โลกเปลี่ยนไปยังไง? เมื่อโปรแกรม Ad Block บูม!

  • 2
  •  
  •  
  •  
  •  

2016-04-13_13-01-08

ที่มาของภาพ

โปรแกรม Ad block ไม่ใช่ของใหม่ ข้อมูลจาก ComScore บอก 1 ใน 10 ของผู้ใช้คอมพีซีในอเมริกาใช้โปรแกรมบล็อกโฆษณา ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าสถิติของไทยก็ไม่น่าจะต่างกัน

เพราะใครๆ ก็ไม่ชอบให้โฆษณาจากเว็บขายของมาตามหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลาที่ใช้คอมฯ และมือถือ

สิ่งที่น่าสนใจเมื่อโปรแกรม Ad Block บูม! คือ คนทำสื่อ ทำเนื้อหา และทำเบราว์เซอร์ จะต้องปรับตัวยังไงกับอิทธิพลของ Ad Block เพราะมันนำมาซึ่งความเสียหายในด้านรายได้อย่างชัดเจน วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันเลย!

Business Model ใหม่ของเว็บคอนเท้นต์ หลังยุค Ad Block

เหตุผลที่คนใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันโฆษณา 1.ทำให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น 2. ไม่ต้องการให้มีอะไรมากวนสายตา

สำหรับนิตยสารและเว็บไซต์ที่รายงานข่าวด้านเทคโนโลยีอย่าง Wired แน่นอนว่ากลุ่มผู้อ่านก็คือพวก Geek ฉะนั้น 1 ใน 5 ของพวกเขาก็ลงโปรแกรมบล็อกโฆษณาในเบราว์เซอร์ด้วย

การผลักภาระให้กับ “นักอ่าน” โดยสื่อมองว่าพวกเขาต้องแสดงความรับผิดชอบต่อ “การอยู่รอด” ของสื่อด้วยการจ่ายเงินค่าอ่านเนื้อหาบนเว็บ โดย Wired เก็บเดือนละ 150 อ่านเนื้อหาโดยไม่มีโฆษณามากวนใจ หรือหากใครไม่อยากจ่ายค่าอ่าน ชอบอ่านฟรีตลอดไป ก็ต้องไปถอดโปรแกรม Ad Block ซะ!

และล่าสุด หลายเว็บก็หันมาใช้มาตรการที่จริงจังขึ้นอีก ด้วยการสร้าง Pay Wall ขึ้นมาเลย กล่าวคือ หากอ่านวันละ 1-3 ข่าวจะฟรี แต่มากกว่านั้นต้องสมัครสมาชิก!

สำหรับเมืองไทย ผู้เขียนมองว่าปัญหาการจ่ายเงินค่าอ่านอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ หากข้อมูลเป็น Exclusive จริงๆ แต่ปัญหาก็คือ ข่าวทุกวันนี้จะหาแบบ Exclusive ยาก คนไม่ค่อยมีเวลาอ่านบทความเจาะลึก ชอบให้คนสรุปให้ ดังนั้น การจ่ายเงินซื้อเนื้อหาอาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่ตลาดใหญ่ต้องการ

Brave เบราว์เซอร์น้องใหม่ ทำทั้งซอฟต์แวร์ บล็อกโฆษณาคนอื่น แต่ขายโฆษณาของตัวเอง

2016-04-13_12-37-42

หลังจาก Ad Block เกิดอิทธิพลมาก คนเก่าในวงการอย่างทีมงานเก่าจาก Mozilla ผู้สร้างเบราว์เซอร์ Firefox ก็ออกมาทำเบราว์เซอร์ยี่ห้อใหม่ ชื่อว่า Brave 

Brave ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ ทั้งพีซีและมือถือ โดยคุณสมบัติเด่นที่สุดคือ บล็อกโฆษณา  (ของ ad network รายอื่นๆ ปัจจุบัน ที่ไม่ใช่แค่ภาพโฆษณา ยังแอบติด  Tracking Pixels and Tracking Cookies มาทำให้เปิดเว็บช้าลงไปอีก) และติดตามผลการเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ ได้

เป้าหมายของการสร้าง Brave คือ การแทนที่โฆษณาที่มาจาก Ad network อื่นๆ ด้วยระบบ Ad network ของ Brave เอง โดยเขาเคลมว่าจะช่วยลูกค้าให้ข้อมูลไม่รั่วไหล และโหลดได้เร็วขึ้น

2016-04-13_12-56-33

โมเดลการค้าของ Brave คือ หากคนใช้งานเลือกดูโฆษณา ทาง Brave ได้ 15% และเจ้าของเว็บไซต์นั้นๆ จะได้ 55% ส่วนที่เหลืออีก 30% จะแบ่งให้พันธมิตรเอเจนซี่ที่เลือกลงโฆษณากับ Brave และอีกครึ่งก็เข้ากระเป๋า Brave อีกตามเคย

2016-04-13_13-02-27

สำหรับสถานการณ์ของ Brave เบราว์เซอร์น้องใหม่ก็ยังไม่สู้ดี เพราะคนทำคอนเท้นต์มองไม่เห็นความต่างว่ามันจะดีกว่าตรงไหน เนื่องจากรายได้อาจจะถูกลดทอนให้น้อยลง เพราะไปผูกติดกับระบบโฆษณาของ Brave เท่านั้น (ซึ่งหากยอดคนใช้ Brave ไม่เยอะ ก็ไม่มีเอเจนซี่รายไหนอยากจะมาลงโฆษณากับที่นี่ ปัญหาแบบไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน)

สำหรับคุณเอง หากสนใจอยากรู้ว่า Brave ทำงานยังไงก็เข้าไปโหลดมาใช้ได้ที่นี่ 

ดูวิดีโอโชว์การโหลดเร็วสุดขีดของเบราว์เซอร์ Brave บนมือถือไอโฟนได้ที่นี่

httpv://youtu.be/kHWf6hRV-GM


  • 2
  •  
  •  
  •  
  •  
mengxi
เพราะชอบหลบร้อนไปพักที่ห้องสมุดวารสารฯ เป้าหมายคือหยิบหนังสือ One show เล่มโตมาปราดดูโฆษณาเจ๋งๆ จากทั่วโลก เลยมาถึงวันนี้...วันที่เป็นคอลัมน์นิสต์และบล็อกเกอร์มานับทศวรรษ แต่ก็ยังสนุกกับการนำกรณีศึกษาใหม่ๆ ล้ำๆ ของวงการโฆษณา ทั้ง Offiline, Online, Mobile มาแบ่งปันกับคนคอเดียวกัน!