ตอนนี้วีดีโอสตรีมมิ่ง เป็นตลาดที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการมีผู้เล่นรายใหม่(แถมเป็นรายใหญ่) กระโดดเข้ามาในธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสองบริษัทวิจัยชั้นนำอย่าง ‘มิลเลียน อินไซต์ส’ (Million Insights) และ ‘แกรนด์ วิว รีเสิร์ช’ (Grand View Research) ก็ได้ออกมาประเมินว่า ตลาดวีดีโอสตรีมมิ่งจะมีมูลค่าตลาดแตะ 184,300 ล้านดอลลาร์ หรือ ราว 5.71 ล้านล้านบาท ในปี 2563-2570
ขณะที่ปีมูลค่าตลาดวิดีโอสตรีมมิงทั่วโลกในปี 2562 อยู่ที่ 42,600 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.32 ล้านล้านบาท มีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 20.4% และระหว่างปี 2563-2570 จะมีมูลค่าถึง 184,300 ล้านดอลลาร์ หรือ ราว 5.71 ล้านล้านบาท ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้กับวิดีโอสตรีมมิงและการใช้ AI ในการปรับปรุงคุณภาพวิดีโอ
การที่ผู้บริโภคเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในราคาถูกได้ง่ายขึ้น , ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของวิดีโอสตรีมมิงออนดีมานด์, การที่พื้นที่ชนบทในหลายประเทศมีอัตราเข้าถึงสมาร์ทโฟน เพื่อรับชมวิดีโอสตรีมมิงออนไลน์ได้มากขึ้น , การใช้โซลูชั่นแบบวิดีโอสตรีมมิงที่เชื่อมกับระบบคลาวด์ที่ทำให้สามารถเข้าถึงคอนเทนท์วิดีโอได้มากขึ้น ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นต่อการเติบโตของตลาดนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความสูง เช่น 3G, 4G และ LTE ซึ่งการที่ผู้บริโภคหันมาใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่มากขึ้น ก็ถือเป็นประโยชน์ต่อตลาดนี้ เพราะทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงคอนเทนท์วิดีโอสตรีมมิงได้ในทุกที่ทั่วโลก
รายงานยังระบุอีกว่า ภูมิภาคที่เป็นตลาดขนาดใหญ่สุดสำหรับวิดีโอสตรีมมิง ได้แก่ “เอเชียแปซิฟิก” และ “อเมริกาเหนือ” เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่บริการประเภทโอทีที (OTT) ได้รับความนิยมมากขึ้น สะท้อนให้เห็นจากจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นระดับ
ขณะที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางสองบริษัทวิจัยได้ชี้ว่า ส่งผลเชิงบวกต่อการเติบโตของตลาดสตรีมมิงโลกอันมีผลมาจากการล็อกดาวน์ในหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก ทำให้ความต้องการมีการเสพสื่อบันเทิงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยผู้ให้บริการสตรีมมิงรายใหญ่ที่มียอดเข้าชมสูงขึ้นอย่างมากทั่วโลกช่วงปิดเมือง อาทิ เน็ตฟลิกซ์ , อเมซอน ไพรม์ วิดีโอ , ยูทูป และ ดิสนีย์ พลัส
ที่มา : millioninsights
