการนำ AI ไปใช้ในองค์กร”

 

ใช้ AI เสริมสร้างธุรกิจ ต้องอย่าลืมใส่ใจสังคม

พูดง่าย ๆ ก็คือ การที่จะใช้ AI สร้างประโยชน์อย่างแท้จริงได้ ต้องให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมด้วย ไม่ใช่แค่ต่อบริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่เพียงไม่กี่ราย ภายใน IBM AI Master Class เน้นว่าต้องสร้างกรอบความร่วมมือเพื่อให้ประเทศในอาเซียนมีความพร้อมในการใช้ AI อย่างรับผิดชอบร่วมกัน  เพราะเราต่างมีระดับการพัฒนา AI ที่ต่างกัน  

การที่ทุกประเทศร่วมมือกันแบบนี้ จะเป็นวิธีสร้างพลังให้สังคม และสิ่งที่จะได้จากตรงนี้ คือการเติบโตของเศรษฐกิจที่มั่นคง ซึ่งทางสตีเฟน เบรม รองประธาน งานภาครัฐและการกำกับดูแล ไอบีเอ็มเอเชียแปซิฟิค ได้กล่าวไว้ว่า

“กลุ่มประชากรของอาเซียนมีความแตกต่างโดดเด่นจากที่อื่นในโลก เพราะเป็นกลุ่มที่ยังอายุไม่มาก มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีเป็นอย่างดี มีการนำไอทีมาใช้ค่อนข้างสูง โฟกัสเรื่องนวัตกรรมมากๆ และมีคอมมิวนิตี้ของนักนวัตกรรมไอทีที่เข้มแข็งมาก ที่ไอบีเอ็มได้ร่วมทำงานด้วย ประชากรส่วนใหญ่กำลังใช้ AI จากโทรศัพท์ของพวกเขา แพลตฟอร์มหลักๆ เกี่ยวกับดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันหรือแพลตฟอร์มที่ส่งมอบบริการต่างๆ ของภาครัฐก็มี AI ช่วยสนับสนุน ถือได้ว่า AI เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สำคัญมากของอาเซียน”

 

อนาคตที่สดใสกับ AI ในอาเซียน

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นภาพอนาคตอันสดใสของ AI ในอาเซียน การมุ่งเน้นการใช้ AI อย่างรับผิดชอบและมีธรรมาภิบาล จะเป็นแนวทางให้เราสร้างนวัตกรรมผ่าน AI ควบคู่ไปกับความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจจากผู้บริโภค สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เสริมความสามารถในการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังทำให้มั่นใจด้วยว่า AI จะเป็นเครื่องมือที่ธุรกิจใช้สร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อทุกภาคส่วนของสังคม 

นี่แหละจะเป็นการสร้างแบรนด์ที่มั่นคงและยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน!